ศาลยังไม่ให้ประกัน “ปฏิมา-คทาธร-คงเพชร” ส่วน “เอกชัย-สมบัติ” รอส่งศาลสูงพิจารณาคำร้อง

6 พ.ค. 2565 ที่ศาลอาญาและศาลอาญากรุงเทพใต้ ทนายความได้เข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการแสดงออกทางการเมือง รวมทั้งหมด 5 คน ได้แก่ เอกชัย หงส์กังวาน ในคดีโพสต์ประสบการณ์เรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ, สมบัติ ทองย้อย ในคดีมาตรา 112 จากการโพสต์ข้อความ 3 ข้อความ, ปฏิมา ผู้ถูกคุมขังในคดีถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดปิงปองใส่สนามหญ้าหน้ากรมทหารราบที่ 1 และ คทาธร-คงเพชร สองผู้ถูกกล่าวหากรณีครอบครองระเบิด หลังจากมีกิจกรรมรำลึก #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565

ต่อมาในช่วงเย็น ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งในคดีสมบัติ ทองย้อย ให้ส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา เช่นเดียวกับคดีของเอกชัย หงส์กังวาน ที่ศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาพิจารณา ทำให้ยังต้องรอฟังคำสั่งในคดีของทั้งสองคนต่อไป คาดว่าจะเป็นต้นอาทิตย์หน้า

ส่วนคดีของอีก 3 คน ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง ลงนามคำสั่ง พลีส เทอดไทย ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดียาเสพติด

ทั้งนี้ กรณีของปฏิมา เป็นการยื่นประกันตัวเป็นครั้งที่ 3 โดยคำร้องได้ขอวางหลักประกันเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมขอให้ศาลติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) โดยยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่ศาลยังคงไม่ให้ประกันตัว โดยเธอถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2565 รวมเป็นเวลา 26 วันแล้ว

กรณีของคทาธรและคงเพชร เป็นการยื่นประกันตัวครั้งที่ 3 เช่นกัน โดยเสนอคำร้องในลักษณะเดียวกับปฏิมา และยืนยันว่าทั้งสองคนประกอบอาชีพสุจริต มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทั้งคงเพชรยังมีอายุเพียง 18 ปี 2 เดือน ยังมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทั้งสองคนถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2565 เช่นเดียวกับปฏิมา

ในส่วนของสมบัติ ทองย้อย คำร้องได้ขอวางหลักประกันเป็นเงิน 3 แสนบาท และยินยอมให้ติดอุปกรณ์ EM หรือการกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ ของศาล พร้อมยืนยันต่อศาลว่าจำเลยมารายงานตัวตามนัดทุกครั้ง ไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นยังกำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ที่จำเลยเองก็ไม่เคยฝ่าฝืนแม้แต่ครั้งเดียว โดยที่จำเลยเองก็ประสงค์ที่จะอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ นอกจากนั้นสมบัติยังเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว โดยมีมารดาที่อายุมากแล้ว และมีภาระหนี้สิ้น ทำให้การถูกคุมขังของจำเลยจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างมาก

ส่วนเอกชัย หงส์กังวาน คำร้องได้ขอวางหลักประกันเป็นเงิน 1 แสนบาท และยินยอมให้ติดอุปกรณ์ EM หรือการกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ ของศาล โดยยืนยันว่าเอกชัยไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี ไปรายงานตัวตามนัดทั้งในคดีนี้และคดีอื่นๆ รวม 30 คดีทางการเมืองที่เขาถูกกล่าวหามาโดยตลอด ทั้งในนัดชั้นสอบสวนและชั้นศาล โดยจำเลยเองก็ยังประสงค์จะฎีกาคำพิพากษาทั้งในประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อศาลฎีกาต่อไป

การยื่นประกันตัวสมบัติและเอกชัย นับเป็นครั้งที่ 2 หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตามลำดับ มีคำพิพากษาในคดีของทั้งสองคน

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จนถึงวันที่ 6 พ.ค. 2565 ยังมีผู้ถูกคุมขังในคดีเกี่ยวเนื่องกับการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างน้อย 11 คน