บันทึกเยี่ยม ‘ทีปกร-ประวิตร-ชนะดล’: ทุกคนยังพยายามต่อสู้อยู่

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2566 ทนายความได้เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “กิ๊ฟ” ทีปกร หมอนวดอิสระ วัย 38 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี และศาลยังไม่ให้ประกันระหว่างอุทธรณ์

ทั้งเข้าเยี่ยม “บาส” ประวิตร (สงวนนามสกุล) หนุ่มวัย 20 ปี ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาในความผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ รวมจำคุกทั้งสิ้น 6 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงการลงโทษ จากกรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันวางเพลิงป้อมตำรวจจราจร บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ภายหลังการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา เมื่อปี 2564 

และ “มาร์ค” ชนะดล ผู้ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี กรณีถูกกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง (ระเบิดปิงปอง) จากกรณีเข้าร่วมชุมนุมบริเวณดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 ซึ่งศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างพิจารณา ภายหลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง

.

กิ๊ฟ ทีปกร: การต่อสู้ไม่รู้ว่ามันจะกินเวลาไปอีกนานแค่ไหน แต่ตัวเราเองก็ยังคงสู้อยู่ตลอดเหมือนกัน

ทีปกรเล่าให้ฟังว่าอาการป่วยของเขาดีขึ้นแล้ว อาการหน้ามืดก็ดีขึ้น แต่ยังมีอาการอยู่บ้าง พอมีอาการ เขาจะหาน้ำหวานกิน นอกจากนี้เพื่อให้ได้พักมากขึ้น เขาจึงออกจากกองงานที่ห้องสมุด  

กิ๊ฟบอกว่าตั้งแต่เข้าเรือนจำมารู้สึกว่าสุขภาพแย่ลง เลยออกจากกองงานเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนและออกกำลังกาย

“งานในห้องสมุดต้องทำทุกวัน ไม่ค่อยได้มีเวลาพัก และเราเองก็อยากออกกำลังกาย อยากทำสุขภาพของตัวเองให้ดีก่อน” 

นอกจากนี้ กิ๊ฟบอกว่าอาการนอนหลับของเขาดีขึ้น เนื่องจากเริ่มปรับตัวได้มากขึ้น มีเพียงเรื่องร่างกายที่ต้องฟื้นฟู

“ช่วงที่ผ่านมาอ่อนแอลงจากความเครียด ซึ่งสำหรับความเครียดก็พยายามจัดการให้ดีมากขึ้น กังวลน้อยลง แต่ก็ยังเป็นห่วงครอบครัว ลูก คนข้างนอก รวมถึงอนาคตของเราอยู่”

สำหรับเรื่องการถูกถ่ายภาพชีวิตประจำวันในเรือนจำ กิ๊ฟบอกว่ายังคงมีคนมาถ่ายรูปเขาอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มาบ่อยเหมือนตอนแรกแล้ว 

เขายังฝากบอกที่บ้านและคนที่เป็นห่วงว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงมาก ทางเราก็พยายามดูแลตัวเองอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์นี้” 

“ฝากถึงนักต่อสู้ท่านอื่นๆ เป็นกำลังใจให้เสมอ อย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะการต่อสู้ไม่รู้ว่ามันจะกินเวลาไปอีกนานแค่ไหน แต่ตัวเราเองก็ยังคงสู้อยู่ตลอดเหมือนกัน”

ปัจจุบัน (16 ส.ค. 2566) กิ๊ฟ ทีปกร ถูกคุมขังมาแล้ว 59 วัน 

.

บาส ประวิตร: เป็นห่วงลูก อยากกลับไปหาลูกเเล้ว

บาสเล่าว่าความเครียดของเขาลดลง ปัจจุบันไม่เครียดเท่าไรเเล้ว และสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วย ทั้งนี้เขายังไม่ได้จำเเนกกองงาน ยังคงฝึกอยู่เหมือนเดิม (การฝึก คือการออกกำลังกาย ประมาณ 10 ท่า เป็นประจำ) และยังเข้าไปห้องสมุดอยู่บ้างบางครั้ง 

ในส่วนของอาหารการกินในเรือนจำ เขาว่า “ตอนนี้ก็อาศัยกินกับเพื่อน เพราะอาหารเรือนจำ บางทีเนื้อก็ไม่สุก มีขนปนมาบ้าง กับข้าวมันไม่โอเค กินไม่ได้เลย กินได้เเค่ข้าว” 

บาสบอกอีกว่าในเรือนจำมีประกาศเปิดให้เยี่ยมญาติใกล้ชิด แต่คิดว่าเขาน่าจะยังไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะได้เยี่ยมใกล้ชิด เนื่องจากเขาเพิ่งเข้ามาใหม่ด้วย แต่ก็หวังว่าตัวเองอาจจะมีสิทธิ

