บันทึกเยี่ยมทะลุแก๊ส: กว่าครึ่งติดโควิด ที่เหลือยังต้องเฝ้าระวัง และยังหวังได้ประกันตัว

เมื่อวันที่ 4-5 ก.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยมสมาชิกกลุ่ม “ทะลุแก๊ส” 5 คน ประกอบด่วย “อาร์ม” วัชรพล, “หยก” วรวุฒิ, “ร็อค” ธนรัตน์, “เก่ง” พลพล, “ใหญ่” พิชัย ที่ยังคงถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนในคดีจากเหตุการณ์ชุมนุมบริเวณดินแดงเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ทนายความยังได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า “โอม” ใบบุญ, พุฒิพงศ์ และหนึ่ง สามผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด และถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้นำเส้นลวดมากรีดข้อมือซ้ายตนเอง เนื่องจากความเครียดจากการไม่ได้รับการประกันตัว โดยกรณีโอมและพุฒิพงศ์เป็นการพยายามทำร้ายตนเองเป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ได้ใช้ฝาปลากระป๋องกรีดแขนระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

อาการเบื้องต้นทราบว่าหนึ่งมีบาดแผลลึกที่สุด แต่ยังไม่ถึงเส้นเลือด โดยทางเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว แต่เนื่องจากยังอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทนายความจึงยังไม่สามารถเยี่ยมได้ 

จนถึงวันที่ 8 ก.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองติดโควิดในเรือนจำไปแล้ว 7 คน ได้แก่ สมบัติ ทองย้อย ตรวจพบเชื้อวันที่ 24 มิ.ย. 2565, ธีรวิทย์ ตรวจพบเชื้อวันที่ 27 มิ.ย. 2565, ใบบุญ, ณัฐพล, หนึ่งและพุฒิพงศ์ ตรวจพบเชื้อวันที่ 2 ก.ค. 2565, ธนรัตน์ ตรวจพบเชื้อวันที่ 5 ก.ค. 2565 หากนับเฉพาะผู้ถูกจับกุมจากเหตุชุมนุมดินแดง ก็นับว่าพบผู้ติดเชื้อเกินครึ่งของผู้ถูกคุมขัง
.

“อาร์ม” วัชรพล: ต้องกักตัวในแดนกักตัวต่อ นอนไม่ค่อยหลับ

อาร์มบอกว่าตนเองต้องกักตัวไปอีกราว 10 วันในแดน 2 หลังใกล้ชิดผู้พบว่าติดเชื้อโควิด โดยทุกวันนี้ยังกินอาหารได้ตามสภาพ แต่ถ้ามีน้ำขวดกินก็จะดี เพราะน้ำเรือนจำมีกลิ่นแรง อยากฝากบอกพ่อแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่อยากให้พ่อแม่เครียด ได้อ่านจดหมายจากพ่อแล้ว ดีใจมากที่ได้รับจดหมาย 

อาร์มได้พบเพื่อนเป็นคนใต้ที่อายุเท่าๆ กันมาอยู่ห้องเดียวกัน เขารู้สึกดีขึ้นจากการมีเพื่อนพูดคุยกันรู้เรื่อง ทำให้ไม่เหงา แต่ก็อยากออกไปข้างนอกอยู่ดี 

อาร์มบอกว่าแม้จะเริ่มปรับตัวได้บ้าง แต่ก็ยังเครียดเรื่องประกันตัวเพราะอยากกลับบ้าน ตอนกลางคืนกว่าจะนอนหลับก็ดึกดื่น เพราะคิดถึงชีวิตนอกเรือนจำ
.

“เก่ง” พลพล: สุขภาพดีขึ้นแต่สภาพจิตใจแย่ลง

พลพลบอกกับทนายว่า ปัจจุบันย้ายมาอยู่ห้องพักรวมแล้ว โดยย้ายมาเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ค. และพอครบกำหนด 5 วันก็ต้องย้ายลงไปชั้น 4 พลพลบอกว่าตอนนี้เขาไม่ต้องให้น้ำเกลือผสมยาและไม่ต้องเจาะตรวจเลือดอีกแล้ว แต่ยังต้องกินยากินก่อน-หลังอาหาร 3 เวลาเหมือนเดิม โดยมีหมอมาตรวจทุกวัน อาการโดยรวมค่อนข้างดีขึ้นเยอะ แต่ยังกินข้าวต้มอยู่ แม้ว่าจะมีอาหารปกติให้กิน แต่เขาก็ยังรู้สึกเครียด จึงกินไม่ลง และคิดว่ากลืนข้าวต้มง่ายกว่า
 

พลพลบอกกับทนายทั้งน้ำตาว่า “ไม่รู้ว่าเค้าจะขังผมไว้อีกนานเท่าไหร่ ทุกวันผมนั่งมองออกไปข้างนอกตลอด ที่โรงพยาบาล มันยังมองตึกข้างนอก รถไฟฟ้า คิดถึงข้างนอก”  เขายังบอกว่าสภาพจิตใจแย่ลง แต่ละคืนต้องข่มตาหลับ บางคืนก็นอนร้องไห้คนเดียว 

