พิพากษาจำคุก ม.112 ‘เวหา’ อีก 3 ปี ก่อนลดเหลือ 1 ปี 6 เดือน กรณีโพสต์ข้อความต่อคำพิพากษาคดีติดสติกเกอร์ กูKult

19 ธ.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลอาญานัดสืบพยานในคดีของ เวหา แสนชนชนะศึก ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 จากการโพสต์ภาพประกอบข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาสั่งจำคุก “นรินทร์” คดีซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ติดสติกเกอร์คำว่า “กูkult” ลงบนพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 

สำหรับคดีนี้มี กัญจ์บงกช เมฆาประพัฒน์สกุล สมาชิกของกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา เวหาเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2565 และเหตุที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ยังเป็นเหตุเดียวกันกับที่ทำให้เขาถูกศาลอาญาสั่งถอนประกันในคดี “คุกวังทวีวัฒนา” ด้วย 

เดิมศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสิ้น 3 นัด ในระหว่างวันที่ 19-21 ธ.ค. 2566 ในวันนี้ (19 ธ.ค. 2566) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 905 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวเวหา ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล ก่อนที่จะเริ่มต้นการสืบพยาน เวหาได้ตัดสินใจเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

ในวันเดียวกัน ศาลได้อ่านคำพิพากษาทันที โดยพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้นับโทษต่อจากคดีที่ศาลมีคำพิพากษาก่อนหน้านี้

ทบทวน 3 คดี มาตรา 112 ของ ‘เวหา’

คดีนี้ นับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 3 ของเวหา ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โดยเขาตัดสินใจเปลี่ยนคำให้การ ไม่ต่อสู้ในทุกคดี 

คดีที่ 1: ใช้บัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝน ver.เกรี้ยวกราด” เล่าประสบการณ์การถูกคุมขังในคุกเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล เขตทวีวัฒนา หรือ #คุกวังทวี และทวีตข้อความจนเกิดกระแสใน #แอร์ไม่เย็น บนทวิตเตอร์

วันเกิดเหตุ: 4-5 สิงหาคม 2564

ข้อหาที่ถูกฟ้อง: มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฟ้องเป็น 3 กระทง

ผลคำพิพากษา:  18 พ.ค. 2566 ศาลอาญาพิพากษาว่า เวหามีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

คดีที่ 2 : แชร์โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนของรัฐบาลเมื่อ 1 ส.ค. 2564 และโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ศาลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2565 

วันเกิดเหตุ: วันที่ 1 ส.ค. 2564 และ 1 ม.ค. 2565

ข้อหาที่ถูกฟ้อง: มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฟ้องเป็น 2 กระทง

ผลคำพิพากษา: 31 ต.ค. 2566 ศาลอาญาพิพากษาว่า เวหามีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง รวมโทษจำคุก 6 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 2 ปี 12 เดือน และให้ริบโทรศัพท์มือถือของกลาง กับให้นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขดำที่ อ.2697/2564 ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 18 เดือน ไปก่อนหน้านี้ 

คดีที่ 3: โพสต์ภาพประกอบข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาสั่งจำคุก “นรินทร์” คดีซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ติดสติกเกอร์คำว่า “กูkult” ลงบนพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 

วันเกิดเหตุ: วันที่ 4 มี.ค. 2565

ข้อหาที่ถูกฟ้อง: มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ผลคำพิพากษา: 19 ธ.ค. 2566 ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน

หลังจากวันที่ 18 พ.ค. 2566 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาคดีมาตรา 112 คดีแรกของเวหา ทำให้เขาถูกคุมขังเรื่อยมา จนถึงวันนี้ (19 ธ.ค. 2566) เวหาถูกคุมขังมาแล้ว 216 วัน

หลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีมาตรา 112 คดีสุดท้ายของเวหาแล้ว ทำให้หากนับโทษต่อกันทั้งสามคดี เวหาถูกพิพากษาโทษจำคุกทั้งสิ้น 6 ปี 36 เดือน (หรือประมาณ 9 ปี) 

โดยที่ในสองคดีหลัง ได้แก่คดีจากการแชร์โพสต์เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก และคดีจากการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาจำคุกคดีติดสติกเกอร์ กูKult ยังอยู่ระหว่างรอว่ามีการอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ ส่วนคดีแรกที่มีเหตุมาจากการทวิตเรื่องคุกวังทวีและแอร์ไม่เย็นนั้น คดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

อ่านฐานข้อมูลคดีนี้ คดี 112 “เวหา” คดีที่ 3 ถูก ศปปส. แจ้งความ หลังโพสต์เกี่ยวกับคำพิพากษาคดีติดสติกเกอร์ กูKult

X