ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง ม.112 “นคร” ช่างแต่งหน้าชาวเชียงราย หลังต่อสู้คดีนานกว่า 2 ปี ชี้ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์

28 พ.ย. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1  ในคดีของ “นคร” (นามสมมติ) ช่างแต่งหน้าชาวเชียงรายวัย 30 ปี ซึ่งถูกฟ้องในข้อหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)(5) จากการแชร์โพสต์ข้อความจากเพจ “Thai Athoist เพจคนไม่เชื่อพระเจ้า V2” และ “KonthaiUK” โดยพิพากษายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น

คดีนี้มี ‘ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล’ เป็นผู้กล่าวหา ไว้ที่ สภ.บางแก้ว ก่อนอัยการยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2564 กล่าวว่า จำเลยได้แชร์โพสต์เฟซบุ๊ก รวม 2 โพสต์ด้วยกัน ได้แก่

  1. แชร์โพสต์จากเพจ “Thai Atheist เพจคนไม่เชื่อพระเจ้า V2” โดยมีภาพของรัชกาลที่ 5 พร้อมข้อความในรูปว่า “ประวัติศาสตร์ ราชวงศ์จักรีตามจริง ที่โรงเรียนไทยไม่เคยสอน ร.1 ฆ่าเพื่อน ชิงบัลลังก์ ร.2 ตามเก็บลูกหลานพระเจ้าตากตายเกลี้ยง หมด”
  2. แชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “KonthaiUK” ที่โพสต์ภาพรัชกาลที่ 10 เป็นภาพขอรัชกาลที่ 10 พร้อมข้อความในภาพว่า “ข่าวด่วนต่างประเทศคนเยอรมันเดือด สั่งนักการเมืองฟ้อง ‘เราไม่ ต้องการกษัตริย์ของคุณที่นี่’” โดยจำเลยได้พิมพ์ข้อความประกอบว่า  “แชร์ไปอ่านเป็นวิทยาทานอย่างหนึ่ง”

.

คดีเข้าสู่การสืบพยานในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 จนเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้พิพากษายกฟ้อง ระบุโดยสรุปว่า เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จำเลยเป็นผู้แชร์โพสต์ทั้งสองโพสต์ดังกล่าว เมื่อจําเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ลําพังเพียงจําเลยเป็นเจ้าของ และผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงยังมีความสงสัยตามสมควรว่าจําเลยได้กระทําความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงต้องยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง 

ฝ่ายโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีใจความสำคัญโดยสรุปว่า จำเลยเป็นเจ้าของและเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้อง ผู้ที่โพสต์หรือส่งข้อความย่อมต้องเป็นจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง 

ก่อนที่ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้

.

วันนี้ (28 พ.ย. 2566) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 นครเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับทนายความ ในวันนี้ห้องพิจารณาคดีที่ 7 มีเพียงนัดหมายคดีของนครเท่านั้น เวลาประมาณ 08.50 น. ศาลออกนั่งอ่านคำพิพากษา โดยสรุปใจความสำคัญได้ว่า

คดีลักษณะนี้มีความอ่อนไหวเนื่องจากกระทบกระเทือนจิตใจของปวงชนชาวไทยและเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมายจึงต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง จะลงโทษจำเลยได้ก็ต่อเมื่อได้รับการพิสูจน์อย่างสิ้นสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดจริง จึงเป็นหน้าที่โจทก์ที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามข้อกล่าวอ้าง 

ดังนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ลำพังเพียงจำเลยเป็นเจ้าของและผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวจะอนุมานว่าจำเลยต้องเป็นผู้โพสต์ข้อความนั่นเองย่อมไม่ได้ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ ์ภาค 1 เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่าคดีนี้เป็น 1 ใน 9 คดี ที่มี “ศิวพันธ์ุ มานิตย์กุล” เป็นผู้กล่าวหา โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าเป็นคดีที่เกิดจากการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์กลางปี 2563 และตำรวจเริ่มออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงปี 2564 โดยคดีเหล่านี้ทยอยมีการสืบพยานและมีคำพิพากษาบ้างแล้ว 

ฐานข้อมูลคดีนี้

คดี 112 “นคร” ช่างแต่งหน้าชาวเชียงราย ถูกประชาชนแจ้งความที่สมุทรปราการ กล่าวหาแชร์โพสต์ KonthaiUK – Thai Atheist พาดพิงกษัตริย์

X