จำคุก 3 ปี “เวหา” คดี 112 กรณีแชร์โพสต์จากเพจ “เยาวชนปลดแอก” วิจารณ์วัคซีนโควิด – โพสต์ข้อความวิจารณ์อำนาจศาล

31 ต.ค. 2566 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ มีนัดสืบพยานคดีที่ เวหา แสนชนชนะศึก ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กรณีแชร์โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนของรัฐบาลเมื่อ 1 ส.ค. 2564 และโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ศาลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2565 

คดีนี้ เวหาถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) หลังจากเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก ก่อนถูกควบคุมตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) 

ภายหลังถูกฝากขัง ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเวหาในระหว่างสอบสวนเรื่อยมา แม้จะมีการยื่นประกันหลายครั้ง ทำให้เขาถูกขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รวม 99 วัน ก่อนศาลจะมีคำสั่งให้ไต่สวนคำร้องขอประกันตัวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 และอนุญาตให้ประกันระหว่างพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2565   

โดยระหว่างที่เขาถูกคุมขังอยู่ ภัทรกร อุดมผล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ได้ยื่นฟ้องเวหาต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2565 ในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” และ “นําเข้า เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)(5) จากการแชร์และโพสต์เฟซบุ๊กรวม 2 โพสต์ ประกอบด้วย

1.เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวหาได้แชร์ภาพและข้อความประกอบภาพจากบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีรูปภาพศพและกำแพง และปรากฎข้อความมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนที่มีการล๊อคสเปค จนทำให้ประชาชนเสียเพราะโควิดจำนวนมาก พร้อมทั้งพิมพ์ข้อความแสดงความเห็นว่า “อ่านดู แล้วจะรู้ว่าเด็กๆ มันคิดอะไร พิทักษ์รักษากันไว้แทบตาย ชิบหายด้วยมือตัวเอง #เหนื่อยจนท้อ #พอกันที” 


2. เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2565 เวหาได้โพสต์ข้อความว่า “ปี พ.ศ. 2565  จะเป็นปีสุดท้ายของชีวิตกู กูจะให้ทุกวินาทีในชีวิตของหน้าบัลลังก์ศาล เล่าขานความเหี้ยห่าจัญไรให้จดจารึกไว้ กูจะใช้ชีวิตเข้าต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยการแลกด้วยเลือดและจิตวิญญาณ กูจะให้ความตายปลดเปลื้องกูออกจากพันธนาการแห่งความอยุติธรรมทั้งหมด ก่อนที่โซ่ตรวนและกรงขังจะมาพรากอิสรภาพด้วยคําพิพากษาอันมาภายใต้นามของใครบางคน” 

อัยการอ้างว่า ผู้อ่านข้อความดังกล่าวย่อมทราบว่า ศาลพิพากษาคดีในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ และข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ และเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทําให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยจําเลยมีเจตนาทําลายสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

.

เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 802 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวเวหาซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีมาตรา 112 กรณีทวีตเรื่องคุกวังทวีและแอร์ไม่เย็น หลังศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2566 มาที่ศาลอาญา 

เวหาสวมชุดสีน้ำตาลขาสั้น แขนเสื้อมีปลอกแขนสีแดงเย็บติดอยู่ และเท้าถูกล่ามด้วยกุญแจตรวน โดยก่อนเริ่มการสืบพยาน เวหาได้ตัดสินใจขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธ และให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง ทำให้ศาลนัดฟังคำพิพากษาทันทีในช่วง 13.30 น. ของวันเดียวกันนี้

เวลา 13.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาระบุว่า เวหามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 อันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด 

พิพากษา จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง รวมโทษจำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 2 ปี 12 เดือน และให้ริบโทรศัพท์มือถือของกลาง กับให้นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขดำที่ อ.2697/2564 ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 18 เดือน ไปก่อนหน้านี้ 

ในช่วงที่ผ่านมา หลังศาลอาญาพิพากษาจำคุกเวหาในคดีแรก และเวหาไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ เขาได้อดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัว แต่ศาลอุทธรณ์ก็ยังไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ภายหลังอดอาหารประท้วงถึง 49 วัน เวหาได้ประกาศยุติการอดอาหาร รวมทั้งยุติการต่อสู้คดีในคดีดังกล่าวที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว โดยไม่ขออุทธรณ์และฎีกาคำพิพากษา และยอมติดคุกเพื่อ ‘ประจาน’ กระบวนการยุติธรรม และกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อไปในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาด

นอกจาก 2 คดี ที่ศาลมีคำพิพากษาไปแล้วนี้ เวหายังคงมีคดีมาตรา 112 ของศาลอาญาอีก 1 คดี คือ คดีจากการโพสต์ภาพประกอบข้อความวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาจำคุก “นรินทร์” ในคดีติดสติกเกอร์ “กูkult” บนพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ซึ่งในคดีที่ 3 ของเวหามีนัดสืบพยานในวันที่ 19-21 ธ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้

X