“ยกฟ้อง” คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ “อิศเรศ” โพสต์กรณีไม่แต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ ศาลนครพนมชี้ ข้อความไม่เข้าองค์ประกอบความผิด 

16 มี.ค. 2565 ศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษายกฟ้อง ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่ง อิศเรศ อุดานนท์ ช่างก่อสร้างชาวนครพนม วัย 46 ปี ตกเป็นจำเลย จากการโพสต์ข้อความแสดงความเห็นขณะเป็นพระ กรณีไม่แต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ ชี้ข้อความที่จำเลยโพสต์ไม่ได้แสดงความอาฆาตมาดร้าย มิได้ระบุถึงบุคคลที่ถูกดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทให้รู้ได้แน่นอนว่าเป็นใคร อีกทั้งมาตรา 112 ไม่บัญญัติถึงสถาบันกษัตริย์ พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังลงโทษจำเลยตามมาตรา 112 ได้ และเมื่อไม่ผิดมาตรา 112 จึงไม่เป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วย  

เวลา 09.00 น. อิศเรศ ซึ่งเดินทางมาจากบ้านภรรยาที่ลำปางล่วงหน้า 1 วัน และวณัฐ โคสาสุ ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ไปถึงศาลจังหวัดนครพนม ก่อนเข้าฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 โดยมีผู้สังเกตการณ์ 3 คน เข้าร่วมด้วย

ปรินดา เวทพิสัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดนครพนม เจ้าของสำนวน อ่านคำพิพากษาใจความว่า

พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2559 เวลา 22.19 น. จำเลยลงข้อความ “ได้โปรดอย่าตอแหลอีกเลย…ครัช เปิดออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ พวกมึงต่อรองอะไรกัน ผมฝากพวกโลกสวยหัวกล้วยทั้งหลาย ศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 23 และ 24 ให้หัวสมองโล่งหน่อยนะครับว่า ทำไมจึงยังไม่ประกาศรัชกาลที่ 10… การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนเก็บขยะครับ อย่าบ้องตื้นหลาย… เกิน 24 ชม. ไม่แต่งตั้งกษัตริย์ก็คือศึกชิงบัลลังก์” ลงในบัญชีเฟซบุ๊ก “ชาตินักรบ เสือสมิง” ของจำเลย 

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มี จ.ส.อ.วรายุทธ์ สุวรรณมาโจ เบิกความเป็นพยานว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ มีนายหมวดตรีสรวิฒย์ มาตย์แพง เป็นพยานเบิกความว่า ข้อความดังกล่าวเป็นการให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ มี จ.อ.ภิญโญ ศรีสวัสดิ์ เป็นพยานเบิกความว่าข้อความดังกล่าวหมิ่นเหม่ต่อการที่จะหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ 

มีนายอารี ดวงสงค์ เป็นพยานเบิกความว่า ชั้นสอบสวนพยานให้การไว้ตามบันทึกคำให้การเป็นพยานว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ไม่เหมาะไม่ควร เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่คนไทยให้ความเคารพเชิดชู ถ้ามีการเผยแพร่อาจทำให้เสื่อมเสียถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ 

และมีนางปราณีต วดีศิริศักดิ์ เป็นพยานเบิกความว่า ข้อความดังกล่าวอาจทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดี เป็นข้อความที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีข้อความว่า “ศึกชิงบัลลังก์” หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ หากบุคคลที่ไม่มีวิจารณญาณอ่านข้อความแล้วก็อาจตีความไปในทางที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และมี พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย เป็นพยานเบิกความว่า ข้อความดังกล่าวสื่อความหมายให้เห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยกำลังมีการแก่งแย่งชิงราชบัลลังก์อันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียต่อราชวงศ์ 

เห็นว่า พยานโจทก์ทุกปากไม่มีปากใดที่ให้การในชั้นสอบสวนและเบิกความว่าข้อความตามฟ้องเป็นการที่จำเลยแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งข้อความดังกล่าวก็ไม่ปรากฏให้เห็นว่าเป็นเช่นนั้น 

ส่วนข้อความดังกล่าวจะเป็นข้อความที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือไม่นั้น หมิ่นประมาท หมายถึง การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ซึ่งการใส่ความนั้นจะต้องเป็นการแสดงข้อเท็จจริงเรื่องร้ายให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และจะต้องระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความเป็นการยืนยันรู้ได้แน่นอนว่าเป็นใคร หรือหากไม่ระบุถึงผู้ที่ถูกใส่ความโดยตรง การใส่ความนั้นก็ต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ 

