ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนคดี ม.112 “ปุญญพัฒน์” ผู้ป่วยพัฒนาการช้า ลงโทษจำคุก 4 ปี 24 เดือน เห็นว่าไม่ได้วิกลจริตถึงขนาดสู้คดีไม่ได้ 

วันที่ 30 ม.ค. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีของ “ปุญญพัฒน์”​ (นามสมมติ) ประชาชนชาวกำแพงเพชร อายุ 31 ปี ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 4 ข้อความ ลงในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เกตเพลส” เมื่อวันที่ 9-10 พ.ค. 2563 โดยมี 2 ข้อความกล่าวถึงรัชกาลที่ 10 และการพำนักอยู่ที่ประเทศเยอรมนี

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 4 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญา พิเคราะห์ หากจำเลยมีความบกพร่องทางสมองหรือจริตตามที่กล่าวอ้าง จำเลยไม่น่าใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ โพสต์ข้อความเท็จในกลุ่มเครือข่าย โดยข้อความเป็นการจาบจ้วงและละเมิดเบื้องสูง แม้จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีนี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษ 

คดีนี้ เป็นหนึ่งใน 9 คดี (เท่าที่ทราบข้อมูล) ที่มี ‘ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล’ เป็นผู้กล่าวหาไว้ที่ สภ.บางแก้ว โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าเป็นคดีที่เกิดจากการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์กลางปี 2563 และตำรวจเริ่มออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงปี 2564 สำหรับกรณีปุญญพัฒน์เข้ารับทราบข้อหาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564

“ปุญญพัฒน์” กลับคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 12 ปี ก่อนลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี 24 เดือน

หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนเริ่มต้นการสืบพยานเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 ปุญญพัฒน์ และครอบครัวได้ตัดสินใจกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และได้แถลงต่อศาลถึงอาการผิดปกติของบุคลิกภาพและการสื่อสารของจำเลยที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด

อย่างไรก็ตาม หลังศาลสอบถามพูดคุยกับจำเลยแล้ว เห็นว่าจำเลยสามารถพูดโต้ตอบได้ จึงเห็นว่าไม่ได้วิกลจริตถึงขนาดไม่สามารถต่อสู้คดี ไม่จำเป็นต้องส่งตัวจำเลยไปพบแพทย์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 และได้สั่งให้สืบเสาะพินิจพฤติการณ์จำเลยเพิ่มเติม ก่อนนัดฟังคำพิพากษาต่อมา 

ย้อนอ่านเรื่องของปุญญพัฒน์จากมุมมองของแม่ >>  “แม่หวังว่าศาลจะยุติธรรม” ความหวังของแม่ ‘ปุญญพัฒน์’ เมื่อลูกชายที่เป็นผู้ป่วยพัฒนาการช้า ต้องถูกดำเนินคดี ม.112

จากนั้นเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2565 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง รวม 4 กระทง จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 12 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี 24 เดือน (หรือประมาณ​ 6 ปี) และพิเคราะห์จากรายงานการสืบเสาะและพินิจแล้ว ยังไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ 

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ปุญญพัฒน์​ ได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ โดยใช้หลักทรัพย์เดิม 150,000 บาท และวางเพิ่มอีก 75,000 บาท รวมแล้วเป็น 225,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา และศานัดฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ในวันนี้ 

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำคุก 4 ปี 24 เดือน ชี้ไม่ได้วิกลจริตถึงขนาดสู้คดีไม่ได้  ผลประเมินความเสี่ยงในการกระทำผิดซํ้า จำเลยมีความเสี่ยงสูงในการกระทำผิดซํ้าในลักษณะเดียวกัน

วันนี้ (30 ม.ค. 2567) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 19 “ปุญญพัฒน์” พร้อมด้วยบิดาและมารดา พร้อมนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ ได้เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดี 

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา โดยสรุปว่า พิพากษาจำคุก 4 ปี 24 เดือน พิเคราะห์แล้วมาตรา 112 เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เนื่องจากประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  การกระทำของจำเลยจึงเป็นเรื่องร้ายแรง และเมื่อพิจารณาจากการสืบเสาะ  ผลประเมินความเสี่ยงในการกระทำผิดซํ้า จำเลยมีความเสี่ยงสูงในการกระทำผิดซํ้าในลักษณะเดียวกัน น่าเชื่อว่าเป็นการยากที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของจำเลย

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่า กระทำการไปด้วยความพลาดพลั้ง เบาปัญญา ความผิดปกติของสมอง ทนายขอให้ส่งจำเลยไปตรวจอาการทางสมองเพื่อประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลย จำเลยสามารถตอบคำถามได้ แม้จะมีอาการขาดความจดจ่อในการสนทนาไปบ้าง ทั้งจำเลยแถลงว่ากระทำผิดเนื่องจากความคึกคะนอง ใช้สื่อออนไลน์ไม่ทันยั้งคิด

ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยสามารถต่อสู้คดีได้ ไม่ได้วิกลจริตถึงขนาดไม่สามารถต่อสู้คดีได้ จึงไม่ส่งจำเลยไปพบเเพทย์ตาม ประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาอาญามาตรา 14 และหากจำเลยมีความบกพร่องทางสมองหรือจริตตามที่กล่าวอ้าง จำเลยไม่น่าใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ โพสต์ข้อความเท็จในกลุ่มเครือข่าย โดยข้อความเป็นการจาบจ้วงและละเมิดเบื้องสูง 

แม้จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนหรือมีเหตุตามอุทธรณ์หรือไม่ก็ตาม กรณีนี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษ อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น

เวลา 10.00 น. ปุญญพัฒน์ ได้ถูกควบตัวไปที่ห้องขังใต้ถุนศาล นายประกันได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยทันที 

ก่อนศาลจังหวัดสมุทรปราการมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างฎีกา โดยให้วางหลักทรัพย์เพิ่มเป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท รวมหลักทรัพย์ประกันตัว 250,000 บาท

ฐานข้อมูลคดีนี้

คดี 112 “ปุญญพัฒน์” ถูกประชาชนแจ้งความกล่าวหาโพสต์ 4 ข้อความใน “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส”

X