ศาลพิพากษารอลงอาญา คดี ม.112 “แม่เลี้ยงเดี่ยวจากอ่างทอง” กรณีคอมเมนต์ท้ายโพสต์ “ปวิน” ในกลุ่ม “ตลาดหลวง”

วันที่ 7 พ.ย. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำพิพากษาคดีของ “ณชา” (นามสมมติ) แม่เลี้ยงเดี่ยวจากจังหวัดอ่างทองวัย 26 ปี ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีแสดงความคิดเห็นท้ายโพสต์รูปภาพรัชกาลที่ 10 ซึ่ง ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ โพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “รอยัลลิสสต์มาร์เก็ตเพลส – ตลาดหลวง”

คดีนี้จำเลยถูกจับกุมจากจังหวัดอ่างทองตามหมายจับของศาลอาญาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2565 โดยไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน เธอถูกนำตัวเข้ากรุงเทพฯ ไปยัง บก.ปอท. และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์มือถือไว้เป็นของกลาง 

ในการสอบสวน ณชาไม่มีทนายความและญาติอยู่ร่วมด้วย เธอได้ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และถูกนำตัวไปขอฝากขังต่อศาลในวันถัดมา ก่อนศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยเธอต้องใช้หลักทรัพย์ที่ญาติกู้ยืมมาจำนวน 90,000 บาท วางเป็นหลักประกัน

ต่อมา วันที่ 29 ส.ค. 2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5) ได้มีคำสั่งฟ้องคดี โดยสรุปว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 จำเลยได้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Pavin Chachavalpongpun” ได้โพสต์เผยแพร่ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 และมีข้อความ “สวัสดี” แล้วจำเลยได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นท้ายโพสต์  ซึ่งอัยการระบุว่าเป็นการทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมพระเกียรติ และถูกดูหมิ่น ถูกลบหลู่ อีกทั้งเป็นการนำเข้าข้อมูลเท็จบนคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3), (5)

ในก่อนวันนัดฟ้องคดีดังกล่าว ณชาได้ติดต่อศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และขอความช่วยเหลือเรื่องการเปลี่ยนหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพิจารณาจากกองทุนราษฎรประสงค์ ต่อมาณชาได้ตัดสินใจให้การรับสารภาพในนัดสอบคำให้การของศาล และศาลมีคำสั่งให้สืบเสาะพฤติการณ์ของจำเลยเพิ่มเติม ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 703 ณชา ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวเพื่อรอฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลได้ขึ้นพิจารณาคดีในเวลา 09.00 น. โดยเรียกให้จำเลยลุกขึ้นรายงานตัวเพื่อฟังคำพิพากษาในวันนี้ 

คำพิพากษาโดยสรุป ศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) (5) การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว ให้ลงโทษในตัวบทกฎหมายที่หนักที่สุดคือมาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 1 ปี 6 เดือน เห็นว่าจำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 1 ครั้งต่อ 4 เดือน ภายใน 1 ปี ให้งานบริการสังคมเป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมง และริบโทรศัพท์ที่เป็นของกลางไว้

สำหรับ ณชา อายุ 26 ปี และประกอบอาชีพเป็นพนักงานรับจ้างในองค์กรแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง โดยเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกอายุเพียง 3 ปี หลังจากฟังคำพิพากษา ณชามีท่าทีสบายขึ้นและรู้สึกโล่งใจที่วันนี้เธอจะได้เดินทางกลับบ้านพร้อมกับครอบครัว โดยเธอได้เปิดเผยว่าวันนี้ตัวเองและครอบครัวได้เดินทางมาไกลจากจังหวัดอ่างทอง และมาถึงที่ศาลอาญาตั้งแต่เช้ามืดแล้วเพื่อมารอฟังคำพิพากษาในวันนี้

.

ดูตาราง สถิติคดีมาตรา 112 ที่ศาลมีคำพิพากษา

X