การอดอาหารของ “เวหา” วันที่ 16 - ส่วน ‘ทีปกร’ ติดตามนโยบายเรื่องนิรโทษกรรม

วันที่ 7 ก.ย. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “เวหา” ผู้ถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เวหาอดอาหารเพื่อเรียกร้องเรื่องสิทธิการประกันตัวมาแล้ว 16 วัน ทำให้เขาน้ำหนักลดลงเหลือประมาณ 55 กิโลกรัมจาก 60 กิโลกรัม

นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยม “กิ๊ฟ” ทีปกร ผู้ถูกฟ้องคดีมาตรา 112 และถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี โดยทั้งสองคดีเป็นคดีที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์จนถึงปัจจุบัน

เวหา อดอาหารวันที่ 16: ณ ตอนนี้ ผมยังไหวอยู่

เมื่อเจอกัน เวหาดูเหนื่อยอ่อนและนั่งเท้าแขน เมื่อแจ้งถึงเรื่องแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลจากในสภา พอจะถือได้หรือยังว่าข้อเรียกร้องของเขาสำเร็จไปแล้ว 1 ข้อ

เวหาตอบว่า “จริงๆ การที่เขาเอาเรื่องของพวกเราไปพูดในสภา มันเกินความคาดหมายครับ เพราะข้อเรียกร้องของเรามีเรื่องนิรโทษกรรมด้วย ดีที่ได้รู้ความคืบหน้าว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดัน ก็ขอบคุณมากๆ ครับ

“แต่ก็ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ ผมก็เลยยืนยันว่าจะยังอดอาหารเพื่อเรียกร้องต่อครับ ใช้สภาพร่างกายในการต่อรอง มันดูไม่โอเคเลยนะที่เราต้องทำขนาดนี้ พวกเราแทบจะกินนอนที่ศาลอาญาอยู่แล้ว จะเอาอะไรมาบอกว่าจะหลบหนี

“ผมจำได้ว่าก่อนเลือกตั้ง ในเสวนาเรื่องนิรโทษกรรม มีตัวแทนพรรคเพื่อไทยไปร่วมเสวนาด้วย จำได้ว่า เขาเคยพูดว่าถ้าพรรคก้าวไกลนำเรื่องเข้าสภา หรือพรรคไหนทำเรื่องนี้ เพื่อไทยก็จะสนับสนุน ผมก็ขอทวงสัญญานี้จากพรรคเพื่อไทยแล้วกัน ว่าจะทำจริงไหม”

สำหรับอาการทางกาย เวหาบอกว่าอาการทรงๆ ไม่ค่อยรู้สึกอยากอาหารแล้ว เหนื่อย ล้า อ่อนเพลีย มีเลือดออกตามไรฟัน ปวดท้องเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ปวดเหมือนเวลาเป็นโรคกระเพาะ

เวหาบอกว่าวันพรุ่งนี้เขาจะออกไปพบหมอ ไม่แน่ใจว่ากี่โมง อาจจะเป็นช่วงสาย ไม่เกินบ่ายโมง หากทนายจะเข้าเยี่ยมก็อยากให้มารอบเช้าสุด หรือไม่ก็บ่ายโมงไปเลย

อย่างไรก็ตาม เวหาอยากให้ลองยื่นประกันตัวเขาอีกสักครั้ง

“ผมอยากรู้ว่าศาลจะฟังข้อเรียกร้องของพวกเราไหม ถ้าหากว่ายื่นประกันแล้วยังไม่ได้ ผมก็จะพิจารณาการเคลื่อนไหวต่อ ว่าจะทำอย่างไรบ้าง แต่สภาพร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ผมปวดท้องเหมือนเป็นโรคกระเพาะ ซึ่งมันอาจจะเป็นโรคระยะยาว แล้วผมได้สัญญากับคุณแม่ไว้ว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองมากเกินไป อยากจะรักษาสุขภาพไว้หน่อย

“แต่ ณ ตอนนี้ ผมยังไหวอยู่ครับ ยืนยันจะอดอาหารต่อไป”

อย่างไรก็ตาม ขณะพูดคุยกันมีเจ้าหน้าที่เรือนจำ 6 คน เปิดประตูเข้ามายืนล้อมหลังเวหา ทำให้ทนายรู้สึกตกใจมาก มีคนหนึ่งผายมือมาทางเวหาแล้วอธิบายอะไรสักอย่างครู่หนึ่ง ก่อนจะออกไป เมื่อพวกเขาออกไปแล้ว เวหาก็ถามว่า ได้ยินไหม เมื่อทนายบอกว่าไม่ได้ยิน เขาจึงเล่าให้ฟังว่า

“ตอนผมเข้าเรือนจำใหม่ๆ จะมีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปรายงานใช่ไหมครับ หลังๆ มานี้เขาเห็นว่าผมอยู่ได้ จึงไม่ได้มาตามถ่ายเหมือนเดิม แต่ว่าตอนนี้เริ่มกลับมาอีกละ

“ตอนเช้าเจ้าหน้าที่บอกผมว่ามีคำสั่งจาก ผอ.ส่วนควบคุมกลาง อยากให้มีการรายงานเรื่องผมเป็นพิเศษว่าระหว่างวันผมใช้ชีวิตยังไง ล้มหมอนนอนเสื่อไปหรือยัง อาจจะเพราะข่าวที่ผมอดอาหารเผยแพร่ออกไปมั้ง