“ผมโดนยัดเข้ามาทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไร ถ้าผมทำอะไร  ผมคงไม่เครียดแบบนี้หรอก ผมไม่รู้ว่าเค้า (ตำรวจ,ศาล)ต้องการอะไรถึงเอาพวกผมเข้ามาแบบนี้ เวลามองออกไปข้างนอกมันเหมือนไม่ไกล แค่มีกำแพงกั้น” เขายังเล่าให้ทนายฟังว่าตอนอยู่ในเรือนจำเคยเอาหัวโขกลูกกรง โขกจนมึนหัวเพราะเครียดไม่รู้จะทำอย่างไร 


“ใหญ่” พิชัย: อยู่กับความหวาดระแวงโควิดในเรือนจำ

“ใหญ่” พิชัย ยังคงพูดถึงอาหารในเรือนจำว่า เขากินข้าวได้เป็นบางมื้อและกับข้าวที่เรือนจำกินไม่ค่อยได้ บวกกับความเครียดของตนเองด้วย นอกจากนั้น ใหญ่ยังบอกว่าน้ำของเรือนจำก็กินไม่ได้เพราะเหม็นคลอรีน 

ส่วนการนอนหลับเขายังไม่สามารถหลับได้ดีนัก เนื่องจากกังวลเรื่องการประกันตัวและต้องเครียดซ้ำจากเรื่องที่เพื่อนร่วมห้องขังติดโควิดไปแล้ว 4 คน ทำให้ระแวงไปหมด 

เขาเล่าว่าได้เจอหนังสือที่เพนกวินทิ้งไว้ในเรือนจำ จึงได้นำมาอ่านบ้าง แต่ก็ช่วยให้คลายเบื่อได้เพียงเล็กน้อย 

ใหญ่ฝากบอกคนข้างนอกว่า “ไม่ต้องห่วง พวกผมยังสู้อยู่ ขอบคุณข้างนอกมากๆ ด้วยที่ยืนหยุดขังให้พวกผม”
.

“หยก” วรวุฒิ: อยากให้ทุกคนได้ประกันตัว

“หยก” วรวุฒิ เล่าว่าเพื่อนติดโควิดไป 4 คน จาก 9 คน และต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเพื่อนที่ติดโควิดมีอาการป่วยมาก่อนหน้าที่จะตรวจเจอหลายวัน นอกจากนี้คนที่ยังตรวจไม่พบเชื้อ ก็เริ่มมีอาการไอ จาม บ้างแล้ว ทั้งหมดกำลังเฝ้าดูอาการกันอยู่ 

ตอนนี้หยกค่อนข้างเครียด อยากขอให้ช่วยเร่งเรื่องการประกันตัว และโดยเฉพาะภูมิ ก็อยากให้ได้ประกันเพราะมีหน้าที่ต้องไปเรียน ในห้องขังเหลือกัน 5 คน ทุกคนกำลังใจยังดี ยังมีแรงสู้กันต่อ แม้ว่าจะมีความเครียดบ้าง
.

“ร็อค​” ธนรัตน์: เป็นห่วงการเรียนและคิดถึงครอบครัว

“ร็อค” ธนรัตน์ แจ้งว่าเบื้องต้นผล ATK ของตนติดโควิด เป็นผลการตรวจตอนกลางวัน โดยต้องรอผลตรวจละเอียดจากโรงพยาบาลอีกครั้ง หากยังเป็นบวกจึงจะได้ย้ายไปรักษาในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังจากนี้จะต้องไปนอนรอในห้องขังแยกกับอีก 9 คนที่มีผลตรวจพบเชื้อในแดน 2 และต้องกักตัวในโรงพยาบาลต่ออีก 10 วัน ร็อคไม่มีอาการไอหรืออาการป่วยอะไร แม้ผลตรวจจะเป็นบวก 

ร็อคบอกว่าในห้องขังของตนไม่มีเพื่อนๆ ในคดีเดียวกัน แต่ก็พอมีเพื่อนคุยไม่มีปัญหาอะไร ทนายความได้อ่านจดหมายที่มีคนฝากเข้าไปให้ฟัง รวมถึงจดหมายของพี่สาวซึ่งเมื่อร็อคได้ฟังก็น้ำตาไหล และฝากขอบคุณทุกๆ คนที่ส่งจดหมายถึง สิ่งที่กังวลอย่างเดียวตอนนี้คือเรื่องเรียนเพราะตนเรียนอยู่ชั้น ปวส. ปี 1 และก่อนเข้ามาในเรือนจำเพิ่งจะผ่านการสอบกลางภาคไป ทำให้กลัวว่าจะสูญเสียการเรียนในเทอมนี้ไป


ย้อนดูภาพรวมสถานการณ์ผู้ต้องขังกรณีทะลุแก๊ส

บันทึกเยี่ยม ‘14 ทะลุแก๊ส’ 1 รายติดโควิด-อดอาหาร 3 รายประท้วงศาล ทุกคนเครียดและมีความคิดทำร้ายตัวเอง-ฆ่าตัวตาย

รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมืองตั้งแต่มีนาคม 2565

X