บันทึกเยี่ยม 5 ผู้ต้องขังทางการเมือง ระหว่างวันที่ 27 พย.- 1 ธ.ค. 2566 

ระหว่างวันที่ 27 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค. 2566  ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม 3 ผู้ต้องขังทางการเมือง ได้แก่ ‘ธี’ ถิรนัย, ‘มาร์ค’ ชนะดล และ  ‘บุ๊ค’ ธนายุทธ นอกจากนี้ยังเข้าเยี่ยม  ‘ไพฑูรย์’ และ ‘สุขสันต์’ ที่เรือนจำกลางคลองเปรมด้วย

‘ธี’ ถิรนัย ได้รับการดูแลที่ดีขึ้นภายหลังจากย้ายแดน ทำให้เขาดูมีความสุขมากขึ้น ขณะที่ “มาร์ค” ชนะดล พยายามไม่คาดหวังกับผลการสอบประวัติมากนัก แม้เเจ้าหน้าที่คุมประพฤติที่เข้ามาพูดคุยจะให้กำลังใจเอาไว้ ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 ธ.ค. 2566  ด้าน ‘บุ๊ค’ ธนายุทธ ยังคงพยายามส่งเสียงเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับเพื่อนในเรือนจำ ในอาทิตย์นี้เขาพูดถึงการขอให้มีน้ำร้อนในเรือนจำเพื่อต้มมาม่า 

ส่วน ‘ไพฑูรย์-สุขสันต์’ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำคลองเปรมกำลังจะถูกจำแนกแดน ทำให้จะต้องแยกกันโดยพวกเขาคิดว่าตนเองคงจะพยายามปรับตัวได้ 

‘ธี’ ถิรนัย: ความสนุกเดียวในเรือนจำคือได้นั่งวิเคราะห์การเมืองกับเพื่อน ๆ 

ธี ถูกเบิกตัวมาเจอในห้องทนายความ เขาดูสดชื่นขึ้น สิวลดลง ไม่ได้มีท่าทีเบื่อหน่ายเหมือนตอนอยู่แดน 5 เขามีความสนใจการเมืองมากขึ้นและสนุกกับการวิเคราะห์สถานการณ์กับเพื่อน ๆ ในแดน

“องคมนตรีคนใหม่เป็นไงบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “พี่อานนท์บอกว่าองคมนตรีก็แนว ๆ เลขากษัตริย์ แล้วคนข้างนอกว่ายังไงบ้าง”

ธียังได้พูดถึงเรื่องการนิรโทษกรรม “เรื่องนิรโทษกรรมก็ไม่รู้จะเป็นยังไง มันมีผลต่อผู้ต้องขังทางการเมืองแบบเรามากนะ คิดว่าปีหน้า ถ้าไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คนเข้ามาในเรือนจำแน่นแน่ อยู่ข้างในมองข้างนอกไม่ออกเลย” 

ธีพูดต่อว่า “อยู่แดน 4 ก็สนุกตอนได้นั่งคุย นั่งคิดเรื่องนี้แหละ ตอนอยู่แดน 5 ไม่รู้จะคุยกับใคร ตอนนี้ผมเริ่มอยากอ่านหนังสือเชิงปรัชญาชีวิต แนวความคิดต่าง ๆ บ้างแล้ว”

ธียังเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันพุธ (29 พ.ย.) มีการเข้าตรวจแดน 4 ตอนตีห้าครึ่ง ผบ.แดนเกือบทุกแดน ยกเว้นแดน 5 กับ ผอ.เรือนจำประมาณ รวม 10 กว่าคน เข้ามาคุยกับเขาและถามว่าธีเป็นยังไงบ้าง ทำฟันรึยัง ต้องให้หมอที่เชี่ยวชาญมาดูให้นะเพราะเราจัดฟัน เดี๋ยวฟันล้ม 

“ก็อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้ามาถามไถ่กัน มันดูใส่ใจดี บางคนก็บอกว่า ผมไม่ได้มองว่าพวกคุณเป็นนักโทษนะ พวกคุณเป็นนักสู้ทางการเมือง แต่โดนกลั่นแกล้งเลยต้องมาอยู่ในนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก เจ้าหน้าที่หลายคนก็มองว่าพวกเราเป็นนักโทษ“

ปัจจุบัน (4 ธ.ค.) ธี ถิรนัย ถูกคุมขังมาแล้ว 293 วัน 

.

บุ๊ค ธนายุทธ: “ในเรือนจำหากมีข่าวนิรโทษกรรม เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนช่องทันที”

บุ๊ค ยิ้มพร้อมโบกมือทักทาย เขาบอกว่าช่วงนี้สบายดี เรื่องในเรือนจำมีอะไรให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมทุกวัน ก็ต้องพยายามปรับตัวตาม 

“ตอนนี้ผม พี่เอ มายด์ อยากได้หนังสือมากอ่านมาก ๆ พวกเราชอบอ่านหนังสือ นิยาย ปรัชญาชีวิต การเมืองก็ได้ อยากให้ฝากเข้ามาให้หน่อย”

หลังอัปเดตสถานการณ์เรื่องนิรโทษกรรม บุ๊คบอกว่า “ดีใจมาก ๆ ที่สรยุทธนำเสนอข่าวเรื่องนิรโทษกรรม อย่างน้อยก็มีการเอาปัญหาผู้ต้องหาทางการเมือง นักโทษการเมืองมาพูดถึงในสื่อหลัก สังคมจะได้รับรู้เป็นวงกว้างว่ามีผู้ต้องหาทางการเมืองเยอะมาก ในเรือนจำหากมีข่าวนิรโทษกรรม เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนช่องทันที”

บุ๊คพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรมว่าผู้ต้องขังในเรือนจำหลายคน รู้สึกไม่โอเคกับการที่ทักษิณได้รับอภิสิทธิ์แตกต่างจากผู้ต้องขังทั่วไป ต่างถกเถียงเรื่องความเป็นอยู่ในเรือนจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นอน ยารักษาโรค อาหาร ปัจจัย 4 ที่ทุกคนควรจะได้รับอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้แต่น้ำเย็นคนที่นี่ ก็ไม่ได้สัมผัสเลย แต่ทำไมบางคนถึงได้เข้าถึงความสะดวกสบายแตกต่างกับทุกคนในนี้ 

“ผู้ต้องขังในเรือนจำทุกคนมีความเป็นมนุษย์ แต่พอเกิดเรื่องทักษิณ พวกเค้ารู้สึกว่าถูกลดทอนความเป็นมนุษย์”

บุ๊คพูดถึงเรื่องคุณภาพชีวิตในเรือนจำมาตลอด เขาบอกว่าอยากให้กระทรวงยุติธรรม หรือ สส. เข้ามาตรวจสอบดู 

“อยากให้มาตรวจสอบจริง ๆ มาดูความเป็นอยู่ทุกแดน ไม่ใช่แค่แดนที่จัดเตรียมไว้ แดน 5-6 แม้แต่ที่หลบแดดยังไม่มีเลย ตอนผมทำงานร้านค้า จะมีผู้ต้องขังมาเข้าแถวยาวเลย ไม่ได้มาซื้อของนะ แต่มาขอลังกระดาษ เอาไปปูนอนใต้อาคารที่ร่มเงา ผมเห็นแล้วหดหู่มาก

“มีเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ขณะเยี่ยมญาติ ได้คุยกับญาติว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้รับสิทธิอย่างที่ควรจะเป็น ที่นอนไม่สะอาด อาหารกินไม่ได้ น้ำดื่มไม่สะอาด เจ้าหน้าที่ก็โพล่งเข้ามาบอกว่ามีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกก่อน จริง ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้ปัญหาดีอยู่แล้ว แต่มันไม่เคยได้รับการแก้ไข การห้ามไม่ให้พูดถึงปัญหา ไม่ต่างจาก 112 เลย”

เขายังเล่าให้ฟังว่า Domimail ของตนเองถูกตัดเนื้อหาออกเช่นเคย 

“วันก่อนผมจะผมส่งจดหมายออกมา แต่ถูกให้ตัดเนื้อหาออก” ผมเขียนเล่าไปว่า “เก็ทเล่าให้ฟังว่าที่แดน 4 มีทั้งเครื่องทำน้ำร้อนและเย็น จะเป็นไปได้ไหมที่แดนอื่นจะมีแบบนี้บ้าง เรือนจำพอจะทำให้มันเท่าเทียมได้ไหม บางคนกินมาม่าทุกวันว่าแย่แล้ว แต่ไม่มีน้ำร้อนให้ต้มมาม่ากิน มันแย่ยิ่งกว่า

“เจ้าหน้าที่เรียกผมคุยและขอให้ลบข้อความในจดหมาย 4-5 บรรทัด ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า อันนั้นมีคนบริจาคให้ ผมว่ามันไม่ถูกต้อง การบริจาคมันคือการให้ประโยชน์หรือเปล่า ผมอยากให้ทุกแดนมีเหมือนกัน ถ้าจะไม่มี ก็ไม่มี”