“วันนี้เจ้าหน้าที่ก็มาค้นตัวตอนจะออกเยี่ยม ทั้งที่ปกติจะเป็นผู้ต้องขังด้วยกัน แล้วก็มีการถ่ายรูป เมื่อกี้คนที่ยืนพูดอยู่ เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมการเยี่ยมญาติ บอกว่าการเยี่ยมจะเป็นแบบนี้ ผู้ต้องขังจะเล่าให้ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทนายก็จะจดไปเผยแพร่ เราไม่ได้ส่งเอกสารอะไรออกไปด้วยตัวเอง เขาจะมาเยี่ยมห้องนี้ ประมาณนั้น

“ชินกับอะไรแบบนี้แล้วครับ มันเป็นเรื่องปกติของที่นี่ไปแล้ว ถ้าอยู่ข้างนอกคงอึดอัดพอสมควร”

ปัจจุบัน เขาถูกคุมขังมาแล้ว 113 วัน

———–
สำหรับ 3 ข้อเรียกร้องของเวหา ได้แก่

เรียกร้องให้ ‘สส.’ ที่กุมอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน เข้ามารับข้อเสนอ “ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม” จากพวกเราผู้ต้องขังในเรือนจำ
เรียกร้องไปถึง ‘คณะรัฐมนตรีชุดใหม่’ ที่กุมอำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน ออกมาแถลงความคืบหน้าและความเป็นไปได้ของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง
เรียกร้องไปถึง ‘ศาล’ ผู้กุมอำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน ให้คืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมืองที่คดียังไม่สิ้นสุดเด็ดขาด และปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่คดีสิ้นสุดเด็ดขาดแล้ว

ทีปกร: ปัญหาเรื่องงานตัดผมในเรือนจำ

กิ๊ฟ ทีปกร ที่นั่งรออยู่ ไม่ได้ยิ้มแย้ม แต่ก็ไม่มีอาการซึม ปัจจุบันเขาพักอยู่แดน 5 ซึ่งเป็นแดนของผู้ต้องขังที่มีคำพิพากษาแล้ว โดยห้องที่เขาอยู่จะมี ธี ถิรนัย อยู่ด้วย ส่วน บาส ประวิตร และ มาร์ค ชนะดล ก็อยู่แดน 5 เช่นกัน แต่อยู่คนละห้อง

กิ๊ฟเล่าถึงสุขภาพของเขาให้ฟังว่า “จากช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ไม่สบาย ไม่รู้ว่าเพราะไข้หวัดหรือโควิดกันแน่ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว ไม่ได้หายเพราะยา แต่อาการไข้หายไปเอง แต่มีการระคายคออยู่นิดหน่อย ไม่ได้ขอยามากิน เพราะการจะขอยาต้องมีการลงชื่อ ซึ่งช่วงที่จะไปรับยาตรงกับช่วงที่ทนายหรือญาติมาเยี่ยมตลอด”

เมื่อเล่าถึงสถานการณ์ทางการเมืองและข่าวการอดอาหารของเวหาและวารุณีให้ฟัง กิ๊ฟแสดงความคิดเห็นและยังฝากถึงพรรคก้าวไกล เขาอยากให้ทั้งในรัฐสภาและนอกสภาเดินไปทางเดียวกัน เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน เพื่อให้มีพลัง

“อยากให้ติดตามการทำงานตามนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยมากๆ และอยากสอบถามถึงเรื่องนิรโทษกรรม ว่าพรรคก้าวไกลมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้ และสอบถามว่าพรรคก้าวไกลมีความเห็นยังไงกับนักโทษทางการเมืองที่ถูกขังอยู่ในตอนนี้”

“ในแดนตอนนี้ มีการพูดถึงเรื่องทักษิณจำนวนมาก และมีการพูดถึงเรื่องการขออภัยโทษด้วย พร้อมกับบอกว่า คนข้างใน (ที่ไม่ใช่คดีการเมือง) พูดกันเยอะว่าถ้าทักษิณกลับมาพวกเราก็จะได้รับอภัยโทษด้วยแล้ว น่าจะอยู่ไม่นาน”

ปัจจุบันกิ๊ฟทำงานอยู่ในกองงานตัดผมในเรือนจำ เขาเล่าถึงเรื่องดังกล่าวด้วยความอึดอัดใจ เนื่องจากช่วงนี้มีช่างนอกกองงานมาตัดผมให้คนในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่มักตัดผมผิดระเบียบให้ผู้ต้องขัง โดยที่กิ๊ฟทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยให้เขาตัด แต่ผบ.แดน ไม่ยอม ทำให้เขาและเสมียนงานต้องรับผิดชอบ

“ถ้าห้ามช่างนอก ก็อาจจะผิดใจกับพวกบ้านในแดน แต่ถ้าไม่ห้ามช่างก็จะมีปัญหากับ ผบ.แดน ช่วงนี้เลยรู้สึกเบื่อ คิดว่าถ้าทนไม่ไหวจะลาออกจากกองงานแล้วอยู่เฉยๆ นอนเฉยๆ จะดีกว่า”

กิ๊ฟยังฝากทิ้งท้ายว่าอยากได้หนังสือเกี่ยวกับกฎหมายมหาชนที่อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เขียน ให้ลองส่งเข้ามาในเรือนจำ

ปัจจุบัน เขาถูกคุมขังมาแล้ว 81 วัน