19 มิ.ย. 2568 ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “นรินทร์” (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมวัย 35 ปี ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก “กูKult” เพจมีมล้อเลียนการเมือง เผยแพร่รูปภาพ รวมถึงข้อความอันมีลักษณะเนื้อหาเชิงล้อเลียนเสียดสีรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 จํานวน 12 โพสต์ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.–11 ก.ย. 2563
ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าพยานโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของเพจหรือผู้ดูแลเพจ ประกอบกับจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานยังมีความสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย
.
ทบทวนคดี: ตำรวจแจ้งความคดี ม.112 รวม 12 กรรม จำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาและต่อสู้คดีว่าไม่ได้เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กและไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้องโจทก์
คดีนี้มี ร.ต.อ.ชยกฤต จันหา เจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้กล่าวหา ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 นรินทร์ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ บก..ปอท. ในข้อหาตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (5) ก่อนที่จะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) อีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. 2564
พนักงานอัยการ มีคำสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566 โดยแยกฟ้องเป็น 12 กรรม โดยกล่าวหาว่าเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่น ด้วยการใช้ภาพและข้อความหยาบคายด้วยความไม่เคารพต่อกษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 9 และ 10
นรินทร์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและยืนยันต่อสู้คดี ก่อนจะมีการสืบพยานทั้งสิ้น 2 นัด ในระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย. 2568 ฝ่ายจำเลยมีข้อต่อสู้ว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊กและไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามที่ถูกโจทก์ฟ้อง
อ่านบันทึกการสืบพยานคดีนี้ บันทึกสืบพยานคดี ม.112 เพจ “กูKult” – โจทก์ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ‘นรินทร์’ เป็นแอดมิน เชื่อมโยงผ่านภาพบุคคลสวมเสื้อลาย “กูKult” แม้ไม่เห็นหน้า
.
ศาลพิพากษา ‘ยกฟ้อง’ พยานหลักฐานโจทก์ชี้ไม่ได้ว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นแอดมินเพจ “กูKult”
วันนี้ (19 มิ.ย. 2568) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 804 นรินทร์เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับทนายความ โดยวันนี้มีนักกิจกรรมและประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจ รวมถึงมีองค์กรภาคประชาสังคม ได้แก่ iLaw มาร่วมสังเกตการณ์การอ่านคำพิพากษาในวันนี้ด้วย ขณะที่ในห้องพิจารณาคดีมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 คน และตำรวจศาล 2 นาย
เวลา 09.51 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์และเริ่มอ่านคำพิพากษา โดยสามารถสรุปเป็นใจความสำคัญได้ดังนี้
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ เห็นว่าโจทก์นำสืบเพียงว่าจำเลยสั่งผลิตเสื้อสกรีนรูปโลโก้ “กูKult” แต่ไม่นำสืบให้เห็นถึงเส้นทางการทำธุรกรรมการเงินและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การชำระราคา การผลิต จำนวน และการส่งมอบ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเพจอย่างไร
