ไม่ให้ประกัน “พอร์ท” ไฟเย็น คดี 112 หลังยื่นประกันระบุอาการป่วย ศาลยกเหตุเข้ารักษาตัวใกล้ชายแดนลาว เชื่อว่าจะหลบหนี 

6 มี.ค. 2564  หลังวานนี้ “พอร์ท ไฟเย็น” หรือปริญญา ชีวินกุลปฐม อายุ 36 ปี ถูกจับกุม ควบคุมตัวไป บก.ปอท. แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อเดือน เม.ย.- ก.ค. 2559 รวม 3 โพสต์ ก่อนถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรอส่งศาลเพื่อขอฝากขังในวันนี้

>> จับ! “พอร์ท” ไฟเย็น ม.112 กรณีโพสต์เพลง-ข้อความ “ตุรกีไม่มีกษัตริย์เซ็นรับรองรปห.” ตั้งแต่ปี 59

เวลาประมาณ 11.00 น. ปริญญาถูกพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ควบคุมตัวไปที่ศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ในระหว่างการสอบสวน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 มี.ค. 2564 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น  

หลังศาลพิจารณาคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนแล้ว ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง จากนั้น ทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวระหว่างสอบสวน โดยใช้เงินสดจำนวน 200,000 บาท เป็นหลักประกัน และมีมารดาของผู้ต้องหาเป็นนายประกัน 

คำร้องขอประกันตัวระบุเหตุผลว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียว ยังไม่ผ่านการพิสูจน์โดยศาล ทั้งพฤติการณ์ไม่ได้มีลักษณะเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่ทราบว่าถูกดําเนินคดีนี้มาก่อน และก่อนถูกจับได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิรินธรมาโดยตลอด เนื่องจากผู้ต้องหาป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ โรคตับอ่อนอักเสบ และโรคเบาหวานที่สืบเนื่องจากตับอ่อนอักเสบ ทําให้ผู้ต้องหามีอาการเหน็บและชาตามมือและเท้า มีอาการแสบหรือแปลบบริเวณมือและเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะที่เท้า เสียการทรงตัวและการประสานงานของอวัยวะในร่างกาย หากไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว จะทําให้ผู้ต้องหาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ต้องหายังต้องพบแพทย์ตามกําหนดนัดเพื่อติดตามอาการป่วยและรับยาจากแพทย์ รวมถึงการกายภาพบําบัดและพักฟื้น (แนบประวัติการรักษา และใบนัดผู้ป่วย)

ผู้ต้องหายังพักอาศัยอยู่กับมารดาในบ้านที่เปิดเป็นร้านขายรองเท้าในย่านชุมชน ผู้ต้องหาไม่ได้ปกปิด อําพรางตน เพื่อนบ้านข้างเคียงก็พบเห็นผู้ต้องหาได้ปกติ ตามบันทึกจับกุมซึ่งบรรยายว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมของไปพํานักอยู่ใน สปป.ลาว นั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังคงเป็นเพียงผู้ถูกฟ้องคดี ต้องได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิจนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมายได้ว่ามีความผิด ตามปฎิญญาสากล และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

จนกระทั่งเวลา 13.33 น. ชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายปริญญาโดยระบุในคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง เจ้าพนักงานจับกุมผู้ต้องหาได้หลังออกหมายจับ 4 ปีเศษ ปรากฎจากประวัติผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาตัวของผู้ร้อง หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย อันเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับ สปป.ลาว ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกการจับกุมตัวที่ระบุว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปพำนักอยู่ใน สปป.ลาว เชื่อว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ได้คิดจะเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงาน หากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาอีก ให้ยกคำร้อง”

หลังศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ปริญญาได้ถูกนำตัวไปขังโดยขึ้นรถผู้ต้องขังของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทำให้จนถึงปัจจุบันมีนักกิจกรรมและประชาชนที่ถูกขังในระหว่างการสอบสวนหรือพิจารณาคดีในคดีทางการเมือง โดยไม่ได้รับสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวรวมทั้งสิ้น 14 ราย เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีมาตรา 112 รวม 6 ราย โดยถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 13 ราย และเรือนจำพิเศษธนบุรี 1 ราย 

 

X