ศาลพิพากษาจำคุกคดี 112 “แอมป์ ณวรรษ” 3 ปี 2 เดือน ลดครึ่งหนึ่ง เหตุปราศรัย #ม็อบ13กุมภา64 ไม่รอลงอาญา ก่อนได้ประกันระหว่างอุทธรณ์

วันที่ 26 เม.ย. 2566 เวลา 9.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 ของ ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ “แอมป์” นักกิจกรรมผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) และบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศิลปากร กรณีปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ13กุมภา หรือ #นับ1ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งจัดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2564

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องคดีนี้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ มาตรา 112, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ มาตรา 358, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ มาตรา 385, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ ฐานร่วมกันติดตั้งหรือแขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 39 และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ ฐานร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 4

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2566 ในวันแรกของนัดสืบพยาน แอมป์ได้ตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอัยการแถลงไม่ค้าน ศาลจึงให้งดการสืบพยาน และมีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจพฤติการณ์ของจำเลย ก่อนจะมีคำพิพากษา

วันนี้ (26 เม.ย. 2566) หน้าห้องพิจารณาคดีที่ 903 แอมป์เดินทางมาศาลเพียงคนเดียว มีผู้สังเกตการณ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) มาร่วมฟังคำพิพากษาในวันนี้ด้วย

เมื่อเข้าไปในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์นำรายงานการสืบเสาะจากพนักงานคุมประพฤติมาให้จำเลยอ่านเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยในรายงานได้บรรยายถึงประวัติและการกระทำความผิดของจำเลย และสุดท้ายเจ้าพนักงานคุมประพฤติได้ให้ความเห็นว่า เพื่อให้จำเลยเข็ดหลาบ การคุมประพฤติอาจไม่เหมาะสม

เวลา 12.10 น. ศาลออกนั่งพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ศาลเข้ามาใส่กุญแจมือจำเลย ก่อนศาลจะอ่านคำพิพากษา สามารถสรุปได้ดังนี้

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 358, มาตรา 385, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษแต่ละกรรมตามความผิดไป

ข้อหาตามมาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี ส่วนในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มาตรา 358, มาตรา 385 และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด คือ ฐานทำให้เสียทรัพย์ ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 2,000 บาท

ข้อหาตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ ให้ลงโทษปรับ 1,000 บาท (อย่างไรก็ตามศูนย์ทนายฯ มีข้อสังเกตว่าในข้อหานี้ กฎหมายได้ระวางโทษปรับไว้เพียงไม่เกิน 200 บาทเท่านั้น)

จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 1 ปี 7 เดือน และปรับ 1,500 บาท เนื่องจากจำเลยกระทำการในลักษณะเดียวกันหลายคดี จึงไม่รอการลงโทษ

หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ศาลได้กล่าวกับจำเลยว่าหากยื่นคำร้องขอประกันตัว ศาลจะส่งให้ศาลสูงเป็นผู้พิจารณา เจ้าหน้าที่ศาลจึงได้เข้ามาควบคุมตัวจำเลยไปไว้ยังห้องขังใต้ถุนศาลระหว่างรอคำสั่งศาล

เวลา 16.57 น. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์คดี โดยให้วางหลักประกันตัว 100,000 บาท เท่ากับที่เคยวางในตอนสั่งฟ้องคดี หากผิดสัญญาประกันให้ยึดหลักประกัน หลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

ทั้งนี้ แอมป์ถูกดำเนินคดีจากการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในข้อหาตามมาตรา 112 จำนวน 4 คดี โดยคดีนี้เป็นคดีแรกที่มีคำพิพากษาในศาลชั้นต้น และเมื่อรวมกับคดีร่วมชุมนุมอื่นๆ ทำให้เขาถูกกล่าวหาไปแล้วรวม 18 คดี แต่ยังไม่มีคำพิพากษาคดีใดที่ศาลเห็นว่ามีความผิดและลงโทษจำคุกมาก่อน

.

อ่านบทสัมภาษณ์ของแอมป์ >>> “ผมเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองและเป็นผู้ติดเชื้อ HIV” การเมือง ชีวิต ความหลากหลายทางเพศ และภาพสะท้อนการต่อสู้

ย้อนอ่านข่าวการแจ้งข้อกล่าวหา >>> แจ้ง 5 ข้อหา 6 นักกิจกรรม คดี #ม็อบ13กุมภา พร้อมแจ้ง ม.112- ทำลายทรัพย์ “ณวรรษ” เพิ่ม เหตุปราศรัยให้ร.10 อยู่ใต้รธน.

ย้อนอ่านข่าวการสั่งฟ้อง >>> อัยการสั่งฟ้องคดี “แอมป์-ณวรรษ” ม.112 กล่าวหาปราศรัยถึงร.10 ใน #ม็อบ13กุมภา เป็นการแสดงความเห็นไม่สุจริต  ก่อนศาลให้ประกัน

.

X