เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 เวลาประมาณ 17.00 น. ด.ช. นัท (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบราว 5-6 นาย เข้าควบคุมตัวที่หมู่บ้านย่านพระราม 2 ขณะกำลังเตะฟุตบอลเล่นกับเพื่อนๆ จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมชุมนุมและทำให้เกิดเพลิงไหม้ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ บริเวณทางลงด่วนดินแดง ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 12 ก.ย.64 เวลาประมาณ 23.50 น.
จากคำบอกเล่า กลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบได้ทำการขอค้นบ้านของนัท โดยไม่มีหมายค้นและมีการตรวจยึดโล่ รวมถึงเสื้อผ้าที่อ้างว่านัทใส่ไปชุมนุม และได้ถูกขอโทรศัพท์ไปตรวจสอบ โดยขอให้บอกรหัสโทรศัพท์มือถือแก่ตำรวจด้วย ภายหลังจากเข้าค้นบ้าน ตำรวจได้นำตัวนัทไปจับมาถามปากคำ โดยไม่มีหมายจับ” ที่ สน.เทียนทะเล โดยไม่ได้มีหมายจับ เจ้าหน้าที่อ้างในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นการ “เชิญตัว” มาเพื่อถามปากคำ
ก่อนที่จะนำตัวนัทไปยัง สน.ดินแดง ในเวลาประมาณ 21.30 น. โดยมีมารดาติดตามไป ตำรวจนอกเครื่องแบบได้พูดคุยกับแม่ของนัท โดยมีการอัดวิดีโอการสนทนาด้วยโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะนัดให้มาที่ สน.ดินแดงอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
ทั้งสองต้องอยู่ในสน.ดินแดง ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.30 น.-02.00 น. ก่อนจะได้กลับบ้านในช่วงตี 5 ซึ่งเริ่มมีรถแท็กซี่วิ่งอีกครั้ง
วันที่ 15 ก.ย. 2564 เวลา 9.00 น. นัท แม่ และป้า นั่งรถตู้โดยสารมาที่ สน.ดินแดง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยตำรวจในเครื่องแบบ โดยมีที่ปรึกษากฎหมาย ที่ตำรวจจัดหาให้ นักจิตวิทยา และอัยการ ทนายความได้ให้คำแนะนำว่าให้นัทเล่าทุกอย่างโดยละเอียด
ต่อมาทราบว่า พนักงานสอบสวน พ.ต.ท.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ ได้บรรยายพฤติการณ์ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 64 ได้มีกลุ่มผู้ชุมนม ชื่อ กลุ่มทะลุแก๊ส จํานวนหลายคน มารวมกันชุมนุม ที่บริเวณแยกดินแดง กันตั้งแต่เวลา 14.00 เป็นต้นไป ในการชุมนุมดังกล่าวมีการขว้างปาประทัด ระเบิด และใช้ลูกแก้วยิงด้วยหนังสติ๊กเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมฝูงชนที่มาดูแลสถานการณ์
จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. และ 23.50 น. ของวันเกิดเหตุ มีซุ้มเฉลิมพระเกียรติบริเวณทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครเกิดเพลิงไหม้ โดยในช่วงเวลา 19.00 น. พบว่ามีเหตุเพลิงไหม้ซุ้มเฉลิมพระเกียรติฝั่งขาเข้า และเวลา 23.50 น. เกิดเพลิงไหม้บริเวณซุ้มเฉลิมพระเกียรติฝั่งขาออก
ภายหลังจากเหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิด ปรากฏภาพของตัวผู้ต้องหานี้ ลักษณะอยู่ในพื้นที่ชุมนุม ปืนขึ้นมาบริเวณจุดเกิดเหตุ และใช้ของเหลวราดบริเวณเสาของซุ้มเฉลิมพระเกียรติทําให้เกิดเพลิงไหม้
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่ ด.ช.นัท จำนวน 6 ข้อหา ประกอบด้วย
- ประมวลกฎหมายอาญา ม.112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
- ประมวลกฎหมายอาญา ม.217 ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์
- ประมวลกฎหมายอาญา ม. 215 ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความรุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
- ประมวลกฎหมายอาญา ม. 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุมแล้วไม่เลิก
- ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ร่วมกันกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อภาวะไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค
- ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งเรื่องการร่วมชุมนุมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และออกนอกเคหสถานระหว่างเคอร์ฟิว
นัทรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวน โดยมีที่ปรึกษากฎหมาย ซึ่งตำรวจเป็นผู้จัดหาให้ อัยการ นักจิตวิทยา และมารดา เข้าร่วมการสอบสวน และเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวนจึงได้นัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบการจับกุมและขออำนาจควบคุมตัว ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในวันที่ 16 ก.ย. 64 เวลา 09.00 น.
ต่อมาวันที่ 16 ก.ย. 2564 เวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยนัทและแม่ เดินทางมาที่ศาลเยาวชนฯ โดยในขั้นตอนวันนี้มีทนายความอาสาจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเป็นทนายให้กับนัท
ในคดีนี้ พนักงานสอบสวนยังยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ร่วมกิจกรรมชุมนุมโดยไม่สงบ โดยเหตุผลของพนักงานสอบสวนยังระบุว่ามีการทำร้ายเจ้าพนักงานและเกรงว่าจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
12.15 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อนุญาตให้ตำรวจควบคุมตัว และได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 10,000 บาท โดยได้ขอวางหลักทรัพย์จำนวน 2,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ก่อน และศาลนัดให้มาทำสัญญาวางหลักทรัพย์อีกครั้งในภายหลัง