หลังนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมาบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา หลังการชุมนุมเยาวชนปลดแอกและข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คดีข้อหานี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ดูสถิติคดีเท่าที่ทราบข้อมูล) ในปี 2565-66 ศาลได้ทยอยมีคำพิพากษาในแต่ละคดีออกมาเป็นระยะ
ตารางข้อมูลต่อไปนี้รวบรวมผลคำพิพากษาในคดีมาตรา 112 เท่าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนติดตามข้อมูล เฉพาะคดีที่เกิดขึ้นนับแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา ทั้งนี้ผลของคดีเหล่านี้ ยังไม่ถึงที่สุด หลายคดีมีการอุทธรณ์และฎีกาคำพิพากษาต่อไป
ทั้งนี้ ยังมีในส่วนคดีของเด็กและเยาวชนที่ถูกกล่าวหาด้วยมาตรา 112 จำนวนอย่างน้อย 4 คดี ที่ศาลเยาวชนฯ มีคำสั่งให้เข้ามาตรการพิเศษแทนมีคำพิพากษา
** เท่าที่ทราบข้อมูล จนถึงวันที่ 14 มี.ค. 2566
.
คดีที่จำเลยต่อสู้คดี และศาลมีคำพิพากษา จำนวน 29 คดี
ลำดับ | ชื่อคดี/เหตุแห่งคดี | วันที่พิพากษา | ผลคำพิพากษาโดยสรุป |
1 | คดีจรัส คอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์เศรษฐกิจพอเพียง | 30 พ.ย. 2564 (ศาลจังหวัดจันทบุรี) 22 พ.ย. 2565 (ศาลอุทธรณ์ภาค 2) | ศาลพิพากษายกฟ้องเฉพาะข้อหา ม.112 เห็นว่าองค์ประกอบ ม.112 คุ้มครองเฉพาะพระมหากษัตริย์ที่ยังทรงครองราชย์อยู่เท่านั้น แต่ลงโทษในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (1) เห็นว่าข้อความกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชนทั่วไป พิพากษาจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับเงิน 26,666.66 บาท แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 2 กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 112 เนื่องจากแม้กระทำต่อกษัตริย์ที่สวรรคตไปแล้ว ก็กระทบองค์ปัจจุบัน ลงโทษจำคุก 3 ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี |
2 | คดีนรินทร์ แปะสติกเกอร์ “กูkult” คาดตาบนรูปรัชกาลที่ 10 | 4 มี.ค. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการแสดงว่ามีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าพระมหากษัตริย์ เป็นการลบหลู่ ดูหมิ่น แม้ไม่ได้เป็นการกระทำต่อตัวกษัตริย์โดยตรง แต่ก็แปลความหมายได้ในลักษณะเดียวกัน พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษจำคุก 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา |
3 | คดีอิศเรศ อุดานนท์ โพสต์กรณียังไม่แต่งตั้งกษัตริย์ใหม่ หลังการสวรรคต | 16 มี.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนครพนม) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ข้อความที่จำเลยโพสต์ไม่ได้แสดงความอาฆาตมาดร้าย มิได้ระบุถึงบุคคลที่ถูกดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทให้รู้ได้แน่นอนว่าเป็นใคร อีกทั้ง ม.112 ไม่บัญญัติถึงสถาบันกษัตริย์ พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังลงโทษจำเลยได้ และเมื่อไม่ผิด ม.112 จึงไม่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ |
4 | คดี “วุฒิภัทร” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ 3 จำเลยกรณีสวรรคต ร.8 | 25 มี.ค. 2565 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษายกฟ้องเฉพาะข้อหา ม.112 เห็นว่าองค์ประกอบ ม.112 คุ้มครองเฉพาะพระมหากษัตริย์ที่ยังทรงครองราชย์อยู่เท่านั้น แต่ลงโทษในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (1) เห็นว่าข้อความกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชนทั่วไป พิพากษาจำคุก 1 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา |
5 | คดีสมบัติ ทองย้อย โพสต์ “เก่งมาก กล้ามาก ขอบใจ” และข้อความกล่าวถึงการทำตัวใกล้ชิดประชาชน | 28 เม.ย. 2565 (ศาลอาญากรุงเทพใต้) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 จำนวน 2 กรรม เห็นว่าข้อความเป็นสิ่งที่ไม่บังควร มีลักษณะเป็นการจาบจ้วง และชี้ให้เห็นถึงเจตนาของจําเลยที่ต้องการจะดูถูก ด้อยค่าพระมหากษัตริย์ อันเข้าลักษณะเป็นการดูหมิ่นแล้ว พิพากษาจําคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา |
