วันที่ 3 ส.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดสอบคำให้การในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 2 คดี ของ 3 สมาชิกกลุ่มทะลุวัง “ใบปอ”, “บุ้ง” เนติพร และ “เมนู” สุพิชฌาย์ ชัยลอม ได้แก่ คดีทำโพลล์ถามเห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย และคดีแชร์โพสต์ของเพจเฟซบุ๊ก “ทะลุวัง”
คดีแรก บุ้ง ใบปอ และเมนู ถูกกล่าวหาในข้อหา มาตรา 112 จากกรณีทำโพลถามความเห็นประชาชนว่า “เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย” ที่บริเวณทางเท้าระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตกับรถไฟฟ้าใต้ดินจตุจักร เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 คดีนี้ทั้งหมดเคยถูกจับกุมตามหมายจับถึงห้องพัก ก่อนได้ประกัน โดยส่วนหนึ่งของเงื่อนไขคือ ให้ติด EM และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 16.00 – 06.00 น.
คดีที่สอง ใบปอและเมนู ถูกปิยกุล วงษ์สิงห์ กล่าวหาไว้ที่ บก.ปอท. ในข้อกล่าวหา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 จากกรณีแชร์โพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก “ทะลุวัง” ซึ่งเป็นโพสต์เกี่ยวกับการปิดบังตัวเลขที่แท้จริงของงบประมาณของสถาบันกษัตริย์ ปี 2564 คดีนี้ทั้งหมดเคยถูกจับกุมขณะกำลังเดินทางไปพักผ่อนที่ จ.เพชรบุรี ก่อนได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง
ทั้งสองคดียังมีผู้ถูกดำเนินคดีอีกราย คือ “พลอย” เบญจมาภรณ์ สมาชิกกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกแยกไปดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เนื่องจากยังมีอายุไม่ถึง 18 ปี
ขณะคอนเฟอเรนซ์กับศาล ใบปอนั่งหลับตาแน่นิ่ง ฟังคำฟ้องไม่รู้ความ บุ้งเจ็บหน้าอกบริเวณหัวใจ คาดเพราะภาวะโพแทสเซียมต่ำ ทำกล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ
เวลาประมาณ 09.00 น. “เมนู” และ “โบ” พี่สาวของบุ้งในฐานะทนายความ พร้อมคณะทนายความเข้าสู่ห้องเวรชี้ บริเวณใต้ถุนศาลอาญา เพื่อดำเนินกระบวนการสอบคำให้การ ส่วนบุ้งและใบปอไม่ได้ถูกเบิกตัวมาศาลแต่อย่างใด โดยถูกติดต่อผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ถ่ายทอดสัญญาณภาพเสียงจากทัณฑสถานหญิงกลางแทน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทนายความได้เคยขอให้เบิกตัวทั้งสองคนมาขึ้นศาลในวันนี้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในเรือนจำเห็นว่าทั้งสองมีอาการเจ็บป่วย “จนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้” จึงไม่ได้เบิกตัว พามาศาลในวันนี้
เมื่อโบพบหน้าบุ้ง บุ้งบอกกับพี่สาวทันทีว่า “เจ็บบริเวณหัวใจ” และจับบริเวณหน้าอกอยู่ตลอดๆ การถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของบุ้งและใบปอไม่ค่อยดีนัก และมีเสียงขาดกระท่อนกระแท่นไม่ชัดเจนทำให้ยากต่อการสื่อสารพอสมควร
ต่อมาเมื่อศาลจะเริ่มอ่านคำฟ้องในคดี ม.112 กรณีแชร์โพสต์ของเพจเฟซบุ๊ก ‘ทะลุวัง’ ให้กับใบปอและเมนูได้ฟัง ใบปอนั่งฟังศาลในลักษณะหลับตาคล้ายกึ่งหลับ หลังเอนพิงเก้าอี้ลงไปสุดตัวจนเกือบจะเป็นท่านอน มีอาการชัดเจนว่าไม่มีสติและอ่อนเพลีย
ด้านบุ้งจับบริเวณหน้าอกของตัวเองตลอด โดยเธอพูดย้ำอีกว่า “เจ็บบริเวณหัวใจ” คาดว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุจาก ‘ภาวะโพแทสเซียมต่ำกว่าปกติ’ จากการอดหารประท้วงสิทธิในประกันตัวนานกว่า 2 เดือน เนื่องจากโพแทสเซียมเกี่ยวข้องกับการทำงานโดยตรงของกล้ามเนื้อหัวใจ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. แพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เปิดเผยว่า “บุ้งมีภาวะโพแทสเซียมต่ำจนอาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้เลย”
คณะทนายความเห็นอาการในขณะนั้นของทั้งสอง จึงได้แถลงต่อศาลว่าอาการของทั้งสองย่ำแย่จนไม่สามารถที่จะเข้าใจคำฟ้องได้เลย ผู้พิพากษาจึงหยุดอ่านคำฟ้องและทำการวินิจฉัยอาการวิกฤตของทั้งสองผ่านจอภาพ
ผู้พิพากษาถามใบปอว่า “ไหวไหม” ใบปอตอบว่า “ไม่ไหว” และฟังคำฟ้องไม่รู้เรื่องเลย
ต่อมาศาลจึงเห็นสมควรให้เลื่อนนัดสอบคำให้การทั้งสองคดีออกไปเป็นวันที่ 5 ก.ย. 2565 เวลา 09.00 น. เพราะเห็นว่าจำเลยไม่มีความพร้อม อันเนื่องจากปัญหาทางสุขภาพและความเจ็บป่วย
สุดท้ายทนายความยังได้ร้องขอให้ศาลกำชับกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าขอให้พาบุ้งและใบปอไปโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัวจากการเผชิญอาการวิกฤตจากการอดอาหารประท้วงนานกว่า 2 เดือนด้วย โดยศาลรับว่าจะไปเน้นย้ำเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีส่วนรับผิดชอบให้
หลังแล้วเสร็จกระบวนการ เจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานหญิงกลางก็ได้ขอศาลตัดสัญญาณภาพวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทันที ทนายความจึงไม่ทราบว่า ทั้งสองจะถูกพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือไม่
ทนายเผยว่า หากให้เปรียบเทียบสภาพของทั้งสอง ระหว่างก่อนเข้าเรือนจำกับสภาพในวันนี้ จะเห็นได้ชัดว่า บุ้งผอมลงมาก ส่วนลำคอและใบหน้าเล็กลงอย่างชัดเจน ร่างกายผอมเล็กลงในลักษณะตัวลีบเล็ก ตัวซีดเซียวคล้ายป่วยหนัก ด้านใบปอมีอาการเหนื่อยหอบ สีหน้าไม่สดชื่น ดูอ่อนล้า ซึ่งทนายย้ำอีกว่าใบปอก่อนเข้าเรือนจำดูสีหน้าสดใสกว่านี้เยอะมาก
ญาติบุ้งเผย คนส่วนใหญ่จำภาพบุ้งเกรี้ยดกราด แต่จริงๆ เป็นคนที่น่ารัก อ่อนโยน รักสัตว์ ขณะพ่อใบปอพูด ‘ศาลพรากอิสรภาพแล้ว ยังพรากโอกาสทางการศึกษาอีกหรือ’
ด้านญาติอีกคนที่มารอเข้ารับบุ้งและใบปอวันนี้ แต่ไม่สามารถเข้าห้องเวรชี้เพื่อเจอหน้าทั้งสองได้ เผยว่า คนส่วนใหญ่มีภาพจำของบุ้งว่าเป็นคนที่ค่อนข้างก้าวร้าว ไม่นอบน้อมกับผู้ใหญ่ แต่จริงๆ แล้วบุ้งเป็นคนที่น่ารักมาก ที่เห็นว่าบุ้งมักพูดออกสื่อด้วยถ้อยคำรุนแรงก็เป็นเพราะความโกรธเกรี้ยวกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น
“จริงๆ แล้วบุ้งเป็นคนที่น่ารักมาก คนรอบตัวจะรู้ดี เป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน รักสัตว์ ที่บ้านของบุ้งรับแมวจรจัดมาเลี้ยงดู 10 กว่าตัว เจอแมวที่ไหนบุ้งจะเข้าไปหาและเปลี่ยนไปเป็นอีกคนทันที เธอรักแมวมาก”
ญาติบุ้งเล่าว่า เป็นเพราะบ้านตรงข้ามบ้านบุ้งเป็นคุณอาสัตวแพทย์ที่เปิดคลินิกรักษาสัตว์ บุ้งจึงได้ใกล้ชิดกับสัตว์และช่วยหยิบจับให้คุณอาสัตวแพทย์มาตั้งแต่เด็กๆ ถึงกับขนาดว่า ตอนนี้บุ้งสามารถฉีดน้ำเกลือหรือยาให้แมวเองได้แล้ว รวมถึงวินิจฉัยอาการเบื้องต้นของแมวที่ไม่สบายได้อีกด้วย
ญาติของเธอบอกอีกว่า ถ้าบุ้งออกมาได้ อยากพาเธอไปกินแกงไตปลา หมูกรอบ และผัดสะตอ 3 เมนูของโปรดของบุ้ง เพราะครอบครัวของบุ้งพื้นเพเป็นคนใต้ จังหวัดสงขลา บุ้งเลยชอบอาหารที่มีรสเผ็ด จัดจ้าน ถึงเครื่อง
ญาติของบุ้งยังพูดถึงใบปอด้วยว่า ถ้าใบปอได้ออกมาอยากจะพาไปกินโดนัทคริสปี้ครีม เพราะก่อนจะเข้าเรือนจำ ใบปอส่งข้อความในลักษณะพูดซ้ำๆ มาขอร้องว่าขอให้ซื้อโดนัทคริสปี้ครีมจากห้างสรรพสินค้ามาให้กินหน่อย เพราะเธอชอบกินของหวานมาก แทบทุกอย่าง
วันนี้พ่อของใบปอก็มารอเข้าพบลูกสาวเช่นกัน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องเวรชี้ด้วย พ่อใบปอบอกว่า ใบปอและบุ้งอดอาหารนานกว่า 2 เดือนแล้ว อยากให้ศาลให้ประกันตัวลูกสักที เทอมที่ผ่านมา ศาลก็ให้ใบปอได้ประกันเพื่อออกมาสอบปลายภาค อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมอีกแล้ว (ปีการศึกษาที่ 2 ภาคการเรียนที่ 1) ในวันที่ 8 ส.ค. นี้ ศาลพรากทั้งอิสรภาพ โอกาสในการได้เรียน พรากไปหมดแล้วทุกอย่าง
ทั้งนี้ ทนายความเตรียมยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้งบุ้งและใบปอ ในคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้อีกครั้ง โดยจะเป็นการยื่นประกันตัวครั้งที่ 8
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ย้อนดูเส้นทาง ‘บุ้ง-ใบปอ’ อดอาหารประท้วง ทวงสิทธิประกันตัว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาจนอาการวิกฤต