“สมบัติ ทองย้อย” ถูกขังคดี ม.112 รอบสอง มาครบ 1 ปี ลุ้นได้ลดหย่อนโทษหลังมี พ.ร.ฎ.อภัยโทษ

วันที่ 13 ก.ย. 2567 นับเป็นเวลา 1 ปี แล้วที่ สมบัติ ทองย้อย ประชาชนและอดีตการ์ดเสื้อแดงในวัย 55 ปี ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีตามมาตรา 112 โดยเป็นการรับโทษจำคุก 4 ปี ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ หากรวมการถูกคุมขังในระหว่างที่ไม่ได้รับการประกันตัวหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา สมบัติถูกคุมขังมาแล้ว 1 ปี 9 เดือนเศษ ยังต้องติดตามว่าเขาเข้าเกณฑ์การได้ลดหย่อนโทษลงตาม พ.ร.ฎ.อภัยโทษ พ.ศ. 2567 นี้หรือไม่

สมบัติถูกคุมขังในคดีที่เขาถูก ศรายุทธ สังวาลย์ทอง ไปกล่าวหาจากการโพสต์ข้อความ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” ประกอบกับแปะภาพบันทึกหน้าจอจากข่าวมติชนเกี่ยวกับบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เข้ารับปริญญาทั้งคณะ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 ในคอมเมนต์ข้อความดังกล่าว พร้อมกับอีก 2 ข้อความ กล่าวถึงการทำตัวใกล้ชิดประชาชนและการแจกลายเซ็น ซึ่งโพสต์เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563

สมบัติต่อสู้คดีเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้อง โดยลงโทษจำคุก 2 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี หลังจากนั้นเขาไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์กว่า 9 เดือนเศษ จนศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจากเห็นว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 ภายใต้เงื่อนไขการติดกำไล EM

หลังจากได้รับอิสรภาพเป็นเวลา 7 เดือนเศษ วันที่ 13 ก.ย. 2566 สมบัติสูญเสียอิสรภาพอีกครั้ง หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเขายังมีความผิดในทั้ง 2 กระทง แต่แก้โทษลดลงเหลือจำคุกรวม 4 ปี เพราะเห็นว่าจำเลยให้การเป็นประโยชน์ ในครั้งนี้ ศาลฎีกากลับมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวอีก โดยระบุว่าหากปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจำเลยจะหลบหนี

“ไม่คิดว่าจะได้เข้าเรือนจำเลย คิดว่าคงได้ประกันเลยไม่ได้กอดลูกสาวและครอบครัวเลย เพราะจากการได้ประกันคราวที่แล้ว เราก็ไม่ได้ทำผิดสัญญาประกัน และมีไปขอถอดกำไล EM ศาลก็ให้ ระหว่างถอดเราก็ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีเลย” สมบัติเคยให้ความเห็นหลังต้องเข้าเรือนจำเป็นครั้งที่ 2 

หลังจากนั้น แม้มีความพยายามยื่นประกันตัวอีก 1 ครั้ง แต่ยังคงไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้ในช่วงปลายปี 2566 สมบัติตัดสินใจไม่ต่อสู้คดีในชั้นฎีกาอีก และไม่ต้องทำการประกันตัวอีก โดยเขาเห็นว่าไม่อยากให้เกิดสภาพต้องเข้า ๆ ออก ๆ เรือนจำอีก อยากให้คดีความจบ แม้ต้องยอมทนอยู่ยาวเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับมาเรือนจำอีกเป็นครั้งที่ 3 อยากให้ครั้งนี้เป็นการเข้าเรือนจำ ‘ครั้งสุดท้าย’ ของชีวิต

ก่อนต้องเผชิญมรสุมชีวิต สมบัติทำงานขายเครื่องกรองน้ำมาประมาณ 20 ปี เขาเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว เดือน ๆ หนึ่ง ได้รายได้ 2-3 หมื่นบาท ผลกระทบดังกล่าวทำให้ครอบครัวที่มีภรรยาและลูกสาวต้องต่อสู้ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

“คำที่พ่อโพสต์ไปก็เป็นคำที่คนทั่วไปพูดถึงกัน แค่อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อมีคนติดตามเยอะ มีทั้งคนที่ชอบ ไม่ชอบ ก็เลยเอากฎหมาย มาตรา 112 มาจัดการ ซึ่งตัวกฎหมายเองก็มีช่องโหว่ กล่าวหาว่าพ่อจาบจ้วง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น อ้างอีกว่ากลัวพ่อจะหลบหนี ทั้งๆ ที่พ่อเองไม่เคยคิดจะหลบหนี เพราะครอบครัวเราอยู่ที่นี่ เวลามีนัดศาลเขาก็ไปตามนัดทุกครั้ง” ลูกสาวของสมบัติเคยสะท้อนถึงคดีของพ่อ

สมบัติยังมีคดีค้างคาอยู่อีกคดีหนึ่ง ได้แก่ คดีที่เขาถูก อภิวัฒน์ ขันทอง แจ้งความกล่าวหาว่าได้โพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะเจ้าพนักงาน จำนวน 2 โพสต์ ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 และ ส.ค. 2563 คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุกเขา 8 เดือน 20 วัน แต่คดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยยังไม่มีวันนัดฟังคำพิพากษามาแต่อย่างใด

อีกทั้งภายหลังมี พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยังต้องติดตามว่าสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับการลดหย่อนโทษลงหรือไม่ เนื่องจากเขาถูกคุมขังมาเกิน 1 ใน 3 ของโทษแล้ว (จำคุกมาราว 1 ปี 8 เดือนเศษ จาก 4 ปี) แม้ไม่ถึงขั้นได้รับการปล่อยตัว แต่โทษเต็มที่มี อาจถูกลดหย่อนลง รวมทั้งเขาเองยังมีความหวังต่อกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนที่รวมทุกข้อกล่าวหาที่ต้องติดตามสถานการณ์ในสภาต่อไป

.

————————

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

เปิดบันทึกสืบพยานคดี 112 “สมบัติ ทองย้อย” โพสต์ #กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ ก่อนศาลพิพากษาพรุ่งนี้

เขียนอย่างไรให้ดู “ผิด”?: ภาษาของการเมืองในคำพิพากษาคดี ม.112 ของสมบัติ ทองย้อย

ดูฐานข้อมูลคดีนี้ คดี 112 สมบัติ ทองย้อย ถูกกล่าวหาโพสต์ 3 ข้อความ ล้อเลียน-ใส่ความ ร.10

.

X