เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “ธัญดล” (สงวนนามสกุล) โปรแกรมเมอร์วัย 38 ปี ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) แชร์ข้อความจากเพจเฟซบุ๊ก “KonthaiUK” จำนวน 2 โพสต์เกี่ยวกับการอุ้มบริษัทการบินไทย ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2563
คดีของธัญดล นับเป็นหนึ่งในคดีมาตรา 112 ของ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 14 คดี และนับเป็นหนึ่งในคดีที่มี “ศิวพันธ์ุ มานิตย์กุล” เป็นผู้ไปกล่าวหา ซึ่งมีอย่างน้อย 9 คดี โดยคดีส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ในช่วงกลางปี 2563 และคดีทั้งหมดได้ทยอยถูกสั่งฟ้องที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ
ส่วนเหตุของคดีที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องนั้นมาจากการถูกกล่าวหาว่า จำเลยได้แชร์โพสต์เฟซบุ๊ก รวม 2 โพสต์ด้วยกัน ได้แก่
1. เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2563 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ข้อความว่า “ไม่แปลก ที่ บริษัทมันเจ๊ง” พร้อมกับแชร์ข้อความของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “KonthaiUK” ที่โพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2563 ซึ่งมีข้อความกล่าวถึงสาเหตุที่รัฐต้องนำภาษีไปอุ้มการบินไทย
ข้อความดังกล่าวโพสต์พร้อมภาพถ่ายทางอากาศบริเวณสวนอัมพร ซึ่งมีเครื่องบินจอดอยู่ 1 ลํา โดยที่บนภาพมีข้อความว่า “ชอบเครื่องบินมากถึงขนาดขนไปประกอบส่วนตกแต่งสวนที่วังสวนอัมพร”
2. เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2563 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวได้แชร์ข้อความของเพจชื่อ “KonthaiUK” ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2563 โดยโพสต์ต้นทางมีข้อความเกี่ยวกับเหตุผลที่รัฐต้องอุ้มการบินไทยทำนองเดียวกับโพสต์แรก อยู่เหนือภาพเครื่องบินของสายการบินไทยและพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ที่ฉลองพระองค์ด้วยชุดเครื่องแบบนักบินพาณิชย์และบนภาพมีข้อความเกี่ยวกับการใช้ภาษีของประชาชน
ในโพสต์นี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ไม่ได้เขียนข้อความใดๆ ประกอบ เพียงแต่แชร์ภาพและข้อความมาเท่านั้น
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 ก่อนเริ่มสืบพยานคดีนี้เป็นนัดแรก จำเลยได้ขอถอนคำให้การเดิมและกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลจึงสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลย พร้อมกับนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้
ศาลพิพากษาจำคุก ข้อหา ม.112 รวม 2 กรรม กรรมละ 3 ปี ก่อนลดกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี 12 เดือน ก่อนให้รอลงอาญา 3 ปี
เวลา 09.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 13 ศาลออกพิจารณาคดี ก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลแจ้งว่าได้รับรายงานสืบเสาะและพินิจจำเลยจากพนักงานคุมประพฤติแล้ว ซึ่งมีข้อเท็จจริงโดยสรุปว่า จำเลยอายุ 38 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี มีภาระต้องดูแลแม่และภรรยา จากการตรวจสอบพบว่าจำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน จากรายงานดังกล่าวพนักงานคุมประพฤติยังได้ประเมินโอกาสในการกระทำผิดซ้ำของจำเลยด้วยว่าอยู่ใน ‘ระดับปานกลาง’ พร้อมกับเสนอความเห็นให้ศาลกำหนดเงื่อนไขคุมประพฤติจำเลยเป็นเวลา 3 ปี และให้ทำงานสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง
จากนั้นศาลได้อ่านคำพิพากษา มีรายละเอียดโดยสรุปว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงไป ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ที่มีโทษหนักสุด ศาลถือว่าจำเลยกระทำผิด 2 กรรม นับเป็น 2 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 2 ปี 12 เดือน
แต่พบว่าภายหลังที่จำเลยได้กระทำความผิด จำเลยได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10 อันเป็นการสำนึกในการกระทำความผิดแล้ว ประกอบกับจำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน เห็นว่าควรให้โอกาสจำเลยสักครั้ง น่าจะเป็นผลดีแก่จำเลยและสังคมมากกว่า
จึงเห็นว่าควรให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 3 ปี พร้อมกำหนดให้คุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี และให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือน และให้ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง
สำหรับธัญดล พื้นเพเป็นคนจังหวัดพิษณุโลก ประกอบอาชีพโปรแกรมเมอร์ในบริษัทที่กรุงเทพฯ ในคดีนี้ เขายอมรับว่าตนเป็นผู้แชร์โพสต์ดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาท-ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ เพียงแค่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์การทำธุรกิจการบินไทยที่ขาดทุนมานานเท่านั้น แต่ไม่ได้อ่านข้อความที่แชร์มาให้ละเอียดก่อน
เขาเปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า รู้สึกดีใจและโล่งใจที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 3 ปี โดยจะใช้เวลาหลังจากนี้ดูแลผู้เป็นแม่ให้เต็มที่อย่างที่ตั้งใจไว้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รายที่ 7 ของปี ! สภ.บางแก้วแจ้ง ม.112 ประชาชนแชร์โพสต์เรื่องอุ้มการบินไทย จากเพจ KonthaiUK 2 ข้อความ