ศาลเชียงใหม่พิพากษารอการลงโทษ คดี ม.112 สองนักศึกษาชูป้ายในคาร์ม็อบ #ด่วนนครพิงค์เจียงใหม่ไล่ขึดประยุทธ์

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “เกด” และ “ยุ้ย” (นามสมมติ) สองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เหตุจากการชูป้ายข้อความในกิจกรรมคาร์ม็อบ #ด่วนนครพิงค์เจียงใหม่ไล่ขึดประยุทธ์ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2564 “เกด” ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกผู้ต้องหา ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ จากเหตุที่มี พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ กล่าวหาว่าในเหตุการณ์ชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 พบ “เกด” ยืนชูป้ายที่มีข้อความหมิ่นพระมหากษัตริย์ ในขณะเดียวกัน “ยุ้ย” ได้ถูกพนักงานสอบสวนโทรศัพท์เรียกไปเพื่อสอบปากคำเป็นพยาน แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ายุ้ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับป้ายดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหากับยุ้ยด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2565 พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีขาว จำนวน 1 แผ่น มีข้อความเขียนสื่อถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน มาชูในขณะมีชุมนุมทางการเมือง โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งสองโดยวางเงินประกันคนละ 150,000 บาท รวม 300,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

เมื่อถึงวันนัดพร้อม วันที่ 31 ต.ค. 2565 ศาลได้สอบถามคำให้การของจำเลยทั้งสอง ทั้ง “เกด” และ “ยุ้ย” ขอเวลาในการปรึกษากับครอบครัวในการตัดสินใจทางคดี ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนวันนัดพร้อมออกไป

กระทั่งวันที่ 28 พ.ย. 2565 ทั้ง “เกด” และ “ยุ้ย” ขอกลับคำให้การจากปฏิเสธ เป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทนายความได้จัดทำคำแถลงประกอบคำรับสารภาพยื่นประกอบ และศาลได้สั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยเพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาด้วย ก่อนนัดฟังคำพิพากษา โดยทั้งสองคนและผู้ปกครองได้ไปพบพนักงานคุมประพฤติในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา

เวลา 9.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 10 ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุปเพียงสั้นๆ ว่า

พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี รับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เมื่อพิเคราะห์จากรายงานสืบเสาะของจำเลย ประกอบกับคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และยังเป็นนักศึกษาอยู่ โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

หลังจากอ่านคำพิพากษาแล้วศาลได้อธิบายกับ ทั้ง “เกด” และ “ยุ้ย” ว่าการรอการลงโทษนี้ หมายถึงการพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด แต่ศาลจะไม่นำไปติดคุก เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับคืนสู่สังคม และตักเตือนว่าอย่าไปกระทำความผิดอาญาอื่นในช่วงเวลา 2 ปีนี้ มิฉะนั้นโทษ 1 ปี 6 เดือน อาจนำมาลงโทษได้ 

.

X