สรุปสถานการณ์ผู้ต้องขังการเมือง ตุลาคม 2566

จนถึงปัจจุบัน (8 พ.ย. 2566) มีผู้ต้องขังคดีการเมืองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อย่างน้อย 36 ราย แบ่งเป็นผู้ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดี 26 ราย และเป็นผู้ต้องขังในคดีที่สิ้นสุดแล้ว (นักโทษเด็ดขาด) 10 ราย

  1. ระหว่างสู้คดี อย่างน้อย 26 คน 

แบ่งตามข้อกล่าวหา

  • คดีมาตรา 112 จำนวน 14 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 2 คน
  • คดีอื่น ๆ จำนวน 12 คน ได้แก่ คดีที่ถูกฟ้องว่าครอบครองวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง), เผารถตำรวจ, เผาป้อมตำรวจจราจร และอื่น ๆ 

แบ่งตามชั้นที่ถูกคุมขัง

  • ชั้นสอบสวน (ฝากขัง) จำนวน 1 คน ได้แก่ แม็กกี้
  • ชั้นพิจารณาคดี (ศาลยังไม่พิพากษา) จำนวน 2 คน ได้แก่ ชนะดลและวุฒิ  
  • ชั้นอุทธรณ์ (ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว) จำนวน 18 คน ได้แก่ ถิรนัย, ชัยพร, เวหา, ทีปกร, วารุณี, ประวิตร, วัฒน์, ขจรศักดิ์, คเชนทร์, โสภณ, วัชรพล, จตุพล, ณัฐพล, ไพฑูรย์, สุขสันต์, ธนายุทธ, อานนท์ และวีรภาพ 
  • ชั้นฎีกา (ศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว) จำนวน 3 คน ได้แก่ อุดม, สมบัติ และกัลยา
  • มาตรการพิเศษแทนการพิพากษา (คดีในศาลเยาวชนฯ) จำนวน 2 คน คือ ภูมิและภัทรชัย (เยาวชนอายุ 17 ปี)
  1. คดีสิ้นสุด 10 คน  
  • คดีมาตรา 112 จำนวน 3 คน
  • คดีอื่น ๆ จำนวน 7 คน 

ภาพรวมการเข้า – ออกเรือนจำ

จากการติดตามข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน 8 พ.ย. 2566 มีความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ต้องขังคดีการเมือง พบว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้นรวม 5 คน เป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 4 คน ในจำนวนนี้เป็นการถูกควบคุมตัวในคดีของศาลเยาวชนฯ 2 คน ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับการปล่อยตัวรวม 4 คน จากการประกันตัวในคดีการชุมนุมของกลุ่มแก๊ส 3 คน และครบกำหนดโทษในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 1 คน มีรายละเอียดดังนี้

  1. ผู้ต้องขังระหว่างสู้คดี 
  • ได้ประกันตัว 3 ราย – ปฐวีกานต์, ธีรภัทร และพลพล เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการปาระเบิด และเข้าร่วมการชุมนุม
  • ถูกคุมขังรายใหม่ 2 คน – กัลยา และแม็กกี้ เป็นคดี มาตรา 112 ทั้งสิ้น
  • ถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตา 2 ราย – ภูมิ และภัทรชัย (สำหรับภัทรชัยถูกคุมตัวมาตั้งแต่ 18 ก.ย. แต่เพิ่งทราบข้อมูล) เป็นคดีมาตรา 112 ทั้งสิ้น
  1. คดีสิ้นสุด
  • ได้ปล่อยตัว เนื่องจากถูกคุมขังครบโทษ 1 ราย – ศุภากร คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
  • ถูกคุมขังรายใหม่ – สุดใจ คดีครอบครองวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง)

ระหว่างสู้คดี: ได้ประกันแล้ว 3 คนแรก หลังศาล ‘ยกคำร้อง’ คนในเรือนจำต่อเนื่อง 5 เดือน แต่ถูกขังเพิ่ม 4 คน ล้วนเป็นคดี ม.112 เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี 1 คน 

  1. ได้ประกันตัวแล้ว 3 ราย: ธีรภัทร – ปฐวีกานต์ – พลพล

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 2566 เป็นต้นมา ศาลไม่มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ถูกขัง ‘ในเรือนจำ’ คนใดเลยต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะมีการอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวของ “วารุณี” และ “เวหา” รวมถึงมีการประท้วงของ “เก็ท-โสภณ” ด้วยการปฏิเสธอำนาจศาลก็ตาม 

โดยคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องขังระหว่างสู้คดีในเรือนจำคนล่าสุดก่อนหน้านี้ เป็นคดีของ “ชลัน” ซึ่งถูกฝากขังในคดีมาตรา 112 อยู่ที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรีเป็นเวลา 9 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวจากการยื่นประกันครั้งที่ 2 ของญาติในวันที่ 30 พ.ค. 2566 

จากนั้นมา ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันหลังถูกฟ้องหรือมีคำพิพากษา และต้องเข้าเรือนจำระหว่างสู้คดีไม่มีใครได้ประกันอีกเลย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีในศาลอาญา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2566 ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี “แก๊ป” ธีรภัทร และ “ป่าน” ปฐวีกานต์ ในคดีที่ถูกฟ้องว่าเข้าร่วมชุมนุมของกลุ่ม #ทะลุแก๊ส เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 และปาระเบิดใส่รถวิทยุสายตรวจของตำรวจ รวมระยะเวลาถูกคุมขัง 68 วัน 

ขณะปฐวีกานต์และธีรภัทรได้รับการปล่อยตัว ภาพจากเพจทะลุแก๊ส

ต่อมา วันที่ 4 พ.ย. 2566 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ประกัน “เก่ง” พลพล เป็นคนที่ 3 ในระลอกครึ่งปีหลังนี้ ในคดีที่ถูกฟ้องว่าร่วมชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่ หรือ #ม็อบ11มิถุนา2565 ซึ่งศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน โดยเก่งต้องติด EM และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 6 พ.ย. 2566 รวมระยะเวลาถูกคุมขัง 69 วัน 

ทำให้ช่วงเดือน ต.ค. จนถึงปัจจุบันมีผู้ต้องขังคดีการเมืองได้ประกันตัวแล้ว อย่างน้อย 3 คน หลังก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวต่อเนื่องนานหลายเดือน ทำให้จำนวนผู้ต้องขังระหว่างการต่อสู้คดีเพิ่มขึ้นรวม 26 คนแล้ว ซึ่งนับเป็นจำนวนที่สูงมาก สำหรับผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ทนายความยังคงยื่นขอประกันตัวอยู่เรื่อย ๆ ทว่า ศาลก็ยังคงยกคำร้องดังเดิม 

ขณะเก่ง พลพล ได้รับการปล่อยตัว จากทะลุแก๊ส
  1. ถูกคุมขังรายใหม่ 4 ราย: กัลยา – แม็กกี้ – ภูมิ – ภัทรชัย ล้วนแต่เป็นคดี ม.112

เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ถูกคุมขังเพิ่มอีก 3 ราย ได้แก่ “กัลยา”, “แม็กกี้” และ “ภูมิ” และเพิ่งได้รับแจ้งว่าใน เดือน ก.ย. มีเยาวชนอายุ 17 ปี ถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตา 1 ราย นั่นคือ “ภัทรชัย” ทั้ง 4 คนล้วนแต่ถูกควบคุมตัวในคดีมาตรา 112 ทั้งสิ้น

ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีประชาชนหลายคนถูกดำเนินคดีและถูกคุมขังโดยที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไม่ทราบข้อมูล อาจจะด้วยเพราะมีทนายความให้ความช่วยเหลือเป็นของตัวเองแล้ว หรือไม่มีทนายความ แต่ไม่ได้ติดต่อมาขอรับความช่วยเหลือจากศูนย์ทนายฯ เนื่องจากไม่รู้จัก ไม่เคยติดต่อมาก่อน หรือด้วยเหตุขัดข้องใด ๆ ก็ตาม 

ทำให้อาจจะมีผู้ถูกดำเนินคดีการเมืองและมีผู้ถูกคุมขังในคดีการเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่ศูนย์ทนายฯ ไม่ทราบข้อมูลและรายละเอียด โดยบางครั้งอาจติดต่อได้ในภายหลังเมื่อถูกดำเนินคดีและถูกคุมขังไปแล้ว เช่นกรณีของ “แม็กกี้” แต่กรณีภัทรชัยนั้นขาดการติดต่อไประยะหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ที่คดีอยู่ในชั้นสอบสวน ศูนย์ทนายฯ ยังสามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายได้อยู่

2.1 กัลยา วัย 29 ปี ถูกขังชั้นฎีกาอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส

กัลยาถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสมาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 6 ปี ตามศาลชั้นต้นในคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 2 กระทง และศาลฎีกาไม่ให้ประกันตัวระหว่างฎีกา แม้จะยื่นประกันไปแล้ว 2 ครั้ง โดยระบุเหตุผลสำคัญว่า จำเลยป่วยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันบริเวณขา จำเป็นต้องกินยาสลายลิ่มเลือดและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

2.2 แม็กกี้ วัย 26 ปี ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผู้ต้องขังการเมืองแจ้งกับทนายความว่า มีประชาชนรายหนึ่งถูกคุมขังอยู่ในคดี มาตรา 112 และเมื่อประชาชนคนดังกล่าวยินยอมให้ทนายความเข้าเยี่ยมจึงได้ทราบรายละเอียดว่า ชื่อ “แม็กกี้” นิยามตัวเองว่าเป็น เกย์ออกสาว และเป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA2S+) อายุ 26 ปี 

แม็กกี้ถูก ตร.สน.ทองหล่อ จับกุมที่บริเวณตึก Interchange 21 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2566 เขาถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ทองหล่อ ถึง 2 คืน และถูกยื่นขอฝากขังต่อศาลอาญาในวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังเขาอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรื่อยมาถึงปัจจุบัน

แม็กกี้ถูกจับกุมตามหมายจับในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการถูกกล่าวหาว่าใช้เฟซบุ๊กกระทำความผิด รวม 18 กรรม ซึ่งในชั้นจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา ไม่มีทนายความอยู่ด้วย เนื่องจากเขาเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือทางกฎหมาย 

2.3 ภัทรชัย วัย 17 ปี ถูกควบคุมตัวตามมาตรการพิเศษ แทนการพิพากษา

ภูมิ ซึ่งถูกควบคุมอยู่ที่บ้านเมตตาในคดีมาตรา 112 มาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 2566 แจ้งกับทนายความว่า มีเยาวชน 1 รายถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตาเช่นเดียวกับเขา 

ต่อมา พบว่า เยาวชนคนดังกล่าวมีชื่อว่า “ภัทรชัย” (นามสมมติ) ปัจจุบันอายุ 17 ปี (ขณะเกิดเหตุอายุ 14 ปี)  ถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านเมตตามาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2566 ภายหลังอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยภัทรชัยถูกฟ้องว่าเข้าร่วมการชุมนุม #ม็อบ12กันยา64 ที่ดินแดง และร่วมกันทำให้เกิดเพลิงไหม้ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณทางด่วนดินแดง ขาเข้า ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ภัทรชัยเข้ามาตรการพิเศษแทนการพิพากษา โดยระหว่างปฏิบัติตามมาตรการพิเศษ ให้อยู่ในการควบคุมของสถานพินิจฯ บ้านเมตตา 

2.4 ภูมิ วัย 20 ปี 

ภูมิถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากกรณีร่วมกิจกรรมเรียกร้องให้ปล่อยตัว “นิว” สิริชัย นาถึง ซึ่งถูกจับกุมไปยัง สภ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 ขณะนั้นภูมิเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี

ในนัดสืบพยาน ภูมิขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลเห็นควรให้ใช้มาตรการพิเศษแทนการพิพากษา กำหนดให้ส่งตัวจำเลยไปที่สถานพินิจฯ เป็นเวลา 1 ปี ให้อบรมหลักสูตรวิชาชีพ 2 หลักสูตร ภูมิจึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตา มาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. เป็นต้นมา 

คดีสิ้นสุด : “ศุภากร” ถูกปล่อยตัว หลังขังจนครบโทษ แต่มีขังเพิ่ม 1 ราย “สุดใจ” เหตุศาลไม่ให้ฎีกาคดีต่อ

  1. ถูกปล่อยตัว 1 ราย : “ศุภากร” คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา “ศุภากร” (สงวนนามสกุล) ปัจจุบันอายุ 24 ปี ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษธนบุรีแล้ว เนื่องจากถูกคุมขังจนครบกำหนดโทษ 54 เดือน (ราว 4 ปี 6 เดือน) ตามที่ศาลชั้นต้น (ศาลอาญาธนบุรี) พิพากษา

ศุภากร ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 2564 ภายหลังศาลอาญาธนบุรีพิพากษาจำคุก ในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (2), (5) กรณีถูกฟ้องว่าสร้างบัญชีเฟซบุ๊กอวตารเพื่อโพสต์ภาพและข้อความในกลุ่มเฟซบุ๊กหลายกลุ่ม โดยมีภาพและข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ จำนวน 9 ข้อความ ในช่วงระหว่างวันที่ 10-23 เม.ย. 2563 ซึ่งศุภากรให้การรับสารภาพ และไม่อุทธรณ์คำพิพากษาต่อ เขาจึงถูกคุมขังในฐานะนักโทษเด็ดขาดเรื่อยมา

หากนับตามโทษ 4 ปี 6 เดือน ศุภากรจะถูกขังครบโทษในช่วงปลายปี 2568 แต่เนื่องจากได้รับการลดหย่อนโทษจากการอภัยโทษหลายครั้ง เขาจึงได้รับการปล่อยตัวก่อน รวมระยะเวลาถูกขัง 970 วัน หรือประมาณ 2 ปี 8 เดือน 

ศุภากรนับเป็นผู้ต้องขังในคดีสิ้นสุดที่มีเหตุเกี่ยวเนื่องกับการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากถูกคุมขังจนครบโทษคนที่ 2 ของปีนี้ คนแรก คือ “คทาธร” ถูกปล่อยตัวเมื่อ 24 ก.ค. 2566 หลังถูกขังครบโทษ 1 ปี 3 เดือน 15 วัน ในคดีที่ถูกฟ้องว่ามีวัตถุระเบิดปิงปองไว้ในความครอบครอง จากการถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นระหว่างเดินทางไปร่วมงานรำลึก 12 ปี การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 ที่แยกราชประสงค์ 

  1. ถูกขังเพิ่ม 1 ราย : “สุดใจ” คดีครอบครองระเบิดปิงปอง

“สุดใจ” ประชาชนวัย 53 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างในโรงเกลือ ถูกคุมขังในฐานะนักโทษเด็ดขาด อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

สุดใจถูกดำเนินคดีจากการตรวจพบว่าครอบครองระเบิดปิงปอง ในช่วงวันที่มีการชุมนุม #ม็อบ6ตุลา64 บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งย่านดินแดง ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้น ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ศาลให้การประกันตัว โดยให้ใส่ EM และกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน

ต่อมา ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาคำพิพากษา คดีจึงถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว สุดใจจึงต้องเดินทางไปรายงานตัวต่อศาล และถูกคุมขังเพื่อรับโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน

Case Highlight : จับตาชีวิตผู้ต้องขังในเรือนจำ

  1. เอกชัย ถูกตรวจพบก้อนเนื้อเพิ่มอีก 1 ก้อน 

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2566 เอกชัยป่วยมีไข้ มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ก่อนจะตรวจพบว่าก้อนเนื้อที่ตับขนาด 11X8 ซม. นั้น เป็น ‘ฝีที่ตับ’ ภายหลังได้รับการรักษาด้วยการเจาะระบายฝี และทานยาฆ่าเชื้อจนครบกำหนดแล้ว ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 เดือนได้ โดยระยะหลังได้พักฟื้นเพื่อรับประทานยาฆ่าเชื้ออยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ เรื่อยมา

