จับตา สถานการณ์ย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเรือนจำอื่น ย้ายแล้ว 15 ราย

* อัปเดตข้อมูลวันที่ 19 มี.ค. 2568

ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่าเริ่มมีการย้ายตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปยังเรือนจำอื่น ๆ พร้อมการย้ายผู้ต้องขังทั่วไปด้วย โดยการโยกย้ายครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการย้ายผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งทางราชทัณฑ์เคยระบุว่าเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ แต่ผู้ต้องขังที่คดียังไม่สิ้นสุดก็ถูกย้ายไปด้วยเช่นกัน 

จนถึงวันที่ 19 มี.ค. นี้ พบว่ามีการย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองไปแล้ว 15 คน (เป็นผู้ต้องขังคดีถึงที่สุด 5 คน) โดยทุกกรณีไม่มีการแจ้งญาติล่วงหน้า ได้แก่

1. ทีปกร ผู้ต้องขังถึงที่สุดในคดีตามมาตรา 112 กรณีโพสต์และแชร์คลิปตั้งคำถามถึงสถาบันกษัตริย์ เขาถูกคุมขังหลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี และไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้ตัดสินใจถอนอุทธรณ์ไม่ต่อสู้คดีต่อ

ทีปกรถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 2566 รวม 1 ปี 8 เดือนเศษ และเมื่อวันที่ 20 ก.พ. เขาถูกย้ายตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา

2-3. ขจรศักดิ์-คเชนทร์ ผู้ต้องขังคดีถูกกล่าวหาปาระเบิดปิงปองเข้าใส่อาคาร สน.พญาไท และวางเพลิงป้อมจราจรที่แยกพญาไท ในการชุมนุมย่านดินแดง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์หลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 11 ปี 6 เดือน และ 10 ปี 6 เดือน ตามลำดับ โดยไม่ได้รับการประกันตัว

คดีของขจรศักดิ์และคเชนทร์ ยังไม่สิ้นสุดลง ยังอยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ แต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าขจรศักดิ์ถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม และต่อมาวันที่ 26 ก.พ. มีรายงานว่าคเชนทร์ถูกย้ายไปยังเรือนจำกลางบางขวาง

4. เชน ชีวอบัญชา หรือ “ขุนแผน” ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 และดูหมิ่นศาล ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์กรณีทำกิจกรรมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน  ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ มีรายงานว่าขุนแผนถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางบางขวาง โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้า

5. จักรี ผู้ต้องขังในคดีครอบครองวัตถุระเบิด ขณะร่วมม็อบทะลุแก๊ส เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2564 เขาถูกคุมขังระหว่างฎีกาหลังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 1 ปี มีรายงานว่าในวันที่ 27 ก.พ. เขาถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางบางขวาง โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้าเช่นกัน

6. ประวิตร ผู้ต้องขังในคดีถูกกล่าวหาวางเพลิงป้อมตำรวจจราจร ใต้ทางด่วนดินแดง ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ถูกหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 6 ปี 4 เดือน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2568 เขาถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม

7-8. วีรภาพ วงษ์สมาน และ อัฐสิษฎ สองผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ในคดีมาตรา 112 มีรายงานว่าช่วงวันที่ 4-5 มี.ค. 2568 ทั้งสองคนถูกย้ายตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง

9. พีรพงศ์ ผู้ต้องขังระหว่างฎีกาในคดีถูกกล่าวหาว่าร่วมขว้างปาวัตถุระเบิดใส่ป้อมตำรวจ บริเวณแยกอโศกมนตรี ใน #ม็อบ11ตุลา64 ถูกคุมขังหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี 4 เดือน 15 วัน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 เขาถูกย้ายตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง

10. อนุชา ผู้ต้องขังถึงที่สุดในคดีมาตรา 112 ซึ่งถูกลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 ได้ถูกย้ายตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี

11. วีรวัฒน์ ผู้ต้องขังถึงที่สุดในคดีครอบครองระเบิดในช่วงการชุมนุม #ม็อบ19กันยา64 ซึ่งถูกลงโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 ได้ถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม

12. เมธี อมรวุฒิกุล ผู้ต้องขังถึงที่สุดในคดีครอบครองอาวุธปืน ช่วงชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี มีรายงานว่าเขาถูกย้ายตัวไปเรือนจำกลางคลองเปรม

13-14. “ก้อง” อุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล และ สถาพร สองผู้ต้องขังในชั้นฎีกาและอุทธรณ์คดีตามมาตรา 112 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางบางขวาง

15. “บุ๊ค” ธนายุทธ ณ อยุธยา ผู้ต้องขังถึงที่สุดในคดีครอบครองวัตถุระเบิด เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ถูกย้ายตัวไปยังเรือนจำกลางบางขวาง

.

ก่อนหน้านี้ ทางเรือนจำมีนโยบายการลดความแออัดของผู้ต้องขัง โดยการย้ายตัวผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ไปยังเรือนจำอื่น ๆ โดยพบว่ามีการอ้างอิงระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การคัดเลือกและย้ายนักโทษเด็ดขาดไปเรือนจำชั่วคราวและทัณฑสถานเปิด พ.ศ. 2564

เมื่อปี 2566 เรือนจำมีการย้ายตัวผู้ต้องขังทางการเมืองในคดีสหพันธรัฐไท 2 ราย ได้แก่ กฤษณะ และวรรณภา ที่คดีสิ้นสุดแล้ว จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ไปยังเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา และทัณฑสถานหญิงชลบุรี ตามลำดับ ซึ่งส่งผลให้ญาติเดินทางไปเยี่ยมได้ค่อนข้างลำบาก (ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวในช่วงปี 2567 แล้ว)

แต่กรณีการย้ายตัวผู้ต้องขังที่คดียังไม่สิ้นสุดเช่นนี้ ยังไม่เคยมีรายงานมาก่อน ญาติของผู้ต้องขังที่ถูกย้ายเรือนจำครั้งนี้ ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าในรอบนี้ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีแผนจะย้ายผู้ต้องขังที่มีคำพิพากษาแล้วไปยังเรือนจำอื่น ๆ ให้เหลือเฉพาะผู้ต้องขังในคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา 

หากเป็นไปตามข้อมูลดังกล่าว ผู้ต้องขังในคดีที่มีคำพิพากษาในศาลชั้นต้นแล้ว แม้คดียังไม่สิ้นสุด ก็อาจถูกย้ายตัวได้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีการย้ายตัวผู้ต้องขังที่เข้าข่ายลักษณะนี้ทั้งหมดเลยหรือไม่ และมีเกณฑ์ที่ชัดเจนกว่านี้อย่างไร ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

.

ดู รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมือง 2568

.

X