“แซม” พรชัย ประสงค์ยื่นคัดค้านฝากขัง – “ทะลุแก๊ส” 2 คน ยังอยู่ รพ.ราชทัณฑ์  

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “แซม” พรชัย ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวภายหลังถูกจับกุมตามหมายจับ คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีถูกกล่าวหาว่าเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติบริเวณหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม ระหว่างการชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 และ กลุ่ม “ทะลุแก๊ส” 3 คน ประกอบด้วย “แบงค์” ณัฐพล, “ร๊อค” ธนรัตน์, “เก่ง” พลพล,  ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการสอบสวน โดยพลพลและร๊อคยังคงอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนแบงค์ได้ย้ายกลับมาที่เรือนจำในแดน 4 แล้ว

“แซม” พรชัย ยวนยี: ต้องการให้เบิกตัวไปในนัดคัดค้านฝากขัง

แซมบอกว่าเขาได้ย้ายมาอยู่แดนเดียวกับน้องๆ ทะลุแก๊สแล้ว โดยอยากให้ช่วยติดตามเรื่องการประกันตัวและมีความประสงค์จะให้คัดค้านการขอฝากขังในแต่ละครั้งของตำรวจ โดยเขาอยากสู้ให้ถึงที่สุดตามกระบวนการทางกฎหมาย เขาอยากทราบว่าทำไมศาลจึงพิจารณาเรื่องการฝากขังฝ่ายเดียวได้ โดยไม่ต้องแจ้งและไม่มีการถามฝ่ายผู้ต้องหาด้วยแต่อย่างใด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิในการประกันตัวของผู้ต้องหา

“เก่ง” พลพล: หากต้องกลับไปยังเรือนจำคงแย่

พลพล ผู้กินยาพยายามฆ่าตัวตายก่อนหน้านี้ บอกว่าเขาอาการดีขึ้นมากแล้ว ในส่วนของการรักษา เขายังคงต้องกินยาก่อนและหลังอาหารเช้าและเย็น รวมถึงในเวลา 2 ทุ่ม ยังต้องกินยานอนหลับและยาคลายเครียดอย่างละ 1 เม็ด แต่ 2 วันที่ผ่านมา เขาบอกว่าหมอไม่ได้จ่ายยาคลายเครียดให้ ไม่แน่ใจว่ายาหมดหรือหมอให้หยุดยา หมอยังบอกกับเขาว่าอีกไม่นานก็ได้กลับไปในแดน 

พลพลบอกว่าการต้องกลับไปที่เรือนจำจะทำให้เขาเครียด และไม่รู้ว่าจะได้เจอกับเพื่อนๆ ที่ถูกขังอยู่หรือไม่ การอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อยเขาก็ได้เห็นตึก เห็นรถ และมองเห็นบรรยากาศข้างนอกได้บ้าง 

เขาบอกว่าตลอดช่วงหยุดยาวกว่า 5 วัน นั้น เขาเครียดมากขึ้น เพราะอยากได้รับการประกันตัว ทุกๆ เย็นจะมีอาการดิ่ง ยิ่งเวลาที่ฝนตก เขาจะคิดถึงบ้านมากเป็นพิเศษ “เมื่อวานผมก็เอาหัวโขกลูกกรง 2-3 ครั้ง แต่ไม่ได้โขกแรงหรอกพี่” พลพลเล่า 

สำหรับเรื่องอาหารการกิน เขาบอกว่าถ้าวันไหนที่บ้านซื้ออาหารให้ ก็จะได้กินไข่เจียว ไข่ดาว และไส้กรอกบ้าง แต่สองวันมานี้เขากินอะไรได้น้อยลงไปกว่าเดิม เนื่องจากอยากกลับบ้าน และคิดว่าทุกคนที่เขาบ่นให้ฟังคงจะเบื่อคำบ่นคิดถึงบ้านของเขาแล้ว 

“ร๊อค”ธนรัตน์: หายจากโควิด แต่ยังกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 

ร๊อคต้องกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาแล้ว 11 วัน หลังติดโควิด ด้านชีวิตความเป็นอยู่ เขาบอกว่ากินข้าวได้ปกติ เขาเห็นว่ากับข้าวที่โรงพยาบาลดีกว่าในเรือนจำ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าได้มีการส่งเรื่องคืนตัวไปแล้ว แต่รถยังไม่มารับ 

ร็อคยังบอกเล่าถึงการรักษาโควิดว่าตอนที่ต้องมากักตัวช่วงแรก มีการเอ็กซเรย์ปอด แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจอะไรเพิ่มเติม เพียงเป็นการกักตัวให้หมดระยะการแพร่เชื้อ โดยปัจจุบันได้กักตัวอยู่กับเพื่อนเซ็ทที่ติดโควิดรอบเดียวกัน ที่มาจากแดน 2 


ร๊อคได้ฝากให้พี่สาวช่วยดูเรื่องการยื่นประกันตัว โดยเขาอยากให้ญาติได้เข้าเยี่ยมไวๆ และหวังว่าหากได้กลับไปที่เรือนจำ ญาติจะสามารถเยี่ยมได้ ร๊อคด้วยว่าตอนนี้บางแดน ไม่อนุญาตให้นำอาหารกระป๋องกับสิ่งที่มีส่วนประกอบของเหล็กเข้าไปในเรือนนอน เช่น กระป๋องแป้งตรางู เพราะกลัวว่าผู้ต้องขังจะเอาไปกรีดแขน โดยห้ามทุกคนนำเข้าไป ไม่ใช่เฉพาะกับคดีการเมือง

นอกจากนี้เขายังเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 3 เดือน และใจยังสู้อยู่ เขาคิดว่าคดีที่ตัวเองโดนเบากว่าที่เพื่อนๆ คนอื่นๆ เพราะเขาบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย


“แบงค์” ณัฐพล: ต้องกินยาระงับอารมณ์และยาคลายเครียด


แบงค์เล่าว่าตอนนี้เขาได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในแดน 4 แล้ว โดยย้ายกลับมาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอังคาร (12 ก.ค.) 

ปัจจุบันตัวเขาเองต้องกินยาช่วงเช้า 1 เม็ด เย็น 3 เม็ด โดยหมอบอกว่าเป็นยาระงับอารมณ์, ยาคลายเครียดและยานอนหลับ เขาบอกว่าไม่แน่ใจว่าทำไมต้องจ่ายยาให้กินและไม่ทราบว่าคนอื่นๆ ยังต้องกินยานอนหลับด้วยหรือไม่

X