18 ม.ค. 2567 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีของ “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 30 ปี ผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กรวม 27 โพสต์ ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564
คดีนี้ บัสบาสถูกจับกุมดำเนินคดีสองครั้งภายหลังเดินทางไปนั่งอดอาหารประท้วงเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง หน้าศาลอาญาในช่วงสงกรานต์ของปี 2564 โดยมี พ.ต.ท.ปราโมทย์ บุญตันบุตร จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวหาในสองคดี ที่ถูกรวมการพิจารณาเข้าด้วยกัน
ในชั้นพิจารณา ศาลจังหวัดเชียงรายได้สั่งพิจารณาคดีนี้เป็นการลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าฟังการพิจารณา และมีช่วงการพิจารณาที่ศาลใช้การสืบพยานโดยระบบการบันทึกภาพและเสียง
หลังจากสืบพยานเสร็จสิ้น วันที่ 26 ม.ค. 2566 ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำพิพากษา โดยเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดในจำนวน 14 ข้อความ และยกฟ้องอีก 13 ข้อความ ในกรณีข้อความที่เกี่ยวกับอดีตกษัตริย์รัชกาลที่ 9 หรือข้อความที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ว่าโพสต์หมายถึงบุคคลใด และบางโพสต์แม้จะมีภาพรัชกาลที่ 10 แต่ศาลก็เห็นว่าไม่เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท ทำให้ไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 112
ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้เหลือกระทงละ 2 ปี ทั้งหมด 14 กระทง รวมโทษจำคุก 28 ปี
หลังพิพากษา ศาลชั้นต้นได้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นเลย โดยอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาประกัน แต่กำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ได้แก่ ห้ามกระทำการที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คดี และอัยการโจทก์ก็ได้ยื่นอุทธรณ์เช่นกัน โดยขอให้ลงโทษในกระทงที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องทั้งหมด โดยทราบในภายหลังว่าศาลได้ส่งหมายแจ้งการยื่นอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านซึ่งจำเลยไม่ได้อาศัยอยู่ ทำให้ไม่เห็นหมายแจ้งอุทธรณ์ของโจทก์
.
วันนี้ มงคล พร้อมเพื่อนและครอบครัว เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยปรากฏว่าลิฟท์ของศาลจังหวัดเชียงรายเสีย ทำให้พ่อและแม่ของมงคล ซึ่งอายุมากแล้ว ไม่สามารถเดินขึ้นบันไดไปฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาในชั้น 4 ได้ ต้องรออยู่ด้านล่าง
ศาลจังหวัดเชียงรายเริ่มอ่านคำพิพากษา โดยสรุปศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้วินิจฉัยในประเด็นอุทธรณ์ของจำเลย โดยเห็นว่าศาลไม่อาจยึดถือตามคำยืนยันของจำเลย หรือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิชาการทางกฎหมายที่ฝ่ายโจทก์และจำเลยนำเข้าสืบเป็นหลักในการวินิจฉัย แต่ต้องรับฟังและพิจารณาความคิดเห็นนั้นประกอบการวินิจฉัยชี้ขาด
การกระทำของจำเลยในส่วนของการโพสต์ 14 ข้อความ ดังกล่าว ศาลเห็นว่าสามารถใช้ความรู้สึกและเข้าใจของวิญญูชนทั่วไปก็เข้าใจได้ว่าจำเลยมีเจตนาอย่างไร จำเลยย่อมทราบดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ประชาชนไทยให้ความเคารพสักการะทรงเป็นประมุขของประเทศ บุคคลผู้ให้ความเคารพสักการะต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่กระทำการอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์
การที่จำเลยใช้ถ้อยคำที่จำเลยเองก็ยอมรับว่าหยาบคายลงในเฟซบุ๊ก ลงภาพการทำให้พระบรมฉายาลักษณ์เสียหาย หรือภาพล้อเลียนรูปพระพักตร์ หรือภาพที่แสดงถึงความไม่เคารพ วิญญูชนทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่าจำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความเกลียดชังต่อองค์พระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อเกียรติยศ ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเป็นการแสดงออกทางการเมืองในเชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นการล้อเลียนเชิงวิพากษ์ และไม่อาจเข้าใจว่าจะไม่ได้ทำให้พระมหากษัตริย์เสียหาย ศาลอุทธรณ์จึงเห็นว่าโพสต์ทั้ง 14 ข้อความ เป็นความผิดตามฟ้องของโจทก์ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนในประเด็นอุทธรณ์ของโจทก์นั้น ศาลเห็นว่าการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าความผิดตามมาตรา 112 นั้นต้องเป็นการกระทำต่อพระมหากษัตริย์และพระราชินีในรัชกาลปัจจุบันเท่านั้น โดยข้อความ 9 โพสต์ของจำเลย เป็นการกล่าวถึงรัชกาลที่ 9 จึงขาดองค์ประกอบความผิด
