4 มี.ค. 2568 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดสืบพยานนัดแรกในคดีของ“พิมพ์” แทนฤทัย แท่นรัตน์ นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำวัย 25 ปี ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีร่วมปราศรัยในเวทีเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เคารพเสียงของประชาชนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในการชุมนุม ‘Respect My Vote’ ที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2566
จำเลยได้ขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามฟ้อง ศาลได้พิพากษาทันที โดยเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 3 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และให้รอการลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี
.
ถูกแกนนำ ศปปส. กล่าวหา เหตุปราศรัยในชุมนุม “Respect My Vote” มีเนื้อหากล่าวถึงสถาบันกษัตริย์
ย้อนไปเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2566 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดการชุมนุม “Respect my vote” ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เรียกร้องให้วุฒิสภาเคารพเสียงของประชาชนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากที่วันก่อนหน้านั้นมีการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล แต่ สว. เกือบทั้งหมดลงคะแนนไม่เห็นชอบ งดออกเสียง หรือขาดการประชุม
ต่อมา เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2566 อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้าแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน โดยอ้างว่าได้พบคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชน เป็นการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งมีแทนฤทัยเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมปราศรัย มีเนื้อหากล่าวถึงสถาบันกษัตริย์ และเห็นว่าเข้าข่ายมาตรา 112
ต่อมา 7 ส.ค. 2566 แทนฤทัยเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยกล่าวหาพฤติการณ์แห่งคดีว่า ในวันที่ 14 ก.ค. 2566 ผู้ต้องหาได้ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวถึงสถาบันกษัตริย์ ในทำนองว่าไม่มีสถาบันใดอยู่เหนือสถาบันประชาชน กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเคารพเสียงของประชาชนและการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย โดยแทนฤทัยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
หลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 และอัยการนัดฟังคำสั่งในคดีมาทั้งหมด 2 ครั้ง โดยในนัดครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 อัยการก็ได้สั่งฟ้องคดีในที่สุด และศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างพิจารณา
ต่อมาในวันที่ 19 ส.ค. 2567 หลังตรวจพยานหลักฐานในคดีเสร็จสิ้น ศาลได้กำหนดวันนัดสืบพยานนัดแรกเป็นวันที่ 4 มี.ค. 2568
.
ศาลพิพากษาทันทีหลังกลับคำให้การ โดยให้รอการลงโทษ เห็นว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน อยู่ในวัยกำลังศึกษา อายุยังน้อย การลงโทษจำคุกจึงไม่เป็นผลดีกับจำเลยและสังคม
วันนี้ (4 มี.ค. 2568) เวลา 09.00 น. ห้องพิจารณาที่ 604 แทนฤทัยพร้อมกับเพื่อนและทนายความเดินทางมาถึงศาล ทางด้านอัยการก็ได้นำพยานสมาชิกกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) มาปรากฏตัวต่อศาลแล้วด้วยเช่นกัน
เวลา 09.38 น. ศาลออกนั่งพิจารณา โดยเริ่มดำเนินอ่านคำพิพากษาคดีก่อนหน้า จากนั้นจึงเรียกแทนฤทัยและทนายความไปพูดคุยบริเวณหน้าบัลลังก์ถึงแนวทางคำให้การ ก่อนให้ตัดสินใจอีกครั้ง
แทนฤทัย ทนายความ และเพื่อนจำเลย ได้ออกมาปรึกษากันถึงแนวทางคดีกันอีกครั้งที่หน้าห้องพิจารณา จนเวลาประมาณ 10.00 น. อานนท์ กลิ่นแก้ว ผู้กล่าวหา ได้เดินทางมายังห้องพิจารณา
ต่อมาเวลา 10.09 น. ศาลได้ออกนั่งพิจารณาอีกครั้ง และแทนฤทัยแถลงขอเปลี่ยนคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพ จากนั้นศาลจึงแจ้งว่าจะพิพากษาเลยในวันนี้ ขอให้ฝ่ายจำเลยยื่นเอกสารประกอบคำรับสารภาพ และได้ออกจากห้องพิจารณาเพื่อทำคำพิพากษา ในระหว่างที่ศาลจัดทำคำพิพากษา หลังจากที่เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ดำเนินเอกสารเบิกค่าป่วยการให้พยานเรียบร้อย อัยการโจทก์และพยานทั้งสองก็ได้ออกจากห้องพิจารณาไป
ต่อมาเวลา 10.51 น. ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาอีกครั้ง และอ่านคำพิพากษาโดยสรุปใจความได้ว่า
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ลงโทษจำคุก 3 ปี เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจําคุก 1 ปี 6 เดือน
จากเอกสารประกอบคำรับสารภาพ เห็นว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน อยู่ในวัยกำลังศึกษา อายุยังน้อยและกระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การจำคุกจึงไม่เป็นผลดีกับจำเลยและสังคม จึงให้รอการลงโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 2 ปี คุมความประพฤติจำเลย 1 ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสาธารณะเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ส่วนคำขอของอัยการโจทก์ที่ให้นับโทษต่อในคดีของศาลแขวงปทุมวัน (คดีชุมนุม “ราษฎรหยุดAPEC2022”) ไม่สามารถนับโทษต่อได้ เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลลงโทษปรับ และคดีนี้พิพากษารอการลงโทษ
สำหรับ พิมพ์ แทนฤทัย เป็นนักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ก่อนหน้านี้เธอเคยถูกดำเนินคดีจากการร่วมชุมนุมทางการเมืองมาแล้วทั้งหมด 5 คดี โดยมีคดีนี้เป็นคดีเดียวที่มีข้อหาตามมาตรา 112