บันทึกเยี่ยม: “คทาธร-คงเพชร” ถูกตร.เข้าแจ้งข้อหาเพิ่ม ไม่มีทนาย จตุพลถูกผู้คุมตีก่อนย้ายแดน พร้อมความคืบหน้าผู้ต้องขังทะลุแก๊ส

ช่วงวันที่ 30 มิ.ย. -1 ก.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “เพชร” คงเพชร และ “ต๊ะ” คทาธร ซึ่งถูกกล่าวหากรณีครอบครองระเบิด หลังจากมีกิจกรรมรำลึก #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565

นอกจากนี้ยังได้เข้าเยี่ยมสมาชิกทะลุแก๊สบางส่วน ได้แก่ “บอล” พุฒิพงศ์ , “หยก” วรวุฒิ, พลพล, “อาม” วัชรพล, “ร็อค” ธนรัตน์, จตุพล (ต้อม) และ ณัฐพล ที่ยังคงถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนในคดีจากเหตุการณ์ชุมนุมบริเวณดินแดงเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา


“เพชร” คงเพชร และ “ต๊ะ” คทาธร

ทั้งคู่เล่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ว่ามีการใช้กำลังประทุษร้ายต่อเจ้าหน้าที่ แต่เพชรและต๊ะไม่ได้เซ็นรับรองเอกสาร เนื่องจากรู้สึกไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา ต๊ะเล่าว่าขณะถูกจับ ตนต่างหากที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย ถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก ทนายที่ไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ตนในวันนั้น ยังถ่ายรูปภาพร่องรอยการถูกบีบคอไว้ นอกจากนี้ตนยังถูกเตะอีก 2-3 ครั้งและถูกตบหัวด้วย ตนเห็นว่าการแจ้งข้อกล่าวหาของตำรวจ เป็นการทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นธรรมกับทั้งสองคน

ทนายได้แจ้งกับทั้งสองเพิ่มเติมว่า ก่อนจะรับทราบข้อกล่าวหา สามารถแจ้งขอติดต่อทนายความจากตำรวจและเรือนจำได้ เพื่อให้มีผู้ร่วมรับฟังการสอบสวน เพชรและต๊ะแจ้งว่า ตนไม่ทราบถึงสิทธิเรื่องนี้ ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบ เมื่อทราบว่าถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม จึงมีเพียงความโกรธ 

ในวันดังกล่าว แม่ของต๊ะได้เยี่ยมลูกทางออนไลน์พอดี ต๊ะจึงมีโอกาสได้แจ้งให้แม่โทรหาทนายความเพื่อแจ้งเรื่องการถูกตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มภายหลังจากกระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว ตนไม่ทราบว่าการไม่เซ็นเอกสารจะเป็นอะไรหรือไม่ จึงอยากทำความเข้าใจกับทนาย และอยากยืนยันว่าตนไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้ายใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ 

ทั้งคู่ยังฝากขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาให้ ตนสบายดีไม่ต้องห่วง ยังมีกำลังใจดีอยู่ รอวันออกไปข้างนอกอยู่ นอกจากนี้ยังฝากถึงกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณที่ยังให้ความช่วยเหลือ หากได้ออกไปจะไม่ทำผิดพลาดอีก 

————————————–

“บอล” พุฒิพงศ์ : ถูกสอบสวนเกี่ยวกับการกรีดแขน

บอลเล่าให้ฟังว่าตนค่อนข้างเครียด หากนับเป็นคะแนนเต็ม 10 ความเครียดของตนอยู่ในระดับ 5-6 ตนกินข้าวบ้าง ไม่กินบ้าง บางครั้งได้อาหารจากญาติของเพื่อนส่งมาให้ ก็จะได้กินด้วย แต่ในส่วนของตัวเองนานๆทีจะมีคนซื้ออาหารให้ โดยตนได้รับเงินช่วยเหลือที่กองทุนราษฎรประสงค์ฝากให้แล้ว

บอลยังเล่าว่าในช่วงเช้ามีคณะกรรมการของราชทัณฑ์ เข้ามาสอบสวนตนเรื่องการกรีดแขนและบอกกับทนายความว่าแผลกรีดแขนเริ่มหายแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากตนมีอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้เหนื่อยง่าย และมีอาการสั่นตลอด เพิ่งจะได้ทานยาเมื่อวาน หากดูจากปริมาณแล้วน่าจะต้องทานไปอีก 3 เดือน ยาจึงจะหมด

บอลยังได้ฝากขอบคุณจดหมายที่เขียนมาให้กำลังใจ และฝากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง


“หยก” วรวุฒิ : มีอาการเครียดและนอนไม่หลับ 

หยก วรวุฒิ เล่าถึงอาการเครียดและนอนไม่ค่อยหลับ โดยเป็นมาตั้งแต่เถูกย้ายมาแดน 4 และตอนนี้ยังเครียดเรื่องที่พี่ติดโควิด ตนมีอาการแน่นหน้าอกเล็กน้อย จากการนอนน้อย แม้จะมีอาหารมีฝากเข้ามาเรื่อยๆ แต่ตนกินน้อย ไม่ค่อยอยากอาหาร กินได้แค่คำสองคำเท่านั้นและคิดว่าเพื่อนทุกคนก็กินน้อย เนื่องจากความเครียด ตนอยากขอให้มีการยื่นประกันตัวอีกครั้ง เพราะทุกคนเริ่มเครียดกัน และฝากข้อความถึงคนข้างนอกว่า “ไม่มีอำนาจใดเหนือปวงประชา ไม่มีอำนาจใดใหญ่กว่าพลพรรคแรงงาน” 

พลพล : ยังคงรักษาตัวในรพ.ราชทัณฑ์ ยืนยันตนไม่ได้เผารถตำรวจ

พลพลเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเผารถตำรวจ ภายหลังม็อบ #ม็อบ11มิถุนา65 ยุติ และเป็นผู้ที่กินยาพาราเพื่อฆ่าตัวตายเนื่องจากความเครียด เล่าให้ทนายฟังว่าตั้งแต่เกิดมาตนไม่เคยถูกเจาะเลือดบ่อยขนาดนี้ โดยทั้งสองแขนต้องถูกเจาะเลือดพรุนไปหมด เนื่องจากต้องเช็คค่าตับและไตทุกวัน โดยได้ถอดสายน้ำเกลือในวันที่ 1 ก.ค. แล้ว พลพลยังบอกว่าเขาจะต้องย้ายไปนอนห้องพักรวมอีก 5 วัน แต่ไม่ทราบว่าจะได้ย้ายไปตอนไหน ตอนนี้เริ่มกินอาหารได้มากขึ้นและสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น

พลพลบอกว่าการอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีสภาพดีกว่าอยู่ในห้องขัง แต่การได้ประกันตัวออกไปข้างนอกจึงจะดีที่สุด ทุกวันนี้กว่าจะหลับได้ก็เป็นเวลาดึกมากๆ เพราะนอนมองเพดานจนเบื่อ แต่หากต้องกลับไปยังห้องขังหลังรักษาตัวเรียบร้อย ก็อาจจะเครียดเหมือนเดิม 

ในทางคดี พลพลยังคงยืนยันว่า “ผมไม่ได้ทำจริงๆ อยู่มันก็คิดแต่เรื่องนี้ ทำไมศาลให้ฝากขังผม ผมตั้งใจไปมอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ทำผิด แต่กลับถูกจับขัง”

นอกจากนี้ พลพลยังบอกว่าตนได้เห็นพลุแล้ว “มันสวยมากเลย” และฝากขอบคุณกำลังใจที่ทุกคนส่งเข้ามาให้ ขอบคุณที่ไม่ลืมพวกตน

“อาร์ม” วัชรพล: กักตัวต่อเนื่องในแดน 2 เพราะเพื่อนในห้องติดโควิด

วัชรพลเล่าให้ทนายฟังว่าในห้องของตนมีคนติดโควิด จนถึงปัจจุบัน จึงยังต้องอยู่ในแดน 2 และจะต้องอยู่ไปอีกอย่างน้อย 10 วัน ตอนนี้กินอาหารได้บ้าง หากเป็นวันที่มีคนซื้อส่งมา แต่หากไม่มี ก็จะกินน้อยหน่อย 

“กับข้าวในเรือนจำ มันกินไม่ค่อยได้ ก็อยู่ไปตามสภาพ” 

สำหรับเรื่องการนอนหลับ ตนพอนอนได้ แต่กว่าจะหลับก็ดึก เพราะคิดแต่เรื่องประกันตัวว่าจะได้ออกไปเมื่อไร ศาลจะให้ประกันไหม เขายังเล่าให้ฟังว่า ดีใจมากๆ ที่ได้รับจดหมายจากพ่อ 3 ฉบับ ตอนเปิดอ่านน้ำตาไหล พ่อเขียนมาว่าเพื่อนฝากข้อความมา ทำให้คิดถึงที่บ้าน อยากออกไปจากเรือนจำมากๆ

“ร็อค” ธนรัตน์: ทำงานและเรียนมาโดยตลอด ตอนนี้คงถูกให้ออกจากงานแล้ว

ร๊อคบอกกับทนายความว่าเขาอยากได้รับการประกันตัวเพื่อออกไปสอบวันจันทร์นี้ ปัจจุบันเขายังไม่ได้ย้ายออกจากแดน 2 เช่นกันเนื่องจากมีเพื่อนร่วมห้องขังติดโควิด สำหรับเรื่องความเป็นอยู่ เขาบอกว่านอนดึกเพราะคิดเรื่องประกันตัวและอยู่ข้างในไม่มีอะไรทำ ส่วนเรื่องอาหารการกิน เขารู้สึกว่าต้องกินเพราะไม่มีทางเลือก “ผมไม่รู้จะทำไง มีอะไร ผมก็กินไป” 

เขายังบอกว่าก่อนหน้านี้ ตัวเองทำงานพาทไทม์ที่ 7-11 โดยทำมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ปัจจุบันทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย โดยวันจันทร์ – ศุกร์ จะทำงานช่วงหลังเลิกเรียน คือประมาณ 17:30 – 22:30 น. ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ แล้วแต่กะว่าได้ช่วงเวลาไหน

“ตั้งแต่ผมโดนฝากขังก็ไม่ได้ไปทำงานเลย ไม่ได้บอกอะไรเค้าด้วย เค้าคงให้ออกแล้วอะพี่” ร็อคสะท้อนความกังวลต่อการงานเลี้ยงชีวิตที่เขาดูจะต้องสูญเสียไป


“ต้อม” จตุพล: ถูกผู้คุม “ซ่อม” ก่อนย้ายแดน

จตุพล ปัจจุบันย้ายมาอยู่แดน 4 แล้ว และได้เจอเพื่อนๆ ที่ถูกย้ายมา ก็รู้สึกดีขึ้น ไม่เครียดเท่าตอนอยู่แดน 2 เพราะก่อนหน้านี้ตอนถูกขัง ไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆ เขาเล่ากลับไปช่วงเวลาที่ถูกขังอยู่ในแดน 2 ว่าที่ห้องไม่มีทีวี ทำให้ยิ่งเครียด คุยกันกับเพื่อนเบาๆ ก็ยังโดนว่า 

ต้อมบอกว่าก่อนย้ายแดน ตนถูกผู้คุม “ซ่อม” โดยผู้คุมเอากระบองพันผ้าและตีที่หลัง 3 ครั้ง เมื่อถามว่าทำไมจึงถูกทำร้าย 

ต้อมเล่าว่า “ก่อนย้ายแดนมันต้องมีการตรวจของ ตรวจร่างกาย แต่ของผมเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจร่างกาย ผมเลยถามว่าพี่ไม่ตรวจร่างกายผมหรอ แค่นั้นแหละพี่ เจ้าหน้าที่ก็ถามผมว่า ‘มึงกวนตีนเหรอ’ ผมก็บอกว่า เปล่า ผมแค่ถามดู แล้วเค้าก็สั่งซ่อม ให้ผมนอนกลางแดด นอนกางมุง แล้วก็เรียกผมเข้าไปในห้องคนเดียว หลบกล้องแล้วฟาดผม 3 ครั้ง มันไม่เจ็บมาก แต่มันก็จุกอะพี่ ปกติ เจ้าหน้าที่จะตีเราได้ก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทใช่มั้ยพี่ ผมก็เลยงง ว่าทำไมผมถึงโดนได้ แล้วผมถามเพราะผมสงสัยจริงๆ”


ณัฐพล: อ่อนเพลีย เป็นไข้และปวดไปทั้งตัว แต่ยังไม่ได้ตรวจ ATK

ทนายความสังเกตว่า ณัฐพลต้องดมยาดมตลอดเวลาและมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เขาเล่าให้ฟังว่าไม่สบายมาตั้งแต่วันอังคาร (28 มิ.ย.) โดยมีอาการตัวร้อน ไม่มีแรง ขอยาก็ได้แต่ยาพารา 1 เม็ด จึงแจ้งผู้คุมว่ากลัวจะติดโควิดจากพี่คิม (ธีรวิทย์) เมื่อคืนเขาก็ยังไข้ขึ้น และมีอาการปวดหัวข้างขวา 

“นอนแล้วมันปวดร้าวทั้งตัวเลย” ณัฐพลบอกอาการ

นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่ากินข้าวไม่ไหว พอกินก็จะอ้วก จึงกินเพียงน้ำกับเกลือแร่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตรวจ ATK เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ถึงรอบตรวจ โดยเขาไม่เคยติดโควิดมาก่อนและยังไม่ได้รับวัคซีนเช่นกัน 


ย้อนดูภาพรวมสถานการณ์ผู้ต้องขังกรณีทะลุแก๊ส

บันทึกเยี่ยม ‘14 ทะลุแก๊ส’ 1 รายติดโควิด-อดอาหาร 3 รายประท้วงศาล ทุกคนเครียดและมีความคิดทำร้ายตัวเอง-ฆ่าตัวตาย

รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมืองตั้งแต่มีนาคม 2565

X