ศาลพัทยาพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี “พนิดา” คดี ม.112 ถูกกล่าวหาพ่นสีสเปรย์ใต้ฐานรูป ร.10 ก่อนให้รอลงอาญา 2 ปี

14 ธ.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดพัทยานัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “พนิดา” (สงวนนามสกุล) พนักงานโรงงาน อายุ 26 ปี ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าพ่นสีสเปรย์ใต้ฐานของรูปกษัตริย์รัชกาลที่ 10 จำนวน 2 แห่ง ในเมืองพัทยา และถูกดำเนินคดีในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “ทำให้เสียหาย ทำลาย หรือเสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ต่อมาศาลพิพากษาจำคุกในข้อหาตามมาตรา 112 ที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 3 ปี สองกระทง จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษเหลือ 2 ปี 12 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

ไทม์ไลน์คดี ม.112 ของ “พนิดา” 

  1. 20 ต.ค. 2563 พนิดาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และตรวจค้นห้องพัก โดยไม่มีหมายจับและหมายค้น เธอถูกควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองพัทยา และถูกแจ้งข้อหา “ทำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 เพียงข้อหาเดียว ในครั้งนั้นศาลไม่อนุญาตให้ฝากขังตามคำร้องของพนักงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการจับกุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย พนิดาจึงได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ต้องวางหลักประกัน
  1. 22 ต.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงหมายค้น เพื่อตรวจค้นห้องพักของพนิดาอีกครั้ง และได้ยึดโทรศัพท์มือถือไปเป็นของกลาง 
  1. ภายหลังพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการ พนักงานอัยการได้เลื่อนฟังคำสั่ง 2 ครั้ง ก่อนส่งสำนวนคืนให้พนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดพนิดาไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 
  1. 7 ก.ค. 2564 พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล จากนั้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 ซึ่งเป็นนัดสืบพยานนัดแรกในคดีนี้ พนิดาตัดสินใจกลับคำให้การเป็น “รับสารภาพ” ศาลจึงสั่งให้พนักงานคุมประพฤติดำเนินการพินิจและสืบเสาะจำเลย ก่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 8 พ.ย. 2565 ทั้งนี้ ศาลยังสั่งให้พนิดาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการพ่นสีสเปรย์ จำนวน 2 แห่ง ให้แก่เมืองพัทยาเป็นเงิน 12,480 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
  1. 8 พ.ย. 2565 ก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลได้สอบถามพนิดาและทนายความว่าจะมีวิธีชดเชยอย่างไรกับการทำให้ชื่อเสียงและพระเกียรติของกษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ต้องเสื่อมเสียไป โดยพนิดาและทนายความเสนอว่าจะขอใช้วิธีไปขอขมาต่อหน้าป้ายพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณแยกพัทยาใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเกิดเหตุในคดีนี้ พร้อมทั้งจะโพสต์ภาพถ่ายขณะทำการขอขมาลงบัญชีเฟซบุ๊กของตนเองด้วย ศาลจึงให้พนิดาทำตามคำเสนอดังกล่าว และศาลยังสั่งให้พิมพ์ภาพถ่ายการขอขมาดังกล่าวส่งศาลด้วย โดยระบุว่าจะนำไปประกอบการพิจารณาเพื่อจัดทำคำพิพากษาใหม่อีกครั้ง จากนั้นได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษามาเป็นวันนี้แทน

ศาลพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 12 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ชี้เพราะไม่เคยต้องโทษจำคุก รับสารภาพ และได้ขอขมาต่อหน้ารูป ร.10 แล้ว

เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 11 พนิดาเดินทางมาพร้อมกับพี่สาว ก่อนศาลจะออกพิจารณาคดี ตำรวจศาลได้เดินมาขอใส่กุญแจมือกับพนิดา แม้ทนายความจะทัดทานแล้วว่าจะใส่กุญแจมือจำเลยได้ก็ต่อเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จแล้วเท่านั้น แต่ตำรวจศาลยังคงยืนยันว่าจำเป็นจะต้องใส่กุญแจมือตามคำสั่งของศาลที่กำชับไว้อย่างเคร่งครัดเท่านั้น

“โทษน่าจะหนักแน่ๆ เลย” พนิดาหันหลังมากระซิบเบาๆ ทว่าเมื่อเธอถูกใส่กุญแจมือแล้ว ศาลไม่ได้อ่านคำพิพากษาในคดีนี้โดยทันที แต่ได้พิจารณาคดีอื่นที่มีนัดหมายพร้อมกันก่อนโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเศษ

จากนั้นในเวลาประมาณ 11.10 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษา โดยสรุปให้ถือว่าการพ่นสีใต้ฐานรูป รัชกาลที่ 10 จำนวน 2 แห่งนั้น เป็นความผิด 2 กระทง เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 360 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงทุกกรรมเป็นกระทงไป ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว ให้จำคุกกระทงละ 3 ปี 2 กระทง แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน

แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และจากการพินิจและสืบเสาะของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติได้ความว่า จำเลยติดตามข่าวสารเพียงด้านเดียวตลอดมา จึงเกิดความเข้าใจผิดว่าพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 เป็นผู้ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน จำเลยซึ่งไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว จึงได้ลงมือกระทำความผิดในคดีนี้

อีกทั้ง จำเลยได้ไปขอขมาต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ได้ก่อเหตุเป็นคดีนี้แล้ว เชื่อว่าจำเลยสำนึกผิดจริงและจะไม่กระทำความผิดซ้ำอีก จำเลยยังได้ชดใช้เงินค่าเสียหายแก่เมืองพัทยาแล้วด้วยเป็นเงิน 12,480 บาท

ศาลจึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้เป็นเวลา 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี พร้อมทั้งให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง และสั่งให้ริบของกลางในคดีนี้เป็นสีสเปรย์สีดำไว้ด้วย

คำพิพากษาลงนามโดย รภัสชล ยุติวิชญ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยา

หลังศาลอ่านคำสั่งแล้วเสร็จ ตำรวจศาลได้ไขกุญแจที่พนิดาออกทันที ด้านพนิดาเปิดเผยว่าเธอรู้สึกโล่งใจ และมีความหวังกับการใช้ชีวิตต่อจากนี้มากขึ้น โดยตั้งใจจะทำงานและทำตามความฝันเหมือนคนธรรมดาทั่วไป คือ การสร้างบ้าน สร้างครอบครัว และซื้อรถยนต์ส่วนตัว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

อ่านคำฟ้อง: ฟ้อง ม.112 อีกคดี! กล่าวหา “พนิดา” พนักงานขายของ พ่นสีข้อความ “กษัตริย์[…]” ใต้ฐานรูป ร.10 ที่พัทยา

เหตุการณ์ขณะถูกจับกุม: ศาลพัทยาไม่ให้ฝากขัง’พนักงานขายของ’หลังถูกจับไม่มีหมาย แจ้งข้อหาม.360 กรณีพ่นสีใต้รูปร.10

แจ้ง ม.112 เพิ่ม! “พนักงานขายของ” กล่าวหาพ่นสีใต้รูป ร.10 ที่พัทยา

X