“เอกชัย” ยังรอศาลอนุญาตให้ฎีกา แม้ยื่นไปนับเดือนแล้ว ขณะ 4 ผู้ต้องขังดินแดงฝากความห่วงใยให้ครอบครัว

เมื่อวันที่ 8-9 ส.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในคดีเกี่ยวเนื่องกับการแสดงออกทางเมืองที่ถูกคุมขังที่่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้แก่ เอกชัย หงส์กังวาน และ 4 ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาภายหลังถูกอัยการสั่งฟ้องในคดีอันเนื่องมาจากการชุมนุมที่ดินแดง ได้แก่ “ภูมิ” ศศลักษณ์, “โอม” ใบบุญ “อาร์ม” วัชรพล ซึ่งถูกขังมาแล้ว 55 วัน และ “ต้อม” จตุพล ซึ่งถูกขังมาแล้ว 56 วัน โดยทุกคนล้วนมีความกังวลเกี่ยวกับการยื่นประกันตัว


เอกชัย หงส์กังวาน

หลัง เอกชัย หงส์กังวาน ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (4) กรณีโพสต์ประสบการณ์เรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ และศาลฎีกายังไม่อนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างฎีกาคำพิพากษา ทำให้ปัจจุบันเอกชัยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 114 วัน โดยเขายังคงรอเรื่องการอนุญาตให้ยื่นฎีกา แม้ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา และฏีกาไปแล้วนับเดือน แต่ยังไม่มีคำสั่งออกมา

เอกชัยสอบถามทนายความเกี่ยวกับเรื่องคำสั่งศาลเรื่องการขอรับรองฎีกา เนื่องจากเป็นเวลาหลายเดือนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า เขายังแจ้งว่าได้ยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าไปที่ศาลเพิ่มเติม และอยากให้ช่วยติดตามคำสั่งศาลให้ด้วย

เขายังคงฝากทนายยื่นเรื่องประกันตัวทั้งของตนเองและของผู้ต้องขังทั้งหมดเป็นรายคน เพราะรู้ว่าทุกคนคาดหวังเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัว

เอกชัยยังเล่าเรื่องอาหารการกินของเขาว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่มักมีคนซื้อกับข้าวที่เป็นไก่มาให้แต่เขาไม่ชอบไก่ จึงอยากขอให้ซื้อเมนูหมูหรือปลาให้แทน

น่าสนใจว่าเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีคดีของ “บุญมา” ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ที่ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่ามีความผิดในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีทำเพจ “รับสมัครนักรบล้มล้างการปกครองฯ” โดยลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกาคำพิพากษาต่อไป แตกต่างจากกรณีของเอกชัยที่ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้เขาจะต่อสู้คดีมาโดยตลอด

.

“ภูมิ” ศศลักษณ์

ภูมิเล่าว่าตั้งแต่ถูกสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2565 ทุกคนก็มีความเครียดกัน แต่ยังดีที่มีเพื่อนๆ ทะลุฟ้าอยู่ด้วย การอยู่กันหลายคนทำให้เครียดน้อยลง แม้ทุกคนอยากได้รับสิทธิในการประกันตัว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ภูมิได้ฝากบอกอาม่าว่าไม่ต้องเป็นห่วงเขา เขายังสบายดีและอยู่ได้ เดี๋ยวคงได้ออกไปหา


“โอม” ใบบุญ 

โอมแจ้งว่าในวันที่ 5 ก.ย. 2565 นี้ เขามีนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าชิงตัวผู้ต้องหาจากเหตุชุมนุมเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ซึ่งทำให้เขารู้สึกเครียดเพราะไม่ทราบว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร และอยากทราบเรื่องแนวโน้มการตัดสินคดีว่าเป็นไปในทางดีหรือไม่ จึงหารือประเมินคดีที่ถูกกล่าวหากับทนายความ


“อาร์ม” วัชรพล

อาร์มฝากสอบถามญาติเรื่องการยื่นประกันอีกครั้ง เนื่องจากเขาได้พูดคุยให้พ่อช่วยยื่นประกันตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยเขาบอกว่าสภาพจิตใจตอนนี้เครียด เนื่องจากคิดว่าครบ 48 วัน ที่ถูกฝากขังแล้วจะได้รับการปล่อยตัว แต่ก็ถูกอัยการสั่งฟ้องก่อน อย่างไรก็ตามการที่ได้อยู่กับเพื่อนก็ช่วยให้เครียดน้อยลงไปบ้าง

อาร์มเล่าให้ฟังว่า เขามีความสงสัยเกี่ยวกับการบรรยายฟ้องของอัยการ เนื่องจากเมื่อได้ฟังคำฟ้องแล้วรู้สึกว่าไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังคงยืนยันว่าพฤติการณ์ที่ถูกบรรยายฟ้องมา ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอนและคำฟ้องก็ดูคลุมเครือไม่ทราบว่าใครกระทำผิดอะไรอย่างเฉพาะเจาะจง 

เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงถูกฟ้องในเรื่องการร่วมเผารถตำรวจ และยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเสียที ทั้งที่มีความคลุมเครือในข้อกล่าวหา


“ต้อม” จตุพล 

หลังจากโดนฟ้อง ต้อมเล่าว่ารู้สึกเซ็งและเครียด รู้สึกเหมือนคนอื่นๆ ว่าน่าจะได้ออกไปเมื่อครบ 48 วัน เขาบอกว่า “อยู่ข้างในพวกผมทำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้จะเอาอะไรมาต่อสู้คดี  พวกผมอยากออกไปหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี พวกผมถูกขังในนี้มาจะ 2 เดือนแล้ว หลักฐานพยานที่จะหามาต่อสู้ มันจะยังอยู่ไหมอะพี่”

นอกจากความกังวลเกี่ยวกับการประกันตัวและการเตรียมต่อสู้แล้ว ต้อมยังได้ฝากบอกที่บ้านว่าคิดถึงและอยากให้มาเยี่ยมเขาบ่อยๆ 

X