วันที่ 20 ก.ค. 2566 ทนายความเข้าเยี่ยม “เอกชัย หงส์กังวาน” ภายหลังถูกศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (4) กรณีโพสต์ข้อความเล่าประสบการการณ์เรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2566 รวมขังมาแล้ว 15 วัน
การเยี่ยมเอกชัยดำเนินการผ่านจอภาพ เพราะยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการกักตัวเพื่อป้องกันโรคตามมาตรการของเรือนจำ เขานั่งรออยู่ที่จอภาพด้วยสีหน้าเรียบเฉย บทสนทนาเริ่มด้วยสถานการณ์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ทำให้เอกชัยชวนวิเคราะห์เรื่องการเมืองอยู่พักหนึ่ง
เอกชัยยังพูดคุยย้อนไปถึงวันที่ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่เขาพยายามลุกขึ้นโต้แย้งศาลเรื่องการคำนวณโทษที่เกิดขึ้นในคำพิพากษา เขาย้ำว่าเคยร้องต่อศาลฎีกาไปแล้วว่าศาลอุทธรณ์คำนวณโทษคดีของเขาผิดวิธี ซึ่งมันไม่เป็นคุณต่อเขา และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 เขาเห็นว่าต้องคิดแบบเพิ่มโทษก่อน แล้วจึงลดโทษ ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้เขาควรจะจำคุก 10 เดือน ไม่ใช่ 1 ปี
อ่านปัญหาเรื่องการคำนวณโทษจำคุกในคดีของเอกชัย เก็บตกหลังศาลฎีกามีคำสั่ง #ไม่ให้ประกันตัว “เอกชัย” เรื่องการคำนวณโทษจำคุก ที่จำเลยโต้แย้งในชั้นฎีกา
เอกชัยได้ฝากข้อเขียนที่เขาได้พยายามสรุปประเด็นนี้เอาไว้ขณะถูกคุมขังในเรือนจำ โดยตั้งชื่อว่า “ความไม่ชอบมาพากลของคดีนี้”
ความไม่ชอบมาพากลของคดีนี้
แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้จำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการนำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในเรือนจำ แต่คดีนี้มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง
คดีนี้ผมเล่าเรื่องราวเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ เป็นช่วงเวลาระหว่างที่ถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 คดีนี้จึงสืบเนื่องมาจากคดีการเมือง ซึ่งไม่เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ ไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง อีกทั้งผมไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี และผมก็ให้ความร่วมมือกับศาลมาโดยตลอด ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลฎีกากลับไม่อนุญาต โดยอ้างว่าเกรงว่าผมจะหลบหนี ทั้งที่เป็นข้อหาเล็กๆ ที่โทษจำคุกไม่สูง ในขณะที่คดีอื่นๆ ของผมซึ่งข้อหาร้ายแรงกว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัวทุกคดี โดยไม่มีเงื่อนไข ทำไมคดีนี้จึงไม่ให้ ผมต้องอยู่ในเรือนจำกว่า 5 เดือน
การใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ในการเพิ่มโทษหรือลดโทษ ผมได้เคยร้องเรียนการคำนวณเพิ่มโทษและลดโทษของศาลอุทธรณ์ ว่าไม่เป็นไปตามมาตรา 54 ต่อศาลฎีกา และศาลฎีกาได้รับไว้แล้ว แต่ศาลฎีกายังคงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ทั้งที่รู้แล้วว่าการคำนวณนั้นไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเลือกใช้ส่วนที่เป็นโทษแทนที่จะใช้ในทางเป็นคุณแก่จำเลย
คดีนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ผมจำคุก 1 ปี โดยระหว่างรอฎีกา จำเลยถูกคุมขังอยู่เป็นเวลา 153 วัน เมื่อคำนวณตามโทษที่ถูกลงแล้ว 1 ปี 365 วัน ผมต้องเหลือโทษจำคุกอีก 212 วัน ผมเข้าคุกเมื่อ 6 ก.ค. 2566 เมื่อคำนวณ 212 วันแล้ว ผมจะต้องได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 3 ก.พ. 2567 แต่ราชทัณฑ์กลับแจ้งว่าวันพ้นโทษของผมคือ 4 ก.พ. 2567 เกินกว่าโทษจำคุกของผม ซึ่งเรื่องนี้ได้ร้องเรียนให้ราชทัณฑ์คำนวณใหม่และจะแจ้งกับผมใน 1 สัปดาห์
จะเห็นได้ว่า คดีนี้มีความไม่ชอบมาพากล ใช้ดุลยพินิจ ไม่ถูกต้องหลายเรื่อง มีการใช้ส่วนที่ไม่เป็นคุณต่อผม อันถือเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายอาญา
.
ย้อนดูภาพรวมคดีที่เอกชัยถูกกล่าวหาจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง สรุป 30 คดีทางการเมืองของ “เอกชัย หงส์กังวาน”