บุกจับหนุ่มสมุทรปราการ วัย 19 ปี ถึงบ้านพัก กล่าวหา ‘เผาป้อมจราจร’ ใน #ม็อบ10สิงหา เสียหายทั้งหลังเกือบล้าน

วันนี้ (20 สิงหาคม 2564) เวลา 08.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า ประวิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี พักอาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าจับกุมถึงบ้านพักตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันวางเพลิงป้อมตำรวจจราจร ในเหตุชุมนุม #ม็อบ10สิงหา จากนั้นตำรวจชุดจับกุมนำตัวประวิตรไปยังสน.ดินแดง เพื่อทำบันทึกจับกุมและสอบปากคำ

10.00 น. หลังนายประวิตรถูกนำตัวไป สน.ดินแดง พนักงานสอบสวนได้ทำบันทึกจับกุม โดยไม่มีทนายความหรือผู้ไว้วางใจเข้าร่วมแต่อย่างใด ระบุว่า ตํารวจชุดจับกุมรวม 13 นาย ได้ทําการสืบสวนจนทราบว่า ประวิตรพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ จึงได้ยื่นคําร้องต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว และศาลได้อนุมัติหมายค้นที่ 489/2564 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ก่อนเข้าตรวจค้นและจับกุมในเช้าวันนี้ (20 สิงหาคม 2564) เวลา 07.30 น. ในชั้นการจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมา เวลา 12.00 น. ทนายความได้เดินทางไปยัง สน.ดินแดง เพื่อเข้าร่วมการสอบปากคำ โดยมี พ.ต.ท.สนุก พัฒนา สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง เป็นผู้แจ้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ในคดี ดังนี้

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี ผู้กล่าวหาพร้อมกําลังได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ดูแลความเรียบร้อย เนื่องจาก ‘กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม’ ได้นัดหมายทางโซเชียลมีเดียเพื่อทํากิจกรรม Car Mob ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยกิจกรรมดังกล่าวได้มีต่อเนื่องกันจนถึงเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ประกาศยุติการชุมนุมที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า King Power

ต่อมาหลังจากประกาศยุติการชุมนุม ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไม่ยอมเลิก และเวลาประมาณ 17.40 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุ ‘เผาป้อมจราจร’ ที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดงจนได้รับความเสียหาย

ซึ่งขณะนั้นผู้กล่าวหากำลังสืบสวนหาข่าวอยู่ใกล้ป้อมจราจรใต้ทางด่วนดินแดง ได้พบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกประมาณ 15-30 คน มายังบริเวณป้อมดังกล่าว และได้เห็นว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุเผาป้อมจราจรใต้ด่วนดินแดงพอดี โดยเห็นว่า ประวิตรได้ยืนถือวัตถุคล้ายๆ กระดาษลัง มีเปลวไฟลุกโยนเข้าไปในป้อมตํารวจจราจร หลังจากนั้นเห็นว่าไฟได้ลุกขึ้นไหม้จนป้อมตำรวจจราจรได้รับความเสียหาย ระหว่างนั้น ส.ต.อ.ศิวะนันท์ ยังได้เห็นว่าประวิตรโยนวัตถุคล้ายกระดาษลังเข้าในป้อมจราจรที่มีไฟกําลังลุกไหม้อยู่เพิ่มอีกด้วย ทําให้ไฟลุกไหม้แรงขึ้น

ทั้งนี้ ส.ต.อ.ศิวะนันท์ ยังเห็นว่า ประวิตรขับขี่รถจักรยานยนต์มาในบริเวณพื้นที่การชุมนุมแยกดินแดงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวอีกด้วย

หลังเกิดเหตุทราบว่าป้อมตำรวจจราจรใต้ทางด่วนดินแดงได้รับความเสียหายทั้งหลัง คิดค่าความเสียหายเป็นเงินประมาณ 993,000 บาท ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1365/2564 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2554

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาประวิตรรวม 3 ข้อหา ดังนี้ “ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ”

ในชั้นสอบสวน ประวิตรได้ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งระบุว่า ในชั้นจับกุมตนเองไม่มีทนายความ และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 20 วัน (ภายในวันที่ 10 กันยายน 2564 )

โดยตลอดทั้งคืนนี้ ประวิตรจะถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ดินแดง และพรุ่งนี้ (21 สิงหาคม 2564) พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปยื่นคำร้องขอฝากขังประวิตรต่อศาลอาญาต่อไป

สำหรับการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา หรือ #คาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช โดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายที่แยกราชประสงค์ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปที่อาคารชิโน-ไทย ทาวเวอร์, บ้านของธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอาคารคิง พาวเวอร์ ก่อนที่จะยุติกิจกรรมในเวลา 17.06 น. โดยมีการอ่านแถลงการณ์ยืนยันข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ชุดควบคุมฝูงชนได้ตั้งแนวที่แยกดินแดง ฝั่งถนนวิภาวดี และเกิดการเผชิญหน้าผู้ชุมนุมบางส่วนที่เคลื่อนขบวนผ่านบริเวณดังกล่าว ก่อน คฝ.จะเริ่มใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ทำกิจกรรมอยู่หน้าตึกคิงพาวเวอร์ การใช้มาตรการที่รุนแรงก่อให้เกิดความไม่พอใจของผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก