ศาลอาญาพิพากษาคดี ม.112 ของ “เอก” จำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี เหตุแชร์โพสต์เพจคนไทยยูเค แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

13 ก.พ. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาคดีของ “เอก” (นามสมมติ) พนักงานบาร์ วัย 29 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีถูกกล่าวหาว่าแชร์โพสต์ข้อความจากเพจ “KTUK – คนไทยยูเค” ซึ่งมีเนื้อหาเชื่อมโยงคุกวังทวีวัฒนา และรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2565

ศาลพิพากษาว่าเอกมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำคุก 4 ปี ก่อนลดกึ่งหนึ่งเพราะให้การรับสารภาพ คงจำคุก 2 ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้ทำงานบริการสังคม 48 ชั่วโมง

“เอก” ถูกบุกตรวจค้นและยึดโทรศัพท์ ก่อนพาไป ปอท. ด้วยปากเปล่า และถูกแจ้งข้อหา ม.112

ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2565 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) บุกตรวจค้นห้องพักของ “เอก” โดยอาศัยหมายค้นที่ออกโดยศาลอาญา ลงวันที่ 10 พ.ค. 2565 ซึ่งตลอดการตรวจค้น เอกมีเพียงแค่ภรรยาอยู่ร่วมเป็นพยานด้วยเท่านั้น ไม่มีทนายความร่วมด้วย

จากการตรวจค้นราวหนึ่งชั่วโมง ตำรวจได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของเอกไว้เพื่อตรวจสอบ และขอให้เอกเดินทางไปที่ บก.ปอท. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการแจ้งโดยปากเปล่าโดยไม่มีหมายเรียกหรือหมายจับ แต่หลังจากที่เอกเดินทางไปถึง บก.ปอท. ตำรวจก็ได้แจ้งข้อหาตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยระบุว่ามีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมอบอำนาจให้ นวพล คนยัง เป็นผู้กล่าวหา ก่อนที่เอกจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากทนายความในเวลาต่อมา

ในวันดังกล่าว เอกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเนื่องจากเป็นการเข้าพบเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง ตำรวจ บก.ปอท. จึงปล่อยตัวเอกไป

อ่านข่าวการตรวจค้นและแจ้งข้อหา >> ตร.ปอท. บุกค้นห้องพนักงานบาร์ ก่อนยึดมือถือ โยงกรณีแชร์โพสต์เพจ ‘คนไทยยูเค’ หลอกอีกว่าจะคืนให้ แต่กลับพาไปแจ้งข้อหา ม.112

หลังอัยการสั่งฟ้อง ถูกคุมขัง 44 วัน – ตัดสินใจรับสารภาพตามคำฟ้องก่อนเริ่มสืบพยาน

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีของ “เอก” ต่อศาลอาญา และศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเอกระหว่างพิจารณาคดี ระบุว่าคดีมีอัตราโทษสูง และผู้ร้องคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว หากปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงทำให้เอกถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อมาหลังยื่นประกันตัวไป 4 ครั้ง ศาลจึงอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2566 รวมเขาถูกคุมขังเป็นระยะเวลา 44 วัน

จากนั้น ศาลอาญาได้นัดสืบพยานทั้งสิ้น 3 นัด ระหว่างวันที่ 26-28 ธ.ค. 2566 แต่ก่อนที่จะเริ่มการสืบพยานในนัดแรก เอกได้ตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ก่อนที่ศาลจะสั่งให้มีการสืบเสาะและพินิจพฤติการณ์ของจำเลยเพิ่มเติม ประกอบคำพิพากษา พร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี เพราะให้การรับสารภาพ และให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

วันนี้ (13 ก.พ. 2567) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 808 เอกเดินทางมาฟังคำพิพากษากับครอบครัว ก่อนในเวลา 09.19 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์และอ่านคำพิพากษา โดยสรุปใจความสำคัญได้ว่า ศาลเห็นว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3) การกระทำความผิดของจำเลยเป็นการกระทำหนึ่งกรรม ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุด พิพากษาจำคุก 4 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะให้การรับสารภาพ คงโทษจำคุก 2 ปี

พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจ เห็นว่าจำเลยประกอบอาชีพที่มั่นคง อาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวและมีลูกอายุ 3 ปี อีกทั้งจำเลยได้บริจาคดวงตาและร่างกายไว้กับสภากาชาดไทยด้วย เห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี พร้อมให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ภายใน 2 ปี และให้ทำงานบริการสังคม 48 ชั่วโมง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

การต่อสู้ของ “เอก” และ “ก้อง อุกฤษฏ์” สองผู้ต้องขัง ม.112 ในเรือนจำ