“ยังไงก็ต้องรอดูประกาศจากทางเรือนจำอีกทีครับ”
 

นอกจากนี้เขาบอกว่าเรือนจำกำลังจะมีเปิดคอร์ส สอน อ่าน เขียน แต่ตอนนี้ยังไม่เปิด บาสคิดว่าถ้าเปิด บาสจะลองลงเรียนดู เพราะเขาเองก็อยากพัฒนาการอ่าน-การเขียนของตัวเอง 

บาสยังได้พูดคุยเกี่ยวกับคดีของตนเอง เขามองว่าโทษที่ถูกตัดสิน รุนเเรงไปสำหรับวัย 19 ปี (ในขณะเกิดเหตุ) และเขาเองไม่เคยทำความผิดใดๆ มาก่อน ส่วนเงินค่าปรับเขาก็คงต้องติดคุกแทนการจ่าย ถ้าสามารถที่จะทำได้ 

“เป็นห่วงลูก อยากกลับบ้าน และอยากกลับไปหาลูกเเล้ว กังวลเรื่องโทษมาก อยากประกันออกไปเเล้ว”


ปัจจุบัน บาส ประวิตร ถูกคุมขังมาแล้ว 37 วัน
 

.

มาร์ค ชนะดล: ผมจะพยายามสู้ต่อไปในทุกทาง ยังเชื่อจะมีความเปลี่ยนแปลงในสังคม

ทนายความสังเกตว่าวันนี้มาร์คตัดผมเกรียนทั้งสามด้านแล้ว เขากล่าวทักทายทันทีที่เจอ “นึกว่าพี่จะไม่มาแล้ว ช่วงนี้ผมเบื่อมากๆ เลย พยายามไปทำงานเพื่อเอาไม่ให้คิดมาก แต่ผมก็ยังเบื่อๆ เซ็งๆ พี่ๆ ที่ทำงานเค้าก็พยายามดึงสติผม ชวนผมคุย ทำนั่นนี่ตลอด แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่ามันยากมากๆ”

“กว่าจะได้ออกศาลอีกที โคตรนาน โคตรน่าเบื่อเลย มันตั้งเดือนตุลา ผมทั้งเฝ้ารอประกัน รอวันออกจากที่นี่ วันแม่ ไม่รู้ว่าเค้าเปิดให้เยี่ยมกรณีพิเศษอีกไหม ก็อยากให้ที่บ้านมาแหละ คิดถึงที่บ้าน อยากกลับบ้านมากๆ”

หลังจากระบายความในใจเกี่ยวกับการถูกคุมขัง มาร์คก็เล่าเรื่องการเยี่ยมทางไลน์กับครอบครัวให้ฟัง

“เมื่อต้นสัปดาห์ที่บ้านลงเยี่ยมไลน์ ผมเพิ่งรู้ว่าแม่ล้ม แบบเดินๆ อยู่แล้วก็ล้มกับพื้น เพราะขาไม่มีแรง น้าบอกว่าแม่ต้องไปโรงพยาบาลเลย แต่ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แม่ผมเค้ามีปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขา ตรงข้อพับหัวเข่า จริงๆ ต้องผ่านตัดนานแล้ว แต่เค้าไม่ยอมผ่า เพราะจะรอผมออกไป”

“เรื่องนี้ทำให้ผมกลับมาคิดมากเลย มันไม่รู้จะทำยังไง ถ้าผมอยู่ผมคงบอกเค้าให้พักงาน ผมคงดูแลเค้าได้ เค้าต้องผ่าเข่าแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่าสักที เพราะผมอยู่ในนี้ มันยิ่งทำให้ผมอยากกลับบ้าน อยากออกไปจากที่นี่ไวๆ”

มาร์คยังได้พูดทิ้งท้ายว่า “ผมยังเชื่อเสมอว่าสังคมมันเปลี่ยนแปลง สังคมมันจะเปลี่ยนแปลงจากคนทุกคนช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย เหมือนที่หลายคนออกมาชุมนุม มันก็คือการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง แม้ว่าวันนี้ผมจะเซ็ง และเบื่อมากๆ แต่ผมก็จะพยายามสู้ต่อไปในทุกทาง ผมไม่มีวันลืมสิ่งที่ศาลทำกับผม”


ปัจจุบัน “มาร์ค ชนะดล” ถูกคุมขังมาแล้ว 155 วัน

ย้อนอ่านเรื่องมาร์ค “แม่อยากกอดเขา”: การต่อสู้ของแม่ “มาร์ค ชนะดล” เมื่อลูกชายต้องถูกคุมขัง

X