ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว “เวหา” หลังถูกจับกุมคดี ม.112 แชร์โพสต์เพจ ‘เยาวชนปลดแอก’


10 มี.ค. 2565 เวลา 15.40 น. เฟซบุ๊กส่วนตัวของ ‘เวหา แสนชนชนะศึก’ ได้ไลฟ์เหตุการณ์ที่ตนเองถูกจับกุมบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) หลังจากเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก ก่อนตำรวจนอกเครื่องแบบจะนำตัวขึ้นรถไปยัง สน.พญาไท โดยการจับกุม ตำรวจได้แสดงหมายจับจากจอมือถือ ซึ่งออกโดยศาลอาญาเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) แต่ไม่ได้มีการแสดงหมายจับที่เป็นตัวเอกสารแต่อย่างใด ทั้งขณะทำการไลฟ์สด ตำรวจได้แจ้งขอตรวจยึดโทรศัพท์โดยอ้างว่าเป็นของกลางที่ใช้กระทำความผิด 

18.30 น. ทนายความได้รับแจ้งว่าเวหา ถูกนำตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ไม่ได้นำตัวไปที่ สน.พญาไท ที่เป็นเจ้าของคดีแต่อย่างใด

เวลา 19.20 น. ทนายความได้เข้าพบผู้ถูกจับกุม โดยภายในห้องสอบสวนพบว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 20 คน ทั้งนี้โทรศัพท์ของเวหาได้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้โดยไม่มีหมายเพื่อการเข้าถึงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์จากศาล ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ตำรวจให้เหตุผลว่ายึดไว้เพราะเห็นว่าเป็นวัตถุที่ใช้ในการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 

พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี พนักงานสอบสวน ได้เป็นผู้แจ้งข้อหาทั้งสองข้อหาแก่เวหา เหตุจากการแชร์และโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กจำนวน 2 โพสต์ โดยมีรายละเอียดกล่าวคือ

1. เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 ได้แชร์เพจเฟซบุ๊ก ‘เยาวชนปลดแอก’ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีรูปภาพศพและกำแพง มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนของรัฐบาล พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า “อ่านดู แล้วจะรู้ว่าเด็กๆมันคิดอะไร พิทักษ์รักษากันไว้แทบตาย ชิบหายด้วยมือตัวเอง #เหนื่อยจนท้อ #พอกันที” 


2. เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2565  เวลาประมาณ 00.36 น. มีการโพสต์ ข้อความว่า “ประกาศ ปี พ.ศ. 2565 จะเป็นปีสุดท้ายของชีวิตกู กะให้ทุกวินาทีในชีวิตของหน้าบัลลังก์ศาลเล่าขานความเหี้ยห่าจัญไรให้จดจำกูไว้ จะใช้ชีวิตเข้าต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยการแลกด้วยเลือดและจิตวิญญาณ กูจะให้ความตายปลดเปลื้องกูออกจากพันธนาการแห่งความอยุติธรรมทั้งหมดก่อนที่โซ่ตรวนและกรงขังจะมาพรากอิสรภาพด้วยคําพิพากษาอันมาภายใต้นามของใครบางคน”


อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการระบุว่าข้อความส่วนใดในทั้งสองโพสต์ เป็นข้อความที่เข้าข่ายมาตรา 112  

เวหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่า การจับกุมเป็นไปโดยมิชอบ ขณะจับกุมไม่ได้แสดงหมายจับเพียงแต่ให้ดูเอกสารหมายจับจากโทรศัพท์มือถือและไม่ได้พาผู้ต้องหาไปยังท้องที่ที่ถูกจับ (สน.บางซื่อ) หรือไปยังท้องที่ที่พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ (สน.พญาไท) กลับนำตัวมาควบคุมและสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงเป็นการจับกุมโดยมิชอบ พนักงานสอบสวนจะอ้างว่าเป็นระเบียบข้อตกลงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็รับฟังไม่ได้เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญาว่าด้วยการจับกุม คุมขัง และการสอบสวน นอกจากนี้เวหาจะขอยื่นคำให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมต่อไป

เวหาได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส. ในคืนที่ผ่านมา ก่อนจะถูกฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันต่อมา

วันที่ 11 มี.ค. 2565 เวลา 11.30 น. หลัง ร.ต.อ.อรุณ สืบสิงห์ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ยื่นขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ศาลได้อนุญาตให้ฝากขัง เป็นระยะเวลา 12 วัน เนื่องพนักงานสอบสวนอ้างว่าจะต้องทําการสอบสวนพยานอีก 4 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร 

หลังทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เวลา 16.30 น. นายชาญชัย ณ พิกุล ผู้พิพากษา มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ระบุเหตุผลว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าข้อหาที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูง ประกอบกับเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2564 ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจากศาลนี้ ในคดีที่มีลักษณะข้อหาอย่างเดียวกัน โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามผู้ต้องหากระทําการใดในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาอีก กรณี มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว ผู้ต้องหาอาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายประการอื่น และน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว”

คำสั่งดังกล่าว ทำให้เวหาถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากเคยถูกคุมขังระหว่างสอบสวนในคดีมาตรา 112 ที่เขาเคยถูกจับกุมและกล่าวหาในช่วงปี 2564 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด” ที่ทวิตข้อความเล่าเรื่องประสบการณ์การถูกคุมขังในคุกเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล เขตทวีวัฒนา โดยครั้งนั้นเขาถูกคุมขังเป็นระยะเวลา 53 วัน

จนถึงวันนี้มียอดผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ตั้งแต่หลังเยาวชนปลดแอกเป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 180 ราย ในจำนวน 191 คดีแล้ว

.
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-65

X