พิพากษาจำคุก 12 ปี “ปุญญพัฒน์” ผู้ป่วยสมาธิสั้น-พัฒนาการช้า คดี 112 ศาลชี้ข้อความสื่อถึง ร.10 เป็นการใส่ความเท็จ-เจตนาทำให้เสื่อมเกียรติ 

20 มิ.ย. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดอ่านคำพิพากษาในคดีของ “ปุญญพัฒน์” (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความ ลงในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส” เมื่อวันที่ 9-10 พ.ค. 2563 โดยมี 2 ข้อความกล่าวถึงรัชกาลที่ 10 และการพำนักอยู่ที่ประเทศเยอรมนี

>> ศาลนัดฟังคำพิพากษา 31 พ.ค. คดี ม.112 “ปุญญพัฒน์” ผู้ป่วยสมาธิสั้น-พัฒนาการช้า หลังให้การรับสารภาพ

.

ที่ห้องพิจารณา 14 เวลา 08.50 น ปุญญพัฒน์ บิดาและมารดาของปุญญพัฒน์ ทนายผู้รับมอบฉันทะและนายประกัน ได้ทยอยมาศาล นอกจากนี้ยังมีผู้สังเกตการณ์จาก iLaw และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมติดตามคดีด้วย 

เวลา 09.40 น. ก่อนจะเริ่มอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาได้ถามทนายผู้รับมอบฉันทะว่าได้เตรียมเงินประกันตัวจำเลยไว้หรือยัง ทางด้านทนายตอบศาลว่าได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว 

ศาลเริ่มอ่านคำบรรยายฟ้องของอัยการโจทก์ ก่อนจะอ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กของจำเลย โพสต์ข้อความลงใน “รอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส” ทั้งหมด 4 ข้อความ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความนิยมของประชาชนที่มีต่อรัชกาลที่ 10 และพระราชินี รวมถึงการพำนักอาศัยของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในประเทศเยอรมนี 

ศาลพิเคราะห์ว่าทุกข้อความของจำเลยเป็นการสื่อถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งมีลักษณะใส่ร้าย ใส่ความและเป็นเท็จ เจตนาจาบจ้วงล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ นอกจากนี้ข้อความของจำเลยประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จึงถือว่ามีเจตนาทำให้ประชาชนที่อ่านแล้วรู้สึกคล้อยตามและดูหมิ่นเกลียดชังในหลวงรัชกาลที่ 10

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ให้ลงโทษทุกกระทงความผิด รวม 4 กระทง จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 12 ปี 

อย่างไรก็ตาม จำเลยให้การรับสารภาพ จึงมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้เหลือจำคุก 4 ปี 24 เดือน (หรือประมาณ 6 ปี) โดยไม่รอลงอาญา พิเคราะห์จากรายงานการสืบเสาะและพินิจแล้ว กรณียังไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ

หลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ตำรวจศาลได้ใส่กุญแจมือ “ปุญญพัฒน์” และพาเขาลงไปรอที่ห้องเวรชี้ ขณะที่ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเดิมจำนวน 150,000 บาท และเพิ่มหลักทรัพย์อีก 75,000 บาท รวมทั้งหมด 225,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ 

ทั้งนี้ ในเหตุผลขอปล่อยตัวชั่วคราวระบุโดยสุรปว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นเคยอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณาแล้ว และจำเลยไม่เคยทำผิดสัญญาประกันแต่อย่างใด ไม่เคยคิดหลบหนี หรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ที่สำคัญจำเลยเป็นผู้มีความผิดปกติทางสมอง มีพัฒนาการทางสมองช้าและสมาธิสั้นมาตั้งแต่เด็ก หากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะกระทบต่อสิทธิการรักษาของจำเลย ทำให้จำเลยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง 

ต่อมา เวลา 14.20 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด  

อนึ่ง คดีของปุญญพัฒน์ นับเป็นหนึ่งในคดีมาตรา 112 ของ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 13 คดี และนับเป็นหนึ่งในคดีที่มี ศิวพันธ์ุ มานิตย์กุล เป็นผู้ไปกล่าวหา จากเท่าที่มีข้อมูลจำนวน 9 คดี โดยส่วนใหญ่พบว่า เป็นคดีที่เกิดจากการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ในช่วงกลางปี 2563 และตำรวจได้มีการเริ่มออกหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงปี 2564 โดยคดีเหล่านี้ได้มีการสืบพยานและมีคำพิพากษาออกมาบ้างแล้ว 

สำหรับ ปุญญพัฒน์ เป็นชาวจังหวัดกำแพงเพชร และมาถูกกล่าวหาที่สมุทรปราการ ก่อนหน้านี้ก่อนเริ่มการสืบพยานเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 เขากับครอบครัวได้ตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามข้อกล่าวหา หลังเห็นว่าการพูดคุยสื่อสารและบุคลิกภาพของจำเลยมีความผิดปกติ 

แม่ของปุญญพันธ์ระบุว่าเขามีพัฒนาการช้ามาตั้งแต่เด็ก สมาธิสั้น มีความคิดวกวน ย้ำคิดย้ำทำ จดจ่อเฉพาะเรื่อง สื่อสารอย่างจำกัด หากจำเลยมีความเครียดหรือหวาดกลัว จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทำให้ปัจจุบัน อายุ 29 ปีแล้ว จำเลยไม่สามารถออกจากบ้านไปไหนมาไหนคนเดียวได้ ไม่สามารถประกอบอาชีพการงาน หรือทำในสิ่งที่ต้องใช้วิจารณญาณเหมือนคนในวัยเดียวกันได้ ต้องอยู่ในความดูแลช่วยเหลือของครอบครัวโดยตลอด โดยศาลยังคงเห็นว่าเขามีความสามารถในการต่อสู้คดีได้ ไม่จำเป็นต้องส่งตัวไปพบแพทย์ เนื่องจากยังสามารถพูดคุยโต้ตอบและเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตนเองได้

.

X