ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ‘อัปสร’ คดี ม.112 แต่ให้รอลงอาญา เหตุแชร์โพสต์ปวินวิจารณ์ราชวงศ์ไทย แม้ไม่ได้ใส่คำบรรยายใด

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2565 เวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา รัชดาฯ นัดอ่านคำพิพากษาในคดีของ ‘อัปสร’ (นามสมมติ) หญิงข้ามเพศ (Transwoman) วัย 23 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) สืบเนื่องจากการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำการประชาสัมพันธ์ของสมาชิกราชวงศ์ไทย ต่อมาศาลพิพากษาให้จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี และให้รอลงอาญาไว้ มีกำหนด 3 ปี 

คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2563 สุรภพ จันทร์เปล่ง รับมอบอำนาจจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีนี้ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) ต่อมา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 อัปสรจึงได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญา กระทั่งเมื่อถึงนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 30 ส.ค. 2565 อัปสรกลับคำให้การเดิม เป็นรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงสั่งให้สืบเสาะพฤติการณ์เพิ่มเติมและนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้

ทั้งนี้ เหตุที่อัปสรถูกกล่าวหามาจากการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เพียงโพสต์เดียวเท่านั้น และเธอก็ไม่ได้เขียนข้อความใดๆ ประกอบโพสต์ดังกล่าว ภายหลังเมื่อถูกเพื่อนร่วมงานตักเตือนว่าโพสต์ดังกล่าวอาจมีเนื้อหาเข้าข่ายผิดกฎหมาย เธอก็ได้ทำการลบโพสต์ดังกล่าวออกโดยทันที 

.

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี เนื่องจากรับสารภาพ โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี  

เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาที่ 915 คณะผู้พิพากษาออกพิจารณาคดี และได้อ่านรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยได้ความว่า ไม่พบประวัติว่าจำเลยเคยกระทำผิดมาก่อน ในรายงานสืบเสาะพนักงานคุมประพฤติยังได้ระบุอีกว่า การกระทำของจำเลยไม่สมควร ด้วยว่าเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรง พนักงานคุมประพฤติใคร่ขอประทานเสนอความเห็นต่อศาลว่า วิธีการคุมประพฤติไม่น่าจะเหมาะสมและใช้ได้ผลสำหรับจำเลยรายนี้ 

จากนั้นศาลได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งมีรายละเอียดโดยสรุปว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ให้จำคุก 4 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 

พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีและรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว จำเลยกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประกอบกับจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 3 ปี กับให้คุมความประพฤติจำเลย โดยให้จำเลยไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

ลงนามคำพิพากษาโดย นายอนุพงศ์ โพร้งประภา และนางสาวนาถชนก เพชรศรี ผู้พิพากษาศาลอาญา

สำหรับ “อัปสร” หญิงข้ามเพศ (Transwoman) วัย 23 ปี เริ่มหันมาสนใจประเด็นทางการเมืองชัดเจนขึ้นเมื่อช่วงปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอได้ไปทำงานเป็นพนักงานที่ร้านค้าแห่งหนึ่งภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีโอกาสได้ฟังคำปราศรัยของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ ‘รุ้ง’ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล รวมถึงทัศนะทางการเมืองจากกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นในมหาวิทยาลัย

เธอยอมรับว่าติดตามข่าวสารทางการเมืองและแชร์ข่าวดังกล่าวอยู่เสมอ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังเมื่อถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ สิ่งที่เธอหวาดกลัวที่สุดนั่นก็คือการต้องเข้าเรือนจำชาย ซึ่งขัดกันกับเพศสภาพของเธอ 

.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง 

คำฟ้อง – สั่งฟ้องสาวข้ามเพศ ม.112 เหตุแชร์โพสต์ ‘ปวิน’ วิจารณ์การทำประชาสัมพันธ์ของสมาชิกราชวงศ์ ก่อนศาลให้ประกัน กำหนดเงื่อนไขห้ามทำสถาบันฯ เสื่อมเสีย

รับทราบข้อกล่าวหา – ตร.ปอท. แจ้ง “ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ” สาวข้ามเพศวัย 22 ปี เหตุแชร์โพสต์เฟซบุ๊ก “ปวิน”

.

X