บันทึกเยี่ยมสมบัติ ทองย้อย: “เหมือนเจอมรสุมลูกใหญ่ในชีวิตเลย ไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ยังมีความหวัง”

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 ทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ยมสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาตามมาตรา 112 กรณีโพสต์ข้อความ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” พร้อมกับอีก 2 ข้อความ ก่อนศาลอุทธรณ์จะไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีต่อชั้นอุทธรณ์ ทำให้สมบัติถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2565

สมบัติ หรือ “พี่หนุ่ม” ในวัย 53 ปี นั่งอยู่ในชุดนักโทษสีน้ำตาล ผมถูกตัดจนสั้นเกรียน เขาสวมหน้ากากอนามัยสีขาว สีหน้าท่าทาง น้ำเสียงยังดูปกติและเข้มแข็ง

เมื่อผ่านคำทักทาย และถามถึงการปรับตัว-สภาพความเป็นอยู่เมื่อต้องเข้าไปในเรือนจำ สมบัติบอกว่า “ก็พออยู่ได้ตามสภาพ อาหารก็พอกินได้ คงตามมาตรฐานทั่วไปของเรือนจำละมั้ง” ส่วนในตอนนี้ ยังไม่ได้ต้องการข้าวของอะไรเป็นพิเศษ ขอแค่ของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไปก็พอ

จากนั้นทนายความได้แจ้งผลของคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวของศาลอุทธรณ์ให้สมบัติทราบ และแจ้งว่าทีมทนายความจะเตรียมยื่นประกันตัวใหม่อีกครั้ง แต่ต้องดูช่วงเวลาว่าควรจะยื่นเมื่อไร และอย่างไร

เมื่อทราบผลคำสั่งไม่ให้ประกันตัว สมบัติเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังอยู่ได้” ให้ทีมทนายตัดสินใจดำเนินการตามรูปคดีและสถานการณ์ได้เลย

ในส่วนเรื่องเงื่อนไขการประกันตัว สมบัติให้ความเห็นว่าเขายินดีรับเงื่อนไขต่างๆ ทุกประการหากศาลจะกำหนด ไม่ว่าจะเรื่องติดกำไล EM หรือการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขอแค่ให้ได้ออกไปทำงานดูแลครอบครัวตามปกติก็พอ

“ที่ผ่านมา พี่มีคดีเยอะก็จริง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พี่ต้องเข้าเรือนจำ ตั้งแต่ถูกดำเนินคดี 112 พี่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาบ้างแล้วว่าอาจจะติดคุกสักวัน และเราก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น แต่การไม่ได้ประกันตัวครั้งนี้ค่อนข้างกะทันหัน ถือว่าเป็นการเจอมรสุมลูกใหญ่ในชีวิตเลย ไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรเลย”

สมบัติระบุว่าแม้ที่ผ่านมา ตนเองจะถูกกล่าวหาในหลายคดี แต่ก็ต่อสู้ทุกคดี ไปรายงานตัวทุกนัด และไปศาลทุกครั้ง ไม่ได้เคยมีความคิดจะหลบหนีไปไหนเลย แม้จะถูกคดีหนักอย่างข้อหามาตรา 112 ก็ตาม เพราะเขายืนยันว่า ยังไงก็ต้องอยู่ดูแลครอบครัว

สมบัติระบุถึงสถานการณ์ชีวิตของเขาว่า “หากต้องอยู่นานจริงๆ ก็เป็นห่วงงาน ห่วงหนี้สิน ห่วงครอบครัว เป็นห่วงแม่ เพราะแม่พี่แก่แล้ว ต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ปกติพี่จะอยู่บ้านคอยดูแลแม่เป็นหลัก ตอนนี้แม่พี่ ก็ต้องอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแล เพราะภรรยาพี่มีงานประจำ ต้องออกไปทำงานเกือบทุกวัน ภรรยาพี่เขาเป็นผู้ช่วยพยาบาลทำงานกว่าจะเลิกงานก็ดึกแล้ว ตอนนี้เขาเอง ต้องกลายมาเป็นคนรับภาระดูแลครอบครัว และภาระหนี้สินทุกอย่างเองคนเดียว”

สมบัติเล่าว่า ปกติเขาจะเสาหลักในการดูแลครอบครัว โดยทำงานขายเครื่องกรองน้ำมาประมาณ 20 ปีแล้ว เนื่องจากทำมานาน ทำให้พอมีฐานลูกค้า ในเดือนนี้ เขายังมีคิวต้องไปดูแลและช่วงบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำให้ลูกค้าหลายคนด้วย ซึ่งเดือนๆ หนึ่ง จะมีรายได้ 2-3 หมื่นบาท รายได้ก็จะหายไป

ทั้งในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ไม่ค่อยดี การทำมาหากินก็ลำบาก ที่ผ่านมาก็พอใช้จ่ายในครอบครัว และทยอยจ่ายภาระหนี้สินที่ครอบครัวมีอยู่ เขาเกรงอย่างเดียวว่าทุกอย่างนี้จะตกไปเป็นภาระของภรรยาเพียงคนเดียว รวมทั้งกังวลเรื่องกลุ่มลูกค้าของเขาที่อาจจะต้องสูญเสียไป หากเขาไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ

“ถ้าได้อยู่นาน ลูกค้าคงหนีไปซื้อที่อื่นกันหมดแล้ว ออกไปก็กลายเป็นคนตกงานอีก” สมบัติสะท้อนความรู้สึก

สมบัติทิ้งท้าย ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ติดตามคดีของเขา และยืนยันว่าเขายังมีกำลังใจดี แม้จะมีข้อกังวลต่างๆ และยังคงมีความหวังถึงการได้ประกันตัวออกไปทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวตามปกติ

.

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

——————————-

อ่านคดีของสมบัติ ทองย้อยเพิ่มเติม

เปิดบันทึกสืบพยานคดี 112 “สมบัติ ทองย้อย” โพสต์ #กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ ก่อนศาลพิพากษา

พิพากษาจำคุก 6 ปี “สมบัติ ทองย้อย” ผิด ม.112 กรณีโพสต์ “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจ” กับอีก 2 ข้อความ ศาลชี้เจตนาล้อเลียน-ด้อยค่ากษัตริย์

ฐานข้อมูล คดี 112 สมบัติ ทองย้อย ถูกกล่าวหาโพสต์ 3 ข้อความ ล้อเลียน-ใส่ความ ร.10

.

X