ศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว “สมบัติ” คดีหมิ่นประยุทธ์ สิ้นสุดการคุมขังกว่า 288 วัน ส่วนศาลอาญาให้ประกัน “คงเพชร” หลังยื่นเอกสารเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว “สมบัติ ทองย้อย” วัย 52 ปี จาก คดีหมิ่นประยุทธ์ ซึ่งถูกศาลพิพากษาคดีในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ โดยตัดสินให้จำคุก 1 ปี 1 เดือน (ลดโทษเหลือจำคุก 8 เดือน 20 วัน) จากการโพสต์ข้อความวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สมบัติถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ 28 เม.ย. 2565 แล้วในคดีมาตรา 112

ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 8 ก.พ. 2566 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวสมบัติต่อศาลอุทธรณ์ แต่ในเวลา 12.29 น. ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งเห็นว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก นอกจากนี้จำเลยยังเป็นบุคคลเดียวกันกับคดีมาตรา 112 ของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาหลายครั้งแล้ว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง”

ย้อนอ่านข่าวศาลฎีกาให้ประกันในคดี ม.112 >>> ศาลฎีกาให้ประกัน “สมบัติ ทองย้อย” ในคดี ม.112 ระบุไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันคดีหมิ่นประยุทธ์ ระบุเกรงว่าจะหลบหนี

ต่อมา ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวอีกครั้งในวันดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าศาลฎีกาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวสมบัติในคดีมาตรา 112 แล้ว โดยระบุคำสั่งที่ตรงข้ามกันกับศาลอุทธรณ์ว่า “จำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์” และศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งส่งให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย

จนวันที่ 9 ก.พ. 2566 เวลา 17.10 น. ศาลอุทธรณ์จึงได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวสมบัติในคดีหมิ่นประยุทธ์ โดยระบุคำสั่งมีใจความสำคัญว่า “การที่ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตในอีกคดีหนึ่ง จึงมีพฤติการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ศาลเห็นว่าควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยวางเงินสด 70,000 บาท หากผิดสัญญาประกันจะทำการริบไว้”

และในเวลาประมาณ 19.30 น. สมบัติได้ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเดินทางกลับบ้านพร้อมครอบครัว โดยเป็นการสิ้นสุดการคุมขังที่มีระยะเวลาร่วมกว่า 288 วัน หรือ 9 เดือนเศษ โดยสมบัติต้องเดินทางไปติดกำไล EM ในวันนี้ (10 ก.พ.) ตามเงื่อนไขการประกันตัวในคดีมาตรา 112 

ขณะเดียวกันวานนี้ ศาลอาญายังมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว “คงเพชร” นักศึกษากลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน อายุ 18 ปี กรณีถูกกล่าวหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ในขณะเดินทางเข้าร่วมงานรำลึก 12 ปี การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2565 ที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 ศาลมีคำสั่งให้ยื่นเอกสารประวัติการศึกษาและการประกอบอาชีพของจำเลยเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาคำสั่งประกันตัว

ทนายความและมารดาของคงเพชรจึงได้จัดเตรียมเอกสารยื่นต่อศาล และศาลอนุญาตให้ประกันตัว ระบุคำสั่ง “พิเคราะห์แล้ว ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 มีอายุ 18 ปีเศษและกำลังศึกษาอยู่ชั้น ปวช. 3 และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 แล้วจะไม่หลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ในระหว่างพิจารณา โดยวางหลักประกัน 100,000 บาทพร้อมติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้กับจำเลยที่ 2 หมายเบิกจำเลยที่ 2 มาเพื่อวางหลักประกันกับสัญญาประกันและติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในวันพรุ่งนี้ แจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบ”

ต่อมาศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวคงเพชรมาก่อน แล้วจึงเดินทางไปติดกำไล EM ในภายหลัง ทำให้คงเพชรได้ถูกนำตัวมาติดกำไล EM ในวันนี้ (10 ก.พ.) ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว สิ้นสุดระยะเวลาคุมขังตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงระหว่างพิจารณา เป็นเวลา 306 วัน หรือกว่า 10 เดือน 

ทั้งนี้หลักทรัพย์ประกันตัวทั้งสองคดีได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

ขณะเดียวกันวานนี้ (9 ก.พ.) ศาลอาญายังคงไม่อนุญาตให้ประกันตัวคทาธร คู่คดีของคงเพชร ซึ่งอยู่ในวัย 26 ปี และพรพจน์ แจ้งกระจ่าง จำเลยผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปาระเบิดปิงปองใส่สนามหญ้าด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 โดยเห็นว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

X