ศาลพิพากษาจำคุก 18 ปี ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 6 ปี 36 เดือน “พงษ์” ในคดี 112 จากการโพสต์เฟซบุ๊ก 6 ข้อความ โดยให้รอลงอาญา

วันที่ 26 มิ.ย. 2566 เวลา 9.30 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ของ “พงษ์” (นามสมมติ) ชาวคริสเตียนวัย 60 ปี จากจังหวัดภูเก็ต กรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 6 ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ระหว่างวันที่ 11 ต.ค. ถึง 14 พ.ย. 2564 โดยเป็นโพสต์ข้อความประกอบภาพรัชกาลที่ 10 จำนวน 2 ข้อความ และเป็นโพสต์ข้อความเพียงอย่างเดียว 4 ข้อความ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2565 พงษ์ถูกเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าจับกุมตามหมายจับจากคอนโดใน จ.ภูเก็ต ก่อนถูกนำตัวมาคุมขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

วันที่ 21 ม.ค. 2565 ศาลอาญาได้อนุญาตให้ฝากขัง ‘พงษ์’ ตามคำขอของพนักงานสอบสวน ทั้งได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า ผู้ขอประกันมิได้มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นญาติกับผู้ต้องหา ทำให้เขาจะถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถึง 3 วัน กว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวจากการยื่นครั้งถัดมา

ต่อมาในวันที่ 12 เม.ย. 2565  พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 สั่งฟ้องคดีต่อศาล โดยรวมระบุว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จและเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้

คดีนี้เดิมมีกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 9 – 10 พ.ค. 2566 ในวันแรกของการสืบพยาน พงษ์ตัดสินใจให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ศาลจึงให้งดการสืบพยาน และมีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจพฤติการณ์ของจำเลย ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

วันนี้ (26 มิ.ย. 2566) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 716 พงษ์เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา ผู้พิพากษาที่ออกนั่งพิจารณาได้เรียกให้ผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยและจำเลยไปที่หน้าบัลลังก์ศาล ก่อนอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักที่สุด คือ มาตรา 112 จำคุก 18 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 ปี 36 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้กำหนด 2 ปี ระหว่างนี้ห้ามกระทำความผิดซ้ำ ให้รายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้งในระยะเวลา 2 ปี และทำกิจกรรมบริการสังคม 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ผู้พิพากษายังได้กล่าวกับจำเลยว่า ในครั้งนี้ศาลจะให้โอกาสจำเลย ขอให้จำเลยอย่าไปกระทำความผิดซ้ำอีก และพนักงานคุมประพฤติจะจัดให้มีอบรมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป

ผู้พิพากษาที่ลงนามในคำพิพากษา ได้แก่ จันทรทัต สิทธิกำจร

.

อ่านบทสัมภาษณ์ของพงษ์ >>> คำอธิษฐาน การปลอบโยนจากพระเจ้า และความสงบสุขในวันที่ “พงษ์” ชาวคริสเตียนวัย 60 ปี ตกเป็นจำเลยในคดี 112 

อ่านข่าวการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา >>> ตร.บก.ปอท.จับชายวัย 59 ปี จากภูเก็ต แจ้งข้อหา ม.112 ศาลไม่ให้ประกันตัว อ้างเหตุผู้ประกันไม่ใช่ญาติ

X