จากนั้นแพทย์ได้ทำการ CT Scan อีกครั้งในวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อตรวจดูผลการรักษาว่า ฝีที่ตับดีขึ้นจนเป็นปกติแล้วหรือไม่ แต่กลับพบว่ามีก้อนเนื้อที่ตับเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ก้อน อยู่บริเวณด้านหลังก้อนเนื้อก้อนเดิมที่เป็นฝีหนอง โดยแพทย์คาดว่าก่อนหน้านี้ที่ตรวจไม่พบก้อนเนื้อก้อนที่ 2 เพราะก้อนแรกมีขนาดใหญ่บังอยู่ แต่หลังจากฝีหนองยุบลงไปแล้ว จึงพบก้อนที่ 2 ได้ชัดเจน

ก้อนเนื้อก้อนแรกที่เป็นฝีหนองนั้นยุบลง เหลือประมาณ 1×5 ซม. จากเดิม 11X8 ซม. ส่วนก้อนที่ 2 ที่เพิ่งตรวจพบนั้นมีขนาดประมาณ 3×5 ซม. ซึ่งแพทย์จะวางแผนการรักษาต่อไป

  1. ถูกคุมขังอยู่ที่ห่างไกล ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 2 คน

ปัจจุบันมีผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 2 คนแล้ว คือ “อุดม” ชาวปราจีนบุรี วัย 36 ปี และ “กัลยา” ชาวกรุงเทพฯ วัย 29 ปี ซึ่งเป็นการถูกคุมขังระหว่างฎีกาทั้งสองคน 

การถูกคุมขังในที่ห่างไกลเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปเข้าเยี่ยมของญาติ และให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายจากทนายความ อีกทั้งการถูกคุมขังในเรือนจำต่างถิ่น ซึ่งมีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่เฉพาะพื้นที่สอดคล้องกับศาสนาและเชื้อชาตินั้น ส่งผลต่อการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของผู้ต้องขังต่างถิ่นพอสมควร อาทิ ความแตกต่างของอาหารที่มักจะเป็นแกงใต้ มีรสจัด และเป็นฮาลาล หรือจะเป็นกิจวัตรประจำวันที่ปรับให้สอดคล้องกับศาสนาอิสลาม เป็นต้น

  1. ความปลอดภัยในเรือนจำ – โรคติดต่อในเรือนจำ

ในเรือนจำพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งมีผู้ต้องขังคดีการเมืองถูกคุมขังอยู่ อย่างน้อย 29 คนนั้น ในช่วงนี้นั้นประสบปัญหาสำคัญ 2 ประการด้วยกัน 

3.1 ความปลอดภัยในเรือนจำ 

ผู้ต้องขังในพื้นที่ภาคกลางหลายคนประสบปัญหาการถูกกลั่นแกล้งและใช้อำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ต้องขังด้วยกันเอง อาทิ การถูกเรียกขอยืมเงิน การเรียกรับอาหารและของใช้เป็นรายเดือน ไถเงิน การด่าทอ คุกคาม ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย เป็นต้น

แม้ว่าจะมีการร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในเรือนจำ แต่ก็ไม่เป็นผล เรื่องทำนองข้างต้นมักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งโดยผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลในเรือนจำ

3.2 โรคระบาดและการเข้าไม่ถึงการรักษาในเรือนจำ 

ช่วงก่อนหน้านี้มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่อย่างหนัก ทำให้ผู้ต้องขังหลายคนเจ็บป่วยในเรือนจำ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ทั้งยังเข้าถึงการรักษาพยาบาลในเรือนจำได้อย่างยากลำบาก แต่การระบาดเริ่มบางเบาลงแล้วในช่วงต้นเดือน พ.ย. นี้ 

อ่านรายชื่อผู้ต้องขังคดีการเมืองและพฤติการณ์คดีเพิ่มเติมได้ที่: รายชื่อผู้ต้องขังทางการเมือง 2566 

X