ศาลพังงาพิพากษาคดี ม.112 จำคุก 3 ปี “บุญลือ” กรณีคอมเมนต์ความจำเป็นต้องปฎิรูปสถาบันฯ ศาลลดโทษกึ่งหนึ่ง-ให้รอลงอาญา ชี้เพื่อให้ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ

วันที่ 22 ก.ย. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดพังงานัดอ่านคำพิพากษาในคดี ของ ‘บุญลือ’ (นามสมมติ) บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ชาวสุโขทัย วัย 26 ปี ซึ่งถูกกล่าวหาในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากเหตุคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กโต้ตอบกันกับผู้อื่นเกี่ยวกับลักษณะที่ดีของกษัตริย์ และความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวม 3 คอมเมนต์ ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยให้รอการลงอาญา 2 ปี และคุมความประพฤติ 1 ปี 

ในคดีนี้ศาลได้นัดสืบพยานไปเมื่อระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค. 2565 แต่ในการสืบพยานวันแรก ขณะพยานโจกท์ปากผู้กล่าวหาขึ้นเบิกความ บุญลือได้ตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ การสืบพยานจึงเป็นอันยุติและศาลสั่งให้มีการสืบเสาะต่อจากนั้น พร้อมนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้

คดีนี้มี นางสาวกัลฐิตา ชวนชม เป็นผู้กล่าวหา ที่ สภ.ทุ่งคาโงก อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2563 โดยกล่าวหาว่า บุญลือคอมเมนต์ลงข้อความในทางเสียหายต่อพระมหากษัตริย์ ตอบผู้กล่าวหาและบุคคลอีก 2 คน รวมจำนวน 3 คอมเมนต์

.

ย้อนดูเหตุการณ์ขณะสืบพยานคดีนี้ จำเลยกลับคำให้การเดิม และ ‘รับสารภาพ’ ศาลชี้ข้อความอื่นตามฟ้องไม่ผิด ยกเว้น ‘กษัตริย์ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม’ ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ไม่ใช่การแสดงความเห็น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ซึ่งศาลจังหวัดพังงา นัดสืบพยานเป็นนัดแรก เวลาประมาณ 09.40 น. ศาลออกพิจารณาคดี โดยมีองค์คณะผู้พิพากษารวม 2 ท่าน 

ศาลกล่าวว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ยุติแล้ว เนื่องจากจำเลยได้ยอมรับว่าเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวคอมเมนต์โต้ตอบตามฟ้องจริง ในการสืบพยานครั้งนี้จึงเหลือเพียงการพิสูจน์ว่าข้อความทั้ง 3 ข้อความที่จำเลยได้คอมเมนต์โต้ตอบตามฟ้องนั้นเข้าองค์ประกอบความผิดตามฟ้องหรือไม่ และสอบถามจำเลยในครั้งนี้จะยืนยันให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ

จำเลยแถลงยืนยันให้การปฏิเสธ เพราะคิดว่าการแสดงความเห็นตามฟ้องนั้นสามารถทำได้ ไม่คิดว่าถึงขนาดกับเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) แต่อย่างใด อีกทั้งหากรับสารภาพ เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยจะไม่สามารถไปสอบคัดเลือกบรรจุเป็นข้าราชการตามที่มุ่งหวังไว้ได้  

ทนายความแถลงเพิ่มเติมว่า จำเลยสำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ และอยากจะสอบบรรจุเป็นข้าราชการในตำแหน่งนิติกรของหน่วยงานรัฐ จึงประสงค์จะสู้คดีให้ถึงที่สุด จากนั้นศาลจึงเริ่มสืบพยานโจทก์ปากแรก 

.

นางสาวกัลฐิตา ชวนชม – ผู้กล่าวหา

กัลฐิตาเบิกความว่าเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2563 เวลา 10.00 น. ขณะที่พยานกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ อบจ.ทุ่งคาโงก จ.พังงา ได้เปิดแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก และเห็นข่าวเกี่ยวกับบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทั้งเห็นจำเลยเข้ามาคอมเมนต์ซึ่งเป็นข้อความตามฟ้อง 

เมื่อกัลฐิตาอ่านข้อความที่จำเลยได้คอมเมนต์แล้วรู้สึกเสียใจและเห็นว่าไม่สมควร เป็นข้อความที่ทำให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจว่ากษัตริย์เป็นคนไม่ดี ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม 

“ไม่ว่าใครๆ ก็ไม่สมควรที่จะถูกต่อว่าในที่สาธารณะแบบนี้” เธอกล่าว

ข้อความที่จำเลยคอมเมนต์ พยานเข้าใจว่าหมายถึงรัชกาลที่ 10 ข้อความโดยรวมไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เมื่อคนอื่นอ่านแล้วเข้าใจได้ว่า กษัตริย์เป็นคนไม่ดี ปกครองประเทศไม่ได้ ต้องมีการปฏิรูป และเป็นบุคคลต้องห้ามในต่างประเทศ 

เมื่อเห็นคอมเมนต์ของจำเลย พยานก็ได้คอมเมนต์โต้ตอบว่า ข้อความของจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะเป็นการดูหมิ่นกษัตริย์ และข้อกฎหมายนี้กำลังโด่งดังอยู่ในช่วงเวลาขณะนั้นด้วย พยานจึงรู้จัก

พยานบอกว่า กระนั้นจำเลยยังไม่หยุดแสดงความคิดเห็นตอบโต้ และได้ไปโต้เถียงกันต่อในข้อความส่วนตัว (Messenger) แต่ทว่าจำเลยก็ยังยืนยันที่จะแสดงความคิดเห็นโดยการคอมเมนต์ต่อไป แม้พยานจะทัดทานแล้วว่า “หากไม่หยุดจะไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน”

สุดท้ายพยานจึงไปแจ้งความร้องทุกข์กับงานสอบสวน ที่ สภ.ทุ่งคาโงก และได้ส่งมอบเอกสารเป็นการสนทนาและข้อความคอมเมนต์ระหว่างตนกับจำเลยไว้ให้กับพนักงานสอบสวนด้วย พร้อมทั้งได้ให้การไว้กับพนักงานสอบสวน

.

ทนายจำเลยถามค้าน

พยานตอบทนายความถามค้านว่า ตนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะเกิดเหตุในคดีนี้ รับข้าราชการ ในตำแหน่งนักจัดการทั่วไป อยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งคาโงก ตั้งแต่ปี 2559 

พยานทราบว่า ในปี 2563 มีการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และทราบว่ากลุ่มดังกล่าวมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อด้วยกัน ได้แก่ 1) ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก, 2) แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3) ให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พยานทราบว่า ขณะพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ประยุทธ์มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์หลายฉบับด้วยกัน

แต่ไม่ทราบว่า การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์หลายฉบับเป็นเหตุผลที่ทำให้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และพยานไม่รู้ว่าในสมัยของรัฐบาลประยุทธ์มีการแก้ไขกฎหมายในรัฐธรรมนูญว่า “หากกษัตริย์ไม่ประทับอยู่ ณ ประเทศไทย จะแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการหรือไม่ก็ได้” 

ส่วนเรื่องที่ว่าหลังรัชกาลที่ 10 ขึ้นครองราชย์ พระองค์จะทรงประทับอยู่ ณ ประเทศเยอรมันเป็นส่วนใหญ่หรือจะประทับอยู่ที่ใดนั้น พยานไม่ทราบ

จากข้อความตามฟ้องของจำเลย ทั้งหมด 3 ข้อความ ศาลเห็นว่ามีส่วนเดียวเท่านั้นที่ผิดตามมาตรา 112 คือ ข้อความที่ระบุว่า “กษัตริย์ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม” ซึ่งเป็นคอมเมนต์ที่ 1 ตามฟ้อง ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นข้อความที่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น 

จำเลยพูดกับทนายจำเลยว่า “ข้อความนี้ (กษัตริย์ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม) พูดไม่ได้เหรอครับ” ท้ายที่สุดหลังการพูดคุย จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและยินยอมรับสารภาพ 

การสืบพยานโจทก์และจำเลยตามนัดเดิมจึงต้องยุติลง จากนั้นศาลได้สั่งให้มีการสืบเสาะต่อไป และนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 22 ก.ย. 2565 เวลา 09.00 น. 

.

ศาลจังหวัดพังงาพิพากษาคดีจำคุก 3 ปี “บุญลือ” รับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี พร้อมคุมประพฤติ 1 ปี

ก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลได้อ่านรายงานการสืบเสาะให้จำเลยฟัง และแจ้งว่ารายงานการสืบเสาะเป็นคุณแก่จำเลย จากนั้นจึงได้อ่านคำพิพากษาต่อโดยทันที 

ศาลมีคำพิพากษาโดยสรุปว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทที่หนักที่สุด พิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน 

พิเคราะห์จากรายงานการสืบเสาะ จำเลยกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อตักเตือนก็ยินยอมลบข้อความ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ในทางการเมืองหรือหวังผลอย่างอื่นใด ก่อนและหลังการกระทำความผิดไม่พบพฤติการณ์แสดงออกที่ไม่เหมาะสมของจำเลย จึงให้โอกาสได้แก้ไข ฟื้นฟู และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้จำเลยได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเมตตาที่ทรงมีต่อปวงชน 

โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมประพฤติจำเลยไว้กำหนด 1 ปี ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว กับให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นควรมีกำหนด 12 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

คำฟ้องในคดีนี้ – อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 “หนุ่มสุโขทัย” ที่ศาลพังงา เหตุไปคอมเมนต์เรื่องลักษณะที่ดีของกษัตริย์

X