อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 คดีที่ 3 ของ “เวหา” กรณีโพสต์รูปภาพ-ข้อความเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีติดสติกเกอร์ กูKult บนรูป ร.10

วันที่ 27 มี.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3) มีคำสั่งฟ้องคดีของ เวหา แสนชนชนะศึก ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการโพสต์ภาพประกอบข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาสั่งจำคุก “นรินทร์” คดีซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ติดสติกเกอร์คำว่า “กูkult” ลงบนพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565

สำหรับคดีนี้มี กัญจ์บงกช เมฆาประพัฒน์สกุล สมาชิกของกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา เวหาเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ไปเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2565 และเหตุที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ยังเป็นเหตุเดียวกันกับที่ทำให้เขาถูกศาลอาญาสั่งถอนประกันในคดี “คุกวังทวีวัฒนา” ด้วย 

ต่อมาทนายความได้ยื่นประกันตัวเวหา และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเป็นเงินสดจำนวน 90,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้กระทำการใดอันมีลักษณะตามที่ถูกฟ้องอีก และกำหนดนัดวันตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 29 พ.ค. 2566 เวลา 09.00 น.

.

เปิดคำฟ้องคดี อัยการระบุจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ – ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา

ในคำฟ้องพนักงานอัยการได้กล่าวเกริ่นว่า ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 2 บัญญัติว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” และมาตรา 6 บัญญัติว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้”

คำฟ้องบรรยายโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 เวลากลางวัน จำเลยได้หมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ทางเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความว่า “เนื่องจากคำพิพากษาของศาลอาญา วันนี้ (4 มี.ค 2565) พิพากษาจำคุก “นรินทร์” เพื่อนของเราจากกรณีถูก “กล่าวหา” ว่าเป็นผู้ติดสติ๊กเกอร์คำว่า “กูKult” ลงบนพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยศาลให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำที่แสดงความยิ่งใหญ่เหนือกว่าพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นที่เคารพเทิดทูน ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ

“ดังนั้น เพื่อเป็นการมิให้เกิดความเสื่อมเสียพระเกียรติยศของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในฐานะประมุขของชาติ ผู้ยิ่งใหญ่ดุจดั่งสมมติเทพที่อวตารลงมาจากสรวงสวรรค์ ข้าพเจ้าและเหล่าสหายร่วมอุดมการณ์ ขอน้อมรับคำพิพากษาของศาล และจะปกป้องมิให้ใครผู้ใดมากระทำการอันมิบังควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 อีก ด้วยการจะทำให้รูปของในหลวงที่อยู่ตามสถานที่สาธารณะ มิให้ปรากฎอีกต่อไป ไม่ว่าจะที่ใดในประเทศนี้ เพื่อจะได้ไม่มีใครสามารถเอาสติ๊กเกอร์ไปแปะให้วชิราลงกรณ์ต้องเสื่อมพระเกียรติยศอีก” 

ประกอบภาพผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงขายาวสีดำ ยืนบนแท่นเฉลิมพระเกียรติทรงพระเจริญ พร้อมกับมีกรอบรูปเฉลิมพระเกียรติอยู่ด้านหลัง ที่ไม่ปรากฏรูปภาพ อันเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้

สำหรับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดี พนักงานอัยการได้ระบุว่า หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล และขอให้ศาลนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อกับโทษจำคุกของจำเลยในคดีตามมาตรา 112 อีก 2 คดีด้วย

.

ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีตามมาตรา 112 คดีที่ 3 ของเวหา โดยคดีแรก คือ คดีที่เวหาถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด” ทวิตข้อความเล่าเรื่องประสบการณ์ใน “คุกวังทวีวัฒนา” ซึ่งในนัดสืบพยานครั้งแรก เวหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 พ.ค. 2566 

และคดีที่สอง คือ คดีจากกรณีแชร์โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนของรัฐบาล และโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ศาลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งมีกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 18-19 ก.ค. 2566

X