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 6374/2556 วางหลักของความผิดตามมาตรา 112 พระมหากษัตริย์มิได้หมายความเฉพาะพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่ในขณะที่มีการกระทำความผิดเท่านั้น แต่หมายความรวมถึงพระมหากษัตริย์ที่สวรรคตไปแล้ว หรือมิได้ทรงครองราชย์ต่อไปแล้วด้วย ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้ง 9 โพสต์ ก็เป็นความผิดตามมาตรานี้ด้วย
ส่วนโพสต์ข้อความอีก 2 โพสต์ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจะหมายถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบันหรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อเข้าใจโดยชัดแจ้งว่าจำเลยได้กล่าวว่าองค์พระมหากษัตริย์ให้เสียหาย จึงเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง
แต่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องโพสต์อีก 2 ข้อความ ที่เห็นว่ามิได้สื่อความหมายให้ผู้อ่านมีความรู้สึกดูหมิ่น หรือเกลียดชังพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จึงเห็นว่าจำเลยมีความผิดในอีก 11 กระทง ที่ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษลงหนึ่งในสาม เหลือจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 22 ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุก 28 ปี ในอีก 14 กระทงก่อนหน้านี้ รวมเป็นโทษจำคุกรวม 50 ปี
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 ลงนามโดย มโน เทอดจิตธรรม, ศรชัย วรานิชสกุล และ นพคุณ ไชยเทพ
หลังฟังคำพิพากษา มงคลได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังห้องขังใต้ถุนศาล และทนายความได้ยื่นขอประกันตัวระหว่างฎีกา
ต่อมา เวลาประมาณ 11.50 น. ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอประกันตัวไปให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้
(เพิ่มเติมข้อมูล) เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดเชียงรายติดต่อให้นายประกันไปฟังคำสั่งของศาลฎีกาในวันนี้ทันที จากเดิมนัดในบ่ายวันพรุ่งนี้
ก่อนศาลจังหวัดเชียงรายอ่านคำสั่งของศาลฎีกา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลย ระบุพิจารณาคำร้องของจำเลย พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับศาลอุทธรณ์ภาค 5 ลงโทษจำคุกจำเลยถึง 50 ปี หากปล่อยชั่วคราวเชื่อได้ว่าจะหลบหนี ให้ยกคำร้อง ทำให้มงคลจะถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงรายในระหว่างชั้นฎีกา
.
ทั้งนี้ โทษจำคุกของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีนี้ นับได้ว่าเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเท่าที่ทราบข้อมูลก่อนหน้านี้ คดีที่ถูกลงโทษจำคุกสูงที่สุด คือ คดีของ “อัญชัญ” ศาลอาญาลงโทษจำคุกรวม 87 ปี จากการเผยแพร่คลิปเสียงของ “บรรพต” ดีเจผู้จัดรายการใต้ดิน จำนวน 29 กรรม โดยเธอให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุก 29 ปี 174 เดือน (คิดเป็นประมาณ 43 ปี 6 เดือน) โทษจำคุกที่ถูกลดหย่อนแล้วในกรณีของบัสบาส จึงสูงกว่าคดีของอัญชัญ
นอกจากสองคดีนี้ บัสบาสยังถูกฟ้องในคดีมาตรา 112 ที่ศาลจังหวัดเชียงรายในภายหลังอีกคดีหนึ่ง จากการโพสต์อีก 2 ข้อความ โดยในคดีที่สามนี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา
.
อ่านบันทึกการสืบพยานในคดีนี้ บันทึกจากห้องพิจารณาลับ “บัสบาส มงคล” ต่อสู้คดี ม.112 ถูกฟ้อง 27 กรรม ก่อนฟังคำพิพากษา
อ่านเรื่องราวชีวิตของบัสบาส เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112
.