ดูหมิ่น หมายถึง การด่า ดูถูก เหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอาย การดูหมิ่นก็ย่อมจะต้องระบุถึงตัวบุคคลที่ถูกดูหมิ่นเป็นการยืนยันรู้ได้แน่นอนว่าเป็นใคร หรือหากไม่ระบุถึงผู้ที่ถูกดูหมิ่นโดยตรง การดูหมิ่นนั้นก็ต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ เมื่อพยานโจทก์ทุกปากล้วนแต่เบิกความว่า ข้อความดังกล่าวเป็นการดูหมิ่น ให้ร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นผลจากการตีความ เนื่องจากข้อความดังกล่าวมิได้ระบุถึงบุคคลที่ถูกดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทให้รู้ได้แน่นอนว่าเป็นใครหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะ การเข้าใจข้อความดังกล่าวจึงขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละบุคคล ข้อความดังกล่าวจึงมิใช่การยืนยันข้อเท็จจริง 

ทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ก็มิใช่องค์ประกอบความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 การที่จำเลยลงข้อความดังกล่าวในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระราชินี หรือรัชทายาท พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังลงโทษจำเลยได้ 

เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ การที่จำเลยลงข้อความดังกล่าวในสื่ออินเตอร์เน็ตเฟซบุ๊ก จึงไม่เป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามฟ้องโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

อิศเรศเปิดเผยความรู้สึกภายหลังศาลจบคำพิพากษาและทั้งหมดออกจากห้องพิจารณาว่า “รู้สึกดีใจที่ศาลยังมีความยุติธรรม ยังฟังเหตุผลของเรา ผมก็เป็นพยานจำเลยเพียงปากเดียว อัยการซักค้านมายังไงผมก็ตอบไปตามความจริง เป็นความยุติธรรมที่ผมได้รับจากการต่อสู้คดีโดยการช่วยเหลือของทีมทนายความมา 1 ปีครึ่ง ซึ่งความรู้สึกตลอด 1 ปีครึ่งตั้งแต่ที่รับรู้ว่าถูกดำเนินคดีคือ เป็นกังวลว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับเราจริงมั้ย ในสถานการณ์ที่รัฐบาลเป็นเผด็จการแบบนี้ด้วย คำพิพากษาจะออกมาแบบไหน ซึ่งความจริงผมไม่น่าจะโดนฟ้องด้วยซ้ำไป”

“ผมไม่ได้กังวลว่าจะถูกจำคุก เพราะได้ผ่านการเป็นพระมาแล้ว เรียนรู้เรื่องการปล่อยวาง แต่กังวลว่ากระบวนการยุติธรรมจะผิดเพี้ยนไปมากกว่า พอได้ฟังคำพิพากษาวันนี้แล้วก็รู้สึกโล่งจากความกังวลที่มีมาตลอด ได้เห็นว่าศาลก็ยังเป็นที่พึ่งของเราได้อยู่ ให้ความเป็นธรรมกับเรา และให้คำอธิบายอย่างกระจ่างแจ้งว่ายกฟ้องเพราะเหตุใด”   

“นอกจากรู้สึกโล่งจากความกังวลที่อยู่ในใจมาตลอด ยังรู้สึกโล่งที่ภาระการเดินทางมาศาลจะหมดไป เนื่องจากในการเดินทางมาแต่ละครั้งเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร บางเที่ยวมา 2 คนกับภรรยาด้วย ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งมาก เป็นภาระหนักสำหรับเราที่ไม่ได้เป็นคนมีเงินมีทอง” 

ในเรื่องการแสดงออกทางการเมืองนั้น อิศเรศกล่าวว่า ตั้งแต่ถูกดำเนินคดีเขาก็ไม่ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอีก รู้สึกว่าต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะคดีมาตรา 112 ซึ่งหลังจากนี้เขาก็ยังจะระมัดระวังไม่โพสต์อะไรที่สุ่มเสี่ยง แต่สำหรับการแสดงออกในลักษณะอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ไปร่วมชุมนุมถ้ามีโอกาส อิศเรศก็ยืนยันว่า ยังคงสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะไปร่วมชุมนุม หรือช่วยเหลือพี่น้องนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในลักษณะอื่นเท่าที่ทำได้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ให้ประเทศไทยได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา 

อ่านประมวลคำเบิกความพยานทั้งหมด 

จับตาคำพิพากษาคดี 112 “อิศเรศ” ชาวนครพนม โพสต์กรณีไม่แต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ พยานโจทก์หลายปากไม่ยืนยันข้อความผิด 112 ขณะจำเลยแจงเจตนาเป็นห่วง

ดูฐานข้อมูลคดี

คดี 112 “อิศเรศ” โพสต์แสดงความเห็นกรณีไม่แต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่หลัง ร.9 สวรรคต

ดูคดี 112 ระลอกใหม่ทั้งหมด

สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-65 

X