ยกฟ้อง ม.112 “พิพัทธ์” หนุ่มพิษณุโลก ชี้พยานหลักฐานผู้กล่าวหาไม่น่าเชื่อถือ อาจผ่านการตัดต่อแก้ไข

26 ต.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “พิพัทธ์” (สงวนนามสกุล) หนุ่มวัย 21 ปี จากจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งถูกฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) สืบเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้โพสต์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ พร้อมใส่ข้อความแทรกบนภาพ 2 ประโยค ในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส”

ย้อนอ่านประมวลคดี >> จับตา 26 ตุลา ศาลสมุทรปราการนัดพิพากษาคดี ม.112 “พิพัทธ์” หนุ่มพิษณุโลก กรณีถูกกล่าวหาโพสต์ข้อความในกลุ่ม “ตลาดหลวง” ปี 63

ที่ห้องพิจารณา 12 เวลา 09.00 น. พิพัทธ์, ผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลย และนายประกันได้ทยอยมาศาล นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย 

ก่อนเริ่มอ่านคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลได้เดินมาใส่กุญแจมือ “พิพัทธ์” ก่อนที่เวลา 10.07 น. ชาริณี โค้วธนพานิช ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ออกนั่งอ่านคำพิพากษา มีใจความโดยสรุปว่า

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ พิเคราะห์ว่า หลักฐานที่ผู้กล่าวหานำมาแจ้งความ เป็นการแคปภาพหน้าจอ (Capture) ของโพสต์มาจากกลุ่ม “รอยัลลิสต์ มาร์เกตเพลส” กับหน้าบัญชีเฟซบุ๊กของจำเลย นำมารวมกันก่อนปรินท์ภาพออกมา จึงไม่ใช่สิ่งพิมพ์ออกจากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง

ที่สำคัญผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นพยานจำเลยเบิกความว่า ภาพหลักฐานดังกล่าวที่ผู้กล่าวหานำมาแสดง สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตัดต่อได้ รวมถึงพยานหลักฐานของโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์มีจุดเริ่มต้นส่งข้อมูล และปลายทางส่งข้อมูลเป็นอย่างไร หมายเลขประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์คืออะไร ซึ่งเป็นข้อมูลระบุตัวตนสำคัญ ว่าขณะเกิดเหตุจำเลยอยู่ที่ใด และใช้อุปกรณ์อะไรขณะกระทำผิด จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง พิพากษายกฟ้อง

.

“พิพัทธ์” ระบุยินดีที่ศาลยกฟ้อง ยืนยันว่าเสรีภาพและการแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันฯ เป็นสิ่งที่ควรทำได้

หลังฟังคำพิพากษา “พิพัทธ์” ได้แสดงความรู้สึกที่มีต่อคำพิพากษาสั้น ๆ ว่า “ผมรู้สึกโล่งใจและดีใจมากที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง เพราะเมื่อคืนผมเตรียมใจไว้แล้วว่า ศาลอาจจะลงโทษ” 

ทั้งนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว แต่พิพัทธ์ก็ได้รับผลกระทบจากการถูกดำเนินคดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาล เสียโอกาสในการทำงาน รวมถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ลง

“การถูกดำเนินคดีทำให้ผมเสียเวลาชีวิตมาก ผมโดนดคีก็บอกใครไม่ได้ พ่อแม่ก็ไม่ได้บอก เพราะว่าเขาเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ผมเลยไม่กล้าบอก ไม่อยากให้กังวล ผมต้องเดินทางมาจากพิษณุโลกมาที่สมุทรปราการเพื่อขึ้นศาลหลายครั้ง ตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงการพิจารณาในชั้นศาล ผมเสียค่าใช้จ่ายวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท มีทั้งค่ารถและค่าที่พักอาศัยระหว่างที่มาสืบพยานที่นี้ หากผมไม่ถูกดำเนินคดีก็คงจะมีเวลาไปทำงาน”

แม้พิพัฒน์จะไม่ได้กระทำความผิดมาตรา 112 ตามที่ถูกกล่าวหา แต่เขาก็มองว่ามาตรา 112 นี้เป็นปัญหาเพราะมันปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น “ส่วนตัวผมคิดว่า หากเป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องถูกวิจารณ์ได้ ยกตัวอย่างอังกฤษ ประชาชนทั่วไปก็สามารถล้อเลียนวิจารณ์กษัตริย์ได้” 

อนึ่ง คดีนี้มี อุราพร สุนทรพจน์ เป็นผู้กล่าวหา ซึ่งนอกจากคดีนี้แล้วอุราภรณ์ยังแจ้งความคดีมาตรา 112 ที่ สภ.บางแก้ว อีกไม่ต่ำกว่า 5 คดี จากจำนวนคดีมาตรา 112 ของสถานีตำรวจแห่งนี้ที่มีอยู่ไม่น้อยกว่า 14 คดี 

.

X