6 | คดีมีชัย โพสต์วิจารณ์การใช้ภาษีของสถาบันกษัตริย์ | 18 ก.ค. 2565 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 เห็นว่าข้อความที่โพสต์เป็นความเท็จ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ มีเจตนาลดเกียรติและดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา |
7 | คดีอุดม โพสต์ข้อความรวม 7 ข้อความ | 26 ก.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนราธิวาส) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 ใน 2 ข้อความ ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวมโทษจำคุก 6 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือโทษจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่ศาลเห็นว่า ม.112 คุ้มครองเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน ทำให้ข้อความตามฟ้องใน 4 ข้อความ ไม่ครบองค์ประกอบ ขณะที่อีก 1 ข้อความ โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าหมายถึงบุคคลใด |
8 | คดี “กัลยา” โพสต์ข้อความ 2 กระทง | 2 ส.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนราธิวาส) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 ในทั้ง 2 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวมโทษจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา |
9 | คดีปริญญา ชีวินกุลปฐม หรือ “พอร์ท ไฟเย็น” โพสต์ข้อความ 3 ข้อความ | 15 ส.ค. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 ทั้ง 3 ข้อความ จำคุกกระทงละ 3 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกรวม 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา |
10 | คดี “นิว” จตุพร แซ่อึง แต่งชุดไทยเดินแฟชั่นโชว์บนถนนสีลม ในม็อบ29ตุลา63 | 12 ก.ย. 2565 (ศาลอาญากรุงเทพใต้) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 ลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เห็นว่าจำเลยมีการแสดงตนเป็นราชินี ในเชิงล้อเลียนเสียดสี ก่อให้เกิดความตลกขบขัน เป็นการไม่แสดงความเคารพต่อสถาบันกษัตริย์ อันเป็นกระทำที่ไม่บังควร |
11 | คดีทิวากร วิถีตน ถ่ายรูปสวมเสื้อ “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” พสต์ลงเฟซบุ๊ก รวมถึงโพสต์เรียกร้องให้สถาบันกษัตริย์ยุติการใช้มาตรา 112 และปล่อย 4 แกนนำราษฎร | 29 ก.ย. 2565 (ศาลจังหวัดขอนแก่น) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าข้อความของจำเลยไม่ได้ระบุให้รู้ได้โดยแน่นอนว่าเป็นองค์พระมหากษัตริย์องค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ ขึ้นกับการตีความของบุคคล และสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ใช่องค์ประกอบความผิดตามมาตรา 112 พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีไม่พอที่จะลงโทษจำเลยในทุกข้อหาได้ |
12 | คดี “วารี” นำภาพจากทวิตเกี่ยวกับการเลือกปกป้องกษัตริย์ของตำรวจ มาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก รวมถึงการโพสต์รูปการ์ตูนล้อเลียนตำรวจในคอมเมนต์ และการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ประยุทธ์ที่สั่งปิดกั้นเพลงของ R.A.D | 6 ต.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนราธิวาส) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าพยานโจทก์ยังไม่พอให้เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้นำเข้าโพสต์ดังกล่าว มีเพียงผู้กล่าวหาคนเดียวที่เบิกความว่าจำเลยโพสต์ แต่กลับเบิกความถึงการเห็นโพสต์แตกต่างกัน อีกทั้งภาพที่นำมาแจ้งความก็ไม่ปรากฏ URL ประกอบการคำเบิกความของพยานจำเลยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งสองเห็นว่า ภาพมีการตัดต่อมา |
13 | คดีภัคภิญญา แชร์ข้อความจากเพจทางการเมืองต่างๆ รวม 6 ข้อความ | 19 ต.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนราธิวาส) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 รวม 3 ข้อความ จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 9 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนอีก 3 ข้อความให้ยกฟ้อง |
14 | คดีพิพัทธ์ โพสต์ภาพรัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรฯ พร้อมใส่ข้อความแทรกบนภาพ 2 ประโยค ในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” | 26 ต.ค. 2565 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าหลักฐานที่ผู้กล่าวหานำมาแจ้งความ เป็นการแคปภาพหน้าจอ ไม่ใช่สิ่งพิมพ์จากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง พยานหลักฐานของโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์มีจุดเริ่มต้น และปลายทางส่งข้อมูลเป็นอย่างไร หมายเลขประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์คืออะไร ซึ่งเป็นข้อมูลระบุตัวตนสำคัญ จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัย |
15 | คดีธนกร ปราศรัยในการชุมนุม 6 ธ.ค. 2563 ที่วงเวียนใหญ่ | 22 พ.ย. 2565 (ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง) | ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 112 แม้คำปราศรัยจะไม่ได้มีการกล่าวถึงพระนามของกษัตริย์พระองค์ใด แต่เห็นว่ามาตรา 112 ไม่ได้คุ้มครองแค่กษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แต่คุ้มครองทั้งสถาบันกษัตริย์ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ ม.142 (1) เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นคุมประพฤติ นำตัวไปฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน กำหนดขั้นต่ำ 1 ปี 6 เดือน ขั้นสูงไม่เกิน 3 ปี |
16 | คดีพรชัย วิมลศุภวงศ์ ไลฟ์สดและโพสต์ข้อความ รวม 3 โพสต์ | 15 ธ.ค. 2565 (ศาลจังหวัดยะลา) | ศาลเห็นว่าจำเลยโพสต์คลิปวิดีโอมีเนื้อหาสื่อถึงรัชกาลที่ 10 ที่วางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย เห็นว่าเป็นการดูหมิ่น จาบจ้วง ตามมาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือ 2 ปี ส่วนข้อความอีก 2 โพสต์ พยานหลักฐานโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ จึงยกฟ้อง |
17 | คดี “ชัยชนะ” ผู้ป่วยจิตเวช ถูกกล่าวหาโพสต์ข้อความ 4 โพสต์ | 21 ธ.ค. 2565 (ศาลจังหวัดนราธิวาส) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใช้งานหรือเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กตามฟ้อง ขณะที่จำเลยถูกจับกุม ตำรวจได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของจำเลยมาตรวจสอบด้วย แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการเข้าใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กที่ถูกกล่าวหา อีกทั้ง จำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดมา ประกอบกับจำเลยมีอาการทางจิต จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย |
18 | คดีธนกร ปราศรัยในการชุมนุม 10 ก.ย. 2563 ที่ท่าน้ำนนทบุรี | 22 ธ.ค. 2565 (ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี) | ศาลเห็นว่าถ้อยคำปราศรัยของจำเลยเป็นการกล่าวหาที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง และเกิดความเข้าใจผิดต่อพระมหากษัตริย์ เห็นว่าจำเลยมีความผิดตาม ม.112 แต่ขณะเกิดเหตุมีอายุ 17 ปีเศษ เห็นควรลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน เพื่อให้การแก้ไขบำบัดฟื้นฟูจำเลยเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ จึงรอการลงโทษจำคุก 2 ปี และให้กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับความประพฤติ |
19 | คดีสิทธิโชค เศรษฐเศวต ถูกกล่าวหาว่าราดของเหลวคล้ายน้ำมันลงที่ฐานพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10-ราชินี ในระหว่างการชุมนุม 18 ก.ค. 2564 | 17 ม.ค. 2566 (ศาลอาญา) | ศาลเห็นว่าจำเลยบีบของเหลวสีม่วงใส่ผ้าประดับซุ้มฯ ไฟก็ลุกพรึบขึ้นมา น่าเชื่อว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือวัตถุไวไฟบางชนิด ที่จำเลยเบิกความว่าต้องการช่วยดับไฟนั้น เป็นการเบิกความลอยๆ พยานโจทก์ยังเบิกความว่าพระบรมฉายาลักษณ์มีค่าเท่าตัวบุคคล มีไว้กราบไหว้และเป็นที่เคารพสักการะ การกระทำของจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 112 และจำคุกอีก 6 เดือน ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุกรวม 2 ปี 4 เดือน |
20 | คดีของ “ไลลา” ปลดพระบรมฉายาลักษณ์ระหว่างการชุมนุมในมธ.ลำปาง วันที่ 17 ต.ค. 2563 | 17 ม.ค. 2566 (ศาลจังหวัดลำปาง) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฏอย่างชัดเจนว่าจำเลยได้ร่วมกันกระทำตามฟ้อง คดีจึงมีเหตุอันควรสงสัยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ทั้งนี้คดีนี้ มีคู่คดีเป็นนักศึกษาอีกรายหนึ่ง ได้ให้การรับสารภาพไปก่อน และศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี ลดโทษครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน และเนื่องจากจำเลยยังมีสถานะเป็นนักศึกษา ไม่เคยกระทำผิดมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี |
21 | คดีของ “นคร” แชร์โพสต์ข้อความ 2 โพสต์ | 25 ม.ค. 2566 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ พิสูจน์ไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริง จึงต้องยกประโยชน์ความสงสัย |
22-23 | คดีของมงคล ถิระโคตร พิจารณาร่วมกันสองคดี ได้แก่ คดีโพสต์เฟซบุ๊ก 25 ข้อความ และ 2 ข้อความ | 26 ม.ค. 2566 (ศาลจังหวัดเชียงราย) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดใน 14 กรรม ที่เป็นข้อความเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10 และยกฟ้องอีก 13 กรรม ที่เป็นข้อความเกี่ยวกับอดีตกษัตริย์หรือไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ พิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้เหลือกระทงละ 2 ปี รวมโทษจำคุก 28 ปี |
24 | คดีแขวนป้ายผ้า “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19” ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 | 31 ม.ค. 2566 (ศาลจังหวัดลำปาง) | ศาลพิพากษายกฟ้อง เห็นว่าข้อความในป้ายไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 112 ไม่ได้ระบุว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แต่ลงโทษปรับเฉพาะจำเลยที่ 1 ในข้อหาตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ |
25 | คดี “นิว” สิริชัย นาถึง พ่นสีสเปรย์ข้อความ “ยกเลิก 112 และ “ภาษีกู” บนรูปพระราชวงศ์บริเวณย่านคลองหลวง | 15 ก.พ. 2566 (ศาลจังหวัดธัญบุรี) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้อง เห็นว่าแม้ไม่ได้พ่นข้อความบนพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 แต่การพ่นบนรูปภาพของสมาชิกราชวงศ์ ย่อมส่งผลกระทบต่อรัชกาลที่ 10 เป็นการกระทำที่ด้อยค่าและทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสีย ลงโทษตามมาตรา 112 จำคุก 3 ปี ฐานทำให้เสียทรัพย์ จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 6,000 บาท รวม 5 กระทง เป็นจำคุก 10 เดือน ปรับ 30,000 บาท และกรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ลงโทษปรับ 1,177 บาท รวมโทษจำคุก 3 ปี 10 เดือน ปรับ 31,177 บาท แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และจำเลยยังเป็นนักศึกษาอยู่ โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี |
26 | คดีสุรีมาศ แชร์ลิงก์คลิปผู้ทำพิธีขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง’ | 20 ก.พ. 2566 (ศาลจังหวัดกระบี่) | ศาลพิพากษายกฟ้อง เห็นว่าจำเลยมีพยานเบิกความให้เห็นว่าหากไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มส่วนตัว ก็จะปรากฏเห็นเพียงภาพหน้าปกของกลุ่มส่วนตัว การที่จะเห็นลิงก์ตามโพสต์ต้นทางได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อน โดยพยานทำคลิปจำลองสถานการณ์อย่างละเอียด เป็นลำดับขั้นตอน มีน้ำหนัก และน่าเชื่อถือ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยมีความชำนาญในการใช้เฟซบุ๊กถึงขนาดที่จะทราบสถานการณ์ดังกล่าวได้ กรณีจึงมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย |
27 | คดีของ “ต้นไม้” กรณีจัดจำหน่ายปฏิทินตั้งโต๊ะ รูปเป็ดเหลือง ประจำปี 2564 ในเพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” | 7 มี.ค. 2566 (ศาลอาญาตลิ่งชัน) | ศาลลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความในทำนองเดียวกันว่าภาพเป็ดในปฏิทินสื่อถึงรัชกาลที่ 10 เป็นการด้อยค่า หมิ่นประมาท สร้างความเสื่อมเสียศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ ขณะที่จำเลยได้มีส่วนในการกระทำความผิดร่วมกัน และหากไม่เห็นเนื้อหาในปฏิทินก็ต้องเห็นหน้าปกที่มีข้อความว่า ‘ปฏิทินพระราชทาน’ ขณะที่พยานจำเลยเบิกความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น |
28 | คดีพรชัย วิมลศุภวงศ์ โพสต์ข้อความ รวม 4 โพสต์ | 13 มี.ค. 2566 (ศาลจังหวัดเชียงใหม่) | ศาลเห็นว่าที่จำเลยอ้างว่าบัญชีเฟซบุ๊กถูกโจรกรรมเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีพยานหลักฐาน จึงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความ ลงโทษตามมาตรา 112 ที่เป็นบทหนักสุด จำคุกกรรมละ 3 ปี รวม 4 กรรม รวมจำคุก 12 ปี |
29 | คดีของ “ใจ” ทวีตรูปภาพและข้อความเกี่ยวกับรัชกาลที่ 9 | 14 มี.ค. 2566 (ศาลอาญา) | ศาลเห็นว่ามาตรา 112 ไม่ได้บัญญัติว่าคุ้มครองเฉพาะกษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่เท่านั้น และแม้จะสวรรคตไปแล้ว ก็ยังมีความผิด เนื่องจากข้อความดังกล่าวกระทบต่อรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นพระราชโอรส และทรงขึ้นครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน |
.
คดีที่จำเลยรับสารภาพ และศาลมีคำพิพากษา จำนวน 16 คดี
ลำดับ | ชื่อคดี/เหตุแห่งคดี | วันที่พิพากษา | ผลคำพิพากษาโดยสรุป |
1 | คดี “ปุญญพัฒน์” โพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความ ในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส” | 20 มิ.ย. 2565 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ม.112 มีลักษณะใส่ร้าย ใส่ความและเป็นเท็จ เจตนาจาบจ้วงล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ทำให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 12 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือจำคุก 4 ปี 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา |
2 | คดีชลสิทธิ์ แชร์สตอรี่เฟซบุ๊กภาพคล้าย ร.10 | 1 ส.ค. 2565 (ศาลจังหวัดกันทรลักษ์) | ศาลพิพากษาให้รอกำหนดโทษ 2 ปี เห็นว่าจากรายงานการสืบ เสาะ ไม่พบจำเลยเคยทำผิดมาก่อน ขณะโพสต์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อน-หลังถูกดำเนินคดีไม่มีพฤติการณ์เช่นที่ถูกฟ้อง จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลย |
3 | คดี “พลทหารเมธิน” กล่าวถ้อยคำพาดพิงกษัตริย์ระหว่างถกเถียงกับคู่กรณีที่ขับรถเฉี่ยวชน | 11 ส.ค. 2565 (ศาลทหารกรุงเทพ) | ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี จำเลยให้รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน เห็นว่าไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษและรอการลงโทษ โดยได้พิพากษาลงโทษสถานเบาแล้ว |
4 | คดี “บุญลือ” คอมเมนต์โต้ตอบกันกับผู้อื่นเกี่ยวกับลักษณะที่ดีของกษัตริย์ และความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันฯ | 22 ก.ย. 2565 (ศาลจังหวัดพังงา) | ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน เห็นว่าจำเลยกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อตักเตือนก็ยินยอมลบข้อความ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ในทางการเมืองหรือหวังผลอย่างอื่นใด จึงให้โอกาสได้แก้ไข ฟื้นฟู และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมประพฤติไว้กำหนด 1 ปี ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง และทำกิจกรรมบริการสังคม 12 ชั่วโมง |
5 | คดี “อัปสร” แชร์โพสต์ข้อความของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ วิจารณ์ราชวงศ์ไทย | 26 ก.ย. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี จำเลยกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประกอบกับไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี ให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี กับให้คุมความประพฤติจำเลย โดยให้จำเลยไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ภายในกำหนด 2 ปี |
6 | คดี “ณชา” คอมเมนต์ในโพสต์ข้อความในกลุ่มรอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส | 7 พ.ย. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือ 1 ปี 6 เดือน พิเคราะห์แล้วจำเลยไม่เคยรับโทษมาก่อน ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนครั้ง ภายใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง ริบโทรศัพท์ที่เป็นของกลาง |
7 | คดีสุทธิเทพ โพสต์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ประชดกลุ่มรักสถาบันฯ | 8 พ.ย. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 1 ปี 6 เดือน เห็นว่าการกระทำของจำเลยทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา พฤติการณ์กระทำความผิดเป็นเรื่องร้ายแรง กรณีไม่สมควรรอการลงโทษ |
8 | คดีพิทักษ์พงษ์ โพสต์ข้อความพาดพิงถึงความประพฤติของกษัตริย์ | 21 พ.ย. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน เห็นว่าจำเลยกระทำความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ |
9 | คดี “ปณิธาน” คอมเมนต์ในโพสต์ข้อความในกลุ่มรอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส | 24 พ.ย. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี จากรายงานการสืบเสาะจำเลยประกอบอาชีพสุจริต ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ต้องเลี้ยงดูครอบครัว แต่การกระทำของจำเลยทำให้กษัตริย์เสื่อมเสียเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เป็นความผิดร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษ |
10 | คดี “โจ” แชร์โพสต์จากเพจเยาวชนปลดแอก | 29 พ.ย. 2565 (ศาลจังหวัดลำปาง) | ศาลพิพากษาให้รอกำหนดโทษ 2 ปี โดยพิจารณาถึงพฤติการณ์ของจำเลย ประวัติส่วนตัว โดยที่จำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน |
11 | คดีพิทยุตม์ วางเพลิงรูปรัชกาลที่ 10 ที่อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี | 29 พ.ย. 2565 (ศาลจังหวัดอุดรธานี) | ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี คุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง |
12 | คดีพนิดา พ่นสีใต้พระบรมฉายาลักษณ์ในเมืองพัทยา 2 จุด | 14 ธ.ค. 2565 (ศาลจังหวัดพัทยา) | ศาลพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง พร้อมทั้งให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง |
13 | คดีอุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล โพสต์เฟซบุ๊ก 5 ข้อความ | 21 ธ.ค. 2565 (ศาลอาญา) | ศาลพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุก 5 ปี 30 เดือน แม้จำเลยจะไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน แต่การกระทำของจำเลยถือเป็นความร้ายแรง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และดูหมิ่นเกลียดชังสถาบันฯ กรณีจึงยังไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ |
14 | คดีธัญดล แชร์โพสต์จากเพจ “KonthaiUK” 2 ข้อความ | 27 ธ.ค. 2565 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน แต่เห็นว่าจำเลยสำนึกผิด ประกอบกับไม่เคยกระทำผิดมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 3 ปี และให้คุมประพฤติ 3 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง |
15 | คดีธนพร คอมเมนต์ท้ายโพสต์ของเพจที่เผยแพร่ภาพตัดต่อรัชกาลที่ 8 และ 9 | 17 ก.พ. 2565 (ศาลอาญาตลิ่งชัน) 14 ก.พ. 2566 (ศาลอุทธรณ์) | ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ให้การรับสารภาพลดโทษเหลือ 2 ปี เห็นว่าจำเลยประกอบอาชีพสุจริต มีครอบครัวที่ห่วงใยที่น่าจะเหนี่ยวรั้งห้ามปรามไม่ให้เกิดการกระทำความผิดลักษณะเดียวกันอีก จำเลยให้การรับสารภาพด้วยตนเองแสดงถึงความรู้สึกความผิด โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยโดยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง และให้ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไม่ให้รอการลงโทษ เห็นว่าขณะเกิดเหตุจำเลยอายุ 21 ปีเศษ มีวุฒิภาวะเพียงพอ |
16 | คดีอุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล แชร์โพสต์เฟซบุ๊ก 1 ข้อความ ลงในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส | 16 ก.พ. 2566 (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) | ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่มีเหตุให้รอลงอาญา |
17 | คดี “เกด” และ “ยุ้ย” สองนักศึกษาชูป้ายในคาร์ม็อบ #ด่วนนครพิงค์เจียงใหม่ไล่ขึดประยุทธ์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 | 2 มี.ค. 2566 (ศาลจังหวัดเชียงใหม่) | ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อพิเคราะห์รายงานการสืบเสาะ ประกอบกับคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และยังเป็นนักศึกษาอยู่ โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี |
.