วันที่ 13 มี.ค. 2566 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “พรชัย วิมลศุภวงศ์” หนุ่มปกาเกอะญอวัย 38 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 สืบเนื่องจากถูกฟ้องว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความ 4 ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เมื่อช่วงวันที่ 18 ต.ค. ถึง 19 พ.ย. 2563 มีเนื้อหาสื่อถึงพระมหากษัตริย์ที่วางตนไม่เป็นกลาง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และเชิญชวนให้ไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองในช่วงดังกล่าว
คดีนี้มี เจษฎา ทันแก้ว อดีตการ์ดของกลุ่ม กปปส. เป็นผู้กล่าวหาเอาไว้ที่ สภ.แม่โจ้ โดยจำเลยต่อสู้คดีว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้อง เนื่องจากเฟซบุ๊กของตนถูกแฮ็กในช่วงดังกล่าว
วันนี้ พรชัยเดินทางมาจากนนทบุรีอีกครั้ง เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังเขาต้องเดินทางมาอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อสู้คดีตั้งแต่ปี 2564
เวลา 9.33 น. สาธิต วคินเดชา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุประบุว่า จำเลยต่อสู้คดีรับว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กตามฟ้อง แต่ไม่ใช่ผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าว เนื่องจากถูกโจรกรรมบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวไป
ศาลได้พิเคราะห์แต่ละข้อความตามฟ้อง เห็นว่ามีเจตนากล่าวถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน มีการใช้สรรพนามไม่เหมาะสมและนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ทั้งยังชักชวนผู้อ่านข้อความให้เข้าร่วมการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลเห็นว่าจำเลยเพียงแต่กล่าวอ้างลอยๆ ว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวถูกโจรกรรม โดยไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีบุคคลได้นำภาพของจำเลยไปตัดต่อหรือใช้แทน หากมีผู้โจรกรรมเฟซบุ๊กจริง จำเลยน่าจะต้องแจ้งความหรือดำเนินการอย่างไรเพื่อหาตัวผู้กระทำ แต่จำเลยไม่ได้กระทำการดังกล่าว ทั้งเชื่อว่าโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน
เมื่อจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว และมีคลิปวิดีโอที่จำเลยไลฟ์แนะนำตนเองเผยแพร่ในเฟซบุ๊กดังกล่าวมาก่อน จึงเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้เผยแพร่ข้อความตามฟ้อง เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)
การกระทำของจำเลยเป็นคนละวันและเวลา ต่างกรรมต่างวาระกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดไป โดยให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักสุด ได้แก่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 4 กระทง รวมจำคุก 12 ปี
หลังอ่านคำพิพากษา ศาลแจ้งให้จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาได้ต่อไป และตำรวจศาลได้ควบคุมตัวพรชัยไปยังห้องขังใต้ถุนศาล ส่วนทนายความและนายประกันได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี
จนเวลา 15.10 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัย โดยเจ้าหน้าที่ศาลระบุให้นายประกันมาฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค. 2566) ต่อไป ทำให้ในคืนนี้ พรชัยต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ เพื่อรอฟังคำสั่งเรื่องประกันตัวต่อไป
ก่อนหน้านี้ หลังถูกจับกุมในคดีนี้ พรชัยเคยถูกคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสวนมาแล้ว ก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะอนุญาตให้ประกันตัวหลังถูกขังไป 44 วัน
ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าในคดีของพรชัยที่จังหวัดยะลา ศาลพิพากษาลงโทษเฉพาะกระทงที่เป็นการเผยแพร่คลิปวิดีโอภาพตนเองกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งจำเลยรับว่าเป็นผู้ไลฟ์สดจริง แต่ข้อความที่ถูกโพสต์หลังจากนั้นอีก 2 ข้อความ (เป็นคนละโพสต์กับคดีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่) เกิดขึ้นหลังได้ถูกแฮ็กเฟซบุ๊กไป ศาลพิเคราะห์แล้วได้ยกฟ้อง 2 กระทงดังกล่าวนี้ โดยเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่ปรากฏ URL ที่มาของข้อความในเอกสารที่นำมาแจ้งความ และพนักงานสอบสวนเบิกความว่าไม่แน่ใจว่าภาพถูกต้องตามต้นโพสต์หรือไม่ เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
.
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่ให้ประกันตัว ระบุเกรงจะหลบหนี
14 มี.ค. 2566 เดิมเจ้าหน้าที่ศาลนัดหมายนายประกันมาฟังคำสั่งในเวลา 13.30 น. แต่ในเวลาดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ก็ยังไม่ได้มีคำสั่งกลับมา
จนถึงเวลาประมาณ 17.11 น. ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาอ่านคำสั่งให้นายประกันฟัง โดยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
ศาลระบุคำสั่งเห็นว่าพฤติการณ์ในคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 12 ปี หากปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี ให้ยกคำร้อง
ทั้งนี้ ในคดีนี้หลังพรชัยถูกจับกุม และถูกคุมขังระหว่างสอบสวนเป็นเวลา 44 วัน ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีคำสั่งให้ประกันตัว หลังจากนั้น เขาก็เดินทางจากที่พักที่จังหวัดนนทบุรีมารายงานตัวและต่อสู้คดีโดยตลอด
ขณะเดียวกัน ในคดีตามมาตรา 112 ก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดเชียงรายได้มีคำพิพากษาในคดีของ “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย โดยลงโทษจำคุก 28 ปี จากการโพสต์เฟซบุ๊ก 14 ข้อความ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวมาแล้ว
.
อ่านบันทึกการสืบพยานในคดีพรชัยที่จังหวัดเชียงใหม่
อ่านเรื่องราวชีวิตของพรชัย การต่อสู้ของ “พรชัย”: จากคนบนดอย คนจร พ่อค้า ผู้ชุมนุม และผู้ถูกดำเนินคดี ม.112
.