27 มี.ค. 2566 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “บอส” ฉัตรมงคล วัลลีย์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทเอกชน วัย 28 ปี ผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เหตุจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้คอมเมนต์ข้อความมีเนื้อหาหมิ่นกษัตริย์ฯ ในโพสต์ของเพจเฟซบุ๊ก “ศรีสุริโยไท”
สำหรับคดีนี้มี นัธทวัฒน์ ชลภักดี แอดมินเพจเฟซบุ๊กศรีสุริโยไท ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย หลังการสืบพยานไประหว่างวันที่ 20–24 ธ.ค. 2565 พนักงานอัยการโจทก์นำสืบว่า เฟซบุ๊กที่มีชื่อเหมือนชื่อของจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊กศรีสุริโยไท ส่วนจำเลยให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว
ในวันนี้ เวลา 9.00 น. ฉัตรมงคลเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานีเพื่อฟังคำพิพากษา ท่ามกลางสถานการณ์หมอกควันที่เป็นไปอย่างรุนแรงในจังหวัดเชียงราย
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน นายองอาจ เทียนหิรัญ เป็นผู้อ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลย โดยอ่านในเนื้อหาส่วนคำวินิจฉัย สรุปความได้ว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า ไม่มีพยานบุคคลและหลักฐานที่ยืนยันว่าจำเลยกระทำความผิดจริง ที่โจทก์เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดมาจากตำรวจชุดสืบสวนที่นำชื่อเฟซบุ๊กที่ถูกกล่าวหา ไปค้นในทะเบียนราษฎร์ของจำเลย แล้วนำมาเปรียบเทียบกับภาพในเฟซบุ๊ก
เมื่อพิจารณาทางนำสืบของจำเลยที่ชี้ให้เห็นว่าหน้าเฟซบุ๊กมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย โดยไม่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประกอบกับ การตรวจสอบเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กกระทำได้โดยยาก อย่างการที่โจทก์นำส่งเฟซบุ๊กดังกล่าวไปตรวจสอบกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้วไม่สามารถยืนยันผู้ใช้งานได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง
สำหรับ “บอส” ฉัตรมงคล มีภูมิลำเนาอยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร และทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี การถูกกล่าวหาในคดีนี้ตลอด 1 ปี 5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องเดินทางไปจังหวัดเชียงรายเพื่อต่อสู้ถึง 7 ครั้ง ประกอบกับบอสมีรายได้ไม่มากนัก ทำให้การต่อสู้คดีมีอุปสรรคอย่างมาก โดยเขาได้รับความช่วยเหลือเรื่องค่าเดินทางจากกองทุนดา ตอร์ปิโด แต่ก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยตนเอง
.
.