พยานโจทก์เบิกความถึงการสอบสวนว่าไม่ปรากฏหลักฐานการโอนเงินจากบริษัทผลิตเสื้อไปยังบัญชีจำเลย และส่งเพียงข้อมูลรายการเดินบัญชีที่ถอนเงินจากตู้ ATM จำนวน 3 รายการ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท หนึ่งครั้ง และ 300 บาท สองครั้ง เห็นว่าเป็นจำนวนเงินเล็กน้อย
ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบ ไม่สามารถรับฟังได้ว่าจำเลยสั่งเสื้อยืดสกรีนจากเว็บไซต์เพราะจำเลยมีบทบาทหน้าที่สำคัญของเพจ “กูKult” ที่ทำความผิดในคดีนี้ อันจะเชื่อมโยงเห็นเป็นผลให้รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแลเพจ ดังนั้นที่จำเลยถอนเงินจาก ATM เห็นว่าอาจเป็นเงินจากการประกอบกิจการอื่น ที่ไม่ใช่จากการขายเสื้อก็ได้
อีกทั้งโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของเพจหรือผู้ดูแลเพจซึ่งโพสต์กระทำความผิดในคดีนี้หรือไม่
ดังนั้น พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบมาวินิจฉัยข้างต้นยังมีพิรุธว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์หรือไม่ เมื่อไม่มีพยานหลักฐานนำสืบประกอบกับจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานยังมีความสงสัยตามสมควรว่ามีความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง พิพากษายกฟ้อง
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนี้ ได้แก่ สุเนตร สาทา และ รัตน์ จ๋วงพานิช
หลังจากศาลมีคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว นรินทร์จึงเดินทางกลับบ้านตามเดิม
สำหรับนรินทร์แล้ว คดีนี้เป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 2 ที่ถูกกล่าวหา ต่อจากคดีแรกที่ถูกกล่าวหาว่า ติดสติกเกอร์ กูKult บนรูปภาพของรัชกาลที่ 10 ที่ตั้งไว้บริเวณประตูทางเข้าของศาลฎีกาในระหว่างการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อปี 2563 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา หลังอัยการยื่นฎีกา
.
ชวนรู้จักเฟซบุ๊กเพจ “กูKult”
สำหรับเพจเฟซบุ๊ก “กูKult” ดั้งเดิมนั้น เปิดขึ้นท่ามกลางบริบทการเมืองหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 คือในช่วงปี 2554 และค่อย ๆ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการล้อเลียนเสียดสีสถานการณ์ทางสังคมและการเมือง ก่อนเริ่มกลายเป็น “มีม” หรือกระแสที่แพร่กระจาย ถูกผลิตซ้ำ ดัดแปลง และส่งต่อไปในโลกเฟซบุ๊กอย่างไม่มีเจ้าของ โดยเกิดเพจตระกูล “กู” หรือตระกูล “kult” ที่นำเสนอเนื้อหาล้อเลียนในประเด็นต่าง ๆ ตามมา
ต่อมาหลังเกิดรัฐประหารของ คสช. ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 เพจเฟซบุ๊ก “กูKult” ได้ถูกทางการไทยร้องขอให้เฟซบุ๊กปิดกั้นการเข้าถึง ทำให้เฟซบุ๊กจำกัดการเข้าถึงเพจจากในประเทศไทย โดยระบุแต่เพียงว่ากฎหมายของไทยไม่อนุญาตให้เข้าถึงเนื้อหาของเพจนี้ แต่ยังสามารถเข้าได้จากในต่างประเทศ
หลังจากนั้น ไม่แน่ชัดว่าในช่วงเวลาใด เพจ “กูKult” หลักได้ปิดตัวไป แต่ได้มีการเปิดเพจชื่อเดียวกัน และใช้ภาพโลโก้ลักษณะเดียวกันขึ้นมาอีกหลายเพจ ซึ่งมีตั้งแต่เพจที่มีผู้กดถูกใจหลักสิบไปจนถึงหลักหลายหมื่น โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าแอดมินเพจต่าง ๆ เหล่านี้เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ยังไม่นับที่โลโก้ “กูKult” กลายร่างเป็นวัตถุสิ่งของในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สติกเกอร์ เสื้อยืด และจนถึงปัจจุบันก็ยังพบว่ามีเพจลักษณะนี้อยู่บนเฟซบุ๊ก
.
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รู้จักเพจ “กูkult” แม้ถูกปิด-ถูกจับ แต่ยังดำรงอยู่เมื่อกลายไปเป็น “มีม”
ฐานข้อมูลคดีนี้
คดี 112 “นรินทร์” ถูก กล่าวหา เป็น แอด มิ น เพจ “กู kult” โพ ส ต์ รูป ตัด ต่อ-เสียดสี ร.9, ร.10