บันทึกเยี่ยม “บาส” ประวิตร: เป็นห่วงลูกที่ยังเล็ก และภาระของครอบครัว 

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “บาส” ประวิตร (สงวนนามสกุล) หนุ่มวัย 20 ปี ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาในความผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ รวมจำคุกทั้งสิ้น 6 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงการลงโทษ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันวางเพลิงป้อมตำรวจจราจร บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ภายหลังการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา เมื่อปี 2564

ปัจจุบัน “บาส” ถูกกักตัวอยู่ที่เเดน 2 ทนายความได้สอบถามถึงความเป็นไปหลังจากที่เขาถูกขังมาหนึ่งอาทิตย์

“พออยู่ได้ สบายดี การกักตัวที่แดน 2 ได้ลงแดนตอน 9.00 น. ครั้งเดียวต่อวัน ให้มาซื้อขนม ซื้อของ ตอนนี้ผมยังใส่ EM อยู่ ซึ่งใส่มาตั้งเเต่ ปี 2564 ยังไม่ได้ถอดเลย”

ทั้งนี้การใส่กำไล EM ของบาส เป็นเงื่อนไขการประกันตัวของศาลมาตั้งแต่เขาถูกจับกุมและถูกส่งขอฝากขังเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 กำไลอิเล็กทรอนิกส์นี้ยังอยู่ที่ข้อเท้าเขามาจวนครบ 2 ปี แม้เขาจะถูกจองจำ แต่ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการถอดกำไลออก

“เเต่คิดถึงลูกมาก เเรกๆ เข้ามาผมก็ทรมานมาก แต่ตอนนี้พอเจอคนรู้จักเเล้ว เขาดีกับเราเเละก็มีคนที่เพิ่งรู้จักในนี้ด้วย มันก็มีคนคุยด้วย ก็เลยดีขึ้นมาบ้าง”

“ตอนเเรกๆ นอนไม่ได้เลย นอนไม่หลับ แต่ตอนนนี้ก็หลับๆ ตื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่คือไม่หลับ สะดุ้งตื่นตลอด ค่อนข้าวเครียดเรื่องที่บ้าน เพราะเป็นห่วงลูกเเละแฟน เพราะลูกยังเล็ก เพิ่งจะ 6 เดือน แฟนก็รายได้น้อย แล้วต้องเลี้ยงลูกด้วย เป็นห่วงว่าจะอยู่กันยังไง”

พูดถึงตรงนี้ บาสเริ่มน้ำตาซึมด้วยความเป็นห่วงครอบครัว ก่อนหน้านี้ เเฟนของเขาเล่าให้ฟังว่าลูกคนเล็ก (อายุ 6 เดือน) ร้องไห้ตลอดเลยตอนกลางคืน เหมือนรู้ว่าบาสไม่อยู่ ส่วนลูกคนโตก็ถามว่าพ่อไปไหน โดยแฟนได้บอกลูกว่า “พ่อไปทำงาน”

ปัจจุบันลูกคนโตของบาสอยู่กับพี่ชาย โดยมีพี่ชายช่วยเลี้ยง ลูกคนโตของบาสอายุใกล้ 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้น อนุบาล 1 ส่วนบาสกับแฟนเเยกออกมาเช่าห้องอยู่เลี้ยงลูกคนเล็ก ซึ่งเพิ่งจะอายุ 6 เดือน

เมื่อพูดคุยเรื่องคดีความ บาสบอกว่าตอนนี้เขาคิดว่าอาจจะไม่อุทธรณ์คดีแล้ว เนื่องจากอยากให้คดีสิ้นสุด และไม้ได้คาดหวังกับกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป ทั้งจะได้รีบไปอยู่กับครอบครัว

ขณะเดียวกัน หากต้องรับโทษจริงๆ เขาคาดหวังว่าอยากจะให้ย้ายตัวไปที่เรือนจำคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากจะใกล้กับครอบครัวที่จะมาเยี่ยมมากกว่า

สำหรับ “ประวิตร” เคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานขนสินค้าในโรงงานน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ  ประวิตรเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานหาเงินเพียงคนเดียว มีรายได้จากการทำงานเดือนละ 10,600 บาท ด้านภรรยาไม่ได้ทำงาน เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกทั้ง 2 คนที่ยังเล็กอยู่ ส่วนแม่ของประวิตรอายุมากแล้วและเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถลุกเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเป็นปกติ

.
 

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ศาลอาญาจำคุก 12 ปี 8 เดือน “ประวิตร” คดีเผาป้อมจราจร หลัง #ม็อบ10สิงหา64 ก่อนลดโทษกึ่งหนึ่ง ทั้งให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 4 แสน – ส่งเข้าเรือนจำรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ 

บุกจับหนุ่มสมุทรปราการ วัย 19 ปี ถึงบ้านพัก กล่าวหา ‘เผาป้อมจราจร’ ใน #ม็อบ10สิงหา เสียหายทั้งหลังเกือบล้าน

X