สำหรับเรื่องความเป็นอยู่ส่วนตัวบุ๊คบอกว่า เสื้อผ้าของเขาหายไปอีกแล้ว  “ผมไปร้องเรียน เจ้าหน้าที่ก็ทำได้แค่ประกาศว่าให้คนเอาไปเอามาคืน มันก็เหมือนเดิม ขอดูกล้องก็ไม่ได้ กล้องก็มีตัวเดียว มันไม่เห็นหรอก ผมคิดว่าควรติดกล้องอีกเพื่อความปลอดภัย ในนี้นอกจากจะต้องระวังชีวิตที่ต้องเสี่ยงกับโรคต่าง ๆ ยังไม่พอ ยังต้องระวังทรัพย์สินอีก”

ช่วงที่ผ่านมามีการจัดกีฬาสี บุ๊คบอกว่า เขา “เอ” กฤษณะ และ “มาย” ชัยพร ไปแข่งกีฬากัน “ลงเล่นฟุตซอล น่าเสียดายที่มีแค่ช่วงนี้ ผมว่าควรจะมีตลอด เพื่อลดความเครียด มันผ่อนคลาย” 

เขาทิ้งท้ายว่า “จริง ๆ แดน 6 ค่อนข้างน่าเบื่อ มันเป็นแดนวินัย มีการฝึกวินัยสำหรับคนที่ทำผิดวินัยมาทุกเช้า จันทร์ถึงศุกร์ กีฬาเล่นได้แต่เสาร์อาทิตย์ ผู้ต้องขังคนอื่นก็ไม่มีอะไรทำ แดนนี้เค้าเรียกกันว่าแดนขยะรีไซเคิล อยากจะให้ได้รับการปรับปรุง”

ปัจจุบัน (4 ธ.ค.) บุ๊ค ธนายุทธ ถูกคุมขังมาแล้ว 74 วัน 

.

‘มาร์ค’ ชนะดล: พบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ – สอบประวัติก่อนฟังคำพิพากษา

เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. มาร์คถูกเบิกตัวไปศาลอาญาเพื่อพบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ เขาจึงต้องกลับมากักตัว โดยทนายความได้เยี่ยมผ่านจอภาพ มาร์คเล่าว่าเจ้าหน้าที่สอบถามว่ายินยอมให้คุมประพฤติหรือไม่ โดยมีการสอบถามประวัติส่วนตัวและบันทึกไว้ เช่น ตอนเด็กเรียนที่ไหน จบอะไรมา ที่ผ่านมาเคยทำอะไรมาบ้าง 

“ผมก็ตอบตามความจริงไปทุกอย่าง และยินยอมให้คุมประพฤติ เจ้าหน้าที่ถามอีกว่าเคยต้องโทษหรือเคยมีคดีไหม ผมบอกว่าไม่มี เจ้าหน้าที่ก็เสิร์ชดูก็ไม่เคยมีประวัติจริง ๆ เค้าถามถึงครอบครัวว่ามีพี่น้องกี่คน พ่อแม่มีใครป่วย หรือญาติมีใครป่วยไหม เคยย้ายที่อยู่ไหม คือเจ้าหน้าที่ถามละเอียดมาก ๆ ผมก็เล่าให้ฟังตามความจริง แล้วเค้าก็อ่านที่เค้าเขียนให้ผมฟัง แล้วเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า ประวัติสะอาด น่าจะได้คุมประพฤติ” 

มาร์คยังบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองด้วย


“เออ เจ้าหน้าที่ถามด้วยว่า “ทำไมออกมาม็อบ” ผมตอบว่า “ช่วงนั้นผมดูข่าวและสื่อโซเชียลมีเดีย ดูอยู่ 2-3 เดือนเลย แล้วก็ออกไปม็อบ ผมแค่อยากลองออกไปดู

“ถึงเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะดูเห็นใจผมมาก แต่ผมก็ไม่กล้าคาดหวัง กลับมาเพื่อนถาม ผมก็ไม่กล้าพูด เพราะยังไม่รู้สรุปจริง ๆ มันคือยังไง ผมคาดหวังว่าผลจะออกมาดีตามที่เพื่อนในเรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ศาล เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ อวยพรผม ผมก็สาธุ  9 เดือนมันนานมาก ๆ”

เขาบอกถึงความรู้สึกในปัจจุบันว่า ตอนนี้รู้สึกว่าเวลาเดินช้ามาก อยากออกศาลไปฟังคำพิพากษา “วันแต่ละวันที่ต้องรอคอยมันช้ามาก ๆ ตอนนี้มันก็โล่งที่มันจบสักที ผมมีความหวังทุกวัน แต่ไม่กล้าคาดหวัง เพราะ 9 เดือนที่ผ่านมา กับการที่ศาลไม่ให้ประกันเลย มันสอนให้ผมไม่คาดหวัง”

“ตอนที่เพื่อน 4 คนได้ประกัน ผมดีใจมากเลย ใครได้ประกันผมก็ดีใจด้วย จริง ๆ ผมไม่อยากให้ใครต้องอยู่ในนี้อีก แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่ได้ประกัน ยังยืนยันว่าทุกคนควรได้สิทธิประกันตัว เรายังไม่ถูกตัดสิน เราไม่ควรอยู่ในนี้”

ปัจจุบัน (4 ธ.ค.) ‘มาร์ค’ ชนะดล ถูกคุมขังมาแล้ว 265 วัน ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีของเขาในวันที่ 7 ธ.ค. นี้

.

ไพฑูรย์ “งัดเหล็กดัดฟันออกเองในเรือนจำ” –  สุขสันต์ “กำลังจะฝึกอบรมเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่”

ไพฑูรย์ตัดผมสั้นลงเดินมาหน้าตาสดใส เขาบอกว่ายังสบายดี ช่วงนี้ไม่ป่วยและเพิ่งมีประกาศจำแนกแดนมา โดยเขาจะถูกจำแนกไปอยู่แดน 4 ส่วนสุขสันต์อยู่แดน 6  แต่เนื่องจากทั้งคู่ถูกนำตัวไปศาล ไพฑูรย์กับสุขสันต์จึงน่าจะต้องกลับมากักตัวก่อน 5 วัน แล้วจะได้ลงแดนที่จำแนกสัปดาห์หน้า

ไพฑูรย์บอกว่า แดนใหม่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ก็คงต้องไปปรับตัวใหม่ “เห็นว่าในแดน 4 จะมีวัยรุ่นเยอะ ไม่เหมือนแดน 6 ที่ผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก แล้วก็มีรุ่นพี่ในแดน 6 ที่อยู่บ้านเดียวกัน ช่วยฝากฝังส่งจดหมายติดอากรฝากตัวไปให้ที่แดน 4 ด้วย จะได้มีบ้านอยู่ เลยยังไม่กังวลอะไร ส่วนเรื่องที่แดน 4 มีไฟไหม้ก็เห็นว่ายังซ่อมแซมอาคารกันอยู่ แต่ไม่รู้จะเป็นไงเหมือนกัน”

สำหรับคดีของศาลจังหวัดนนทบุรีที่จะฟังคำพิพากษา ไพฑูรย์บอกว่าไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้ตื่นเต้นหรือคาดหวังอะไร เพราะคดีนี้ก็โทษหนักสุดแล้ว

ไพฑูรย์เล่าให้ทนายฟังว่าเพิ่งเขียนขอพบหมอฟันไปเพราะว่าตนเองจัดฟัน แต่เนื่องจากเข้ามาอยู่ข้างในแล้วไม่ได้ทำต่อ แล้วเหล็กก็เริ่มหลุดเหมือนจะแกะได้ ไพฑูรย์ก็เลยงัดเหล็ก แล้วให้รุ่นพี่ช่วยดึงออก ตอนนี้ฟันบนของไพฑูรย์ไม่มีลวดเหล็กแล้ว แต่ยังมีกาวติดอยู่ ก็เลยเขียนขอพบหมอฟันไป ไม่รู้จะได้เจอหรือไม่ เขาบอกว่าคนอื่นพูดกันว่าคิวอาจจะนานเป็นปี

พอถามว่างัดเหล็กอย่างไร ไพฑูรย์บอกว่า “ช่วงแรก ซี่หน้า ๆ ก็เอาซ่อมงัดเอง แต่พอซี่ใน ๆ งัดไม่ได้ รุ่นพี่เลยใช้คีมมาช่วยงัดให้ ไพฑูรย์บอกว่าตอนแรกก็กลัว แต่พอเขางัดได้ ก็เออเชื่อหมอเถื่อนก็ได้วะ (หัวเราะ)

ส่วนฟันล่างเหล็กยังไม่หลุดