วันที่ 3 ต.ค. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “ทอปัด” (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ศิลปินนักวาดภาพอิสระ ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากเหตุโพสต์ภาพวาดของในหลวงรัชกาลที่ 10 พร้อมข้อความประกอบ เผยแพร่บนอินสตาแกรม (IG) เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2564 โดยในวันนี้จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้รอการลงโทษเป็นเวลา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 2 ปี โดยให้จำเลยรายงานตัวทุก 3 เดือน และให้ทำกิจกรรมบริการสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ริบของกลางทั้งหมด
.
ย้อนรอยคดีของทอปัด
คดีนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2565 ทอปัดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) โดยทอปัดไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อนเลย ก่อนถูกนำตัวไปดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และทราบว่า พ.ต.ท.แทน ไชยแสง สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 เป็นผู้เข้าแจ้งความ กล่าวหาว่าภาพวาดรัชกาลที่ 10 ในบัญชีอินสตาแกรม มีลักษณะบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ทอปัดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวนถึงชั้นพิจารณาคดี
ต่อมา วันที่ 21 ก.ย. 2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ยื่นฟ้องทอปัดต่อศาลอาญา ในฐานความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) กล่าวหาว่า จําเลยโพสต์ภาพวาดรัชกาลที่ 10 และข้อความประกอบ อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทําให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
ในชั้นพิจารณาคดี ทอปัดได้แต่งตั้งอานนท์ นำภา เป็นทนายจำเลย โดยมีนัดสืบพยานในวันที่ 1, 15 ธ.ค. 2566 และ 31 ม.ค. 2567 อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 พ.ย. 2566 ศาลอาญามีคำสั่ง “ยกคำร้อง” ของอานนท์ที่ขอให้ศาลเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาทำหน้าที่ทนายจำเลย ในนัดสืบพยานดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ทนายความจำเลยถูกพิพากษาว่ามีความผิดในคดีอาญา (คดีมาตรา 112) มีโทษจำคุก 4 ปี จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทนายได้ ทนายอานนท์จึงได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลดังกล่าว และภายหลังที่ทอปัดยืนยันให้อานนท์เป็นทนายจำเลย ศาลจึงกำหนดนัดสืบพยานใหม่ในวันที่ 17-18 ก.ค. 2567
ต่อมา ในนัดสืบพยานวันแรก ก่อนเริ่มการสืบพยาน ทอปัดแถลงขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธ และให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยรายงานต่อศาลภายใน 45 วัน ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ส.ค. 2567
ทั้งนี้ ในนัดฟังคำพิพากษาดังกล่าว ทอปัดไม่ได้เดินทางมาศาล ทำให้เธอถูกออกหมายจับเพื่อมาฟังคำพิพากษา โดยศาลได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษามาเป็นวันนี้
.
พิพากษาจำคุก 3 ปี ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 1 ปี 6 เดือน พิเคราะห์แล้วไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน นิสัยและความประพฤติไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง ให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี
วันนี้ (3 ต.ค. 2567) ที่ห้องพิจารณา 711 เวลา 09.00 น. โจทก์และจำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล ในห้องพิจารณามีเพียงทนายจำเลย และประชาชนเข้าร่วมการฟังคำพิพากษา
ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษา สรุปสาระสำคัญได้ว่า เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
แม้การกระทำความผิดของจำเลยตามฟ้องจะมีพฤติการณ์ร้ายแรง เมื่อพิจารณาจากรายงานการสืบเสาะแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน นิสัยและความประพฤติอื่นไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง จำเลยประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะและอายุเพียง 29 ปีเศษ ประกอบกับภายหลังเกิดเหตุจำเลยมีความสำนึกผิดต่อการกระทำของตนและไม่ได้มีการกระทำผิดซ้ำ เห็นว่าการลงโทษจำคุกไม่เป็นผลดีต่อจำเลยและสังคม จึงให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี
ให้รอการลงโทษจำเลยเป็นเวลา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 2 ปี โดยให้จำเลยรายงานตัวทุก 3 เดือน รวม 8 ครั้ง และให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสาธารณประโยชน์ เป็นเวลา 48 ชม. ห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ริบของกลางทั้งหมด ยกเลิกหมายจับในนัดก่อนหน้าและนัดจำเลยมารายงานตัว
.
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หลังจากการกลับมาบังคับใช้ข้อหามาตรา 112 ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2563 จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567 มีผู้ถูกกล่าวหาในข้อหานี้อย่างน้อย 274 คน ใน 307 คดี โดยเป็นกรณีการแสดงออกบนโลกออนไลน์ 169 คดี หรือเกินครึ่งหนึ่งของคดีเท่าที่ทราบข้อมูล
จากคำพิพากษาในคดีนี้ ทำให้จำนวนผู้ต้องขังทางการเมืองยังไม่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดมีจำนวน 41 คน เป็นผู้ต้องขังหรือถูกคุมขังในคดี 112 ถึง 27 คน
.
อ่านฐานข้อมูลคดี
คดี 112 “ทอปัด” ศิลปินนักวาด ถูกกล่าวหาเผยแพร่ภาพวาดให้ร้าย ร.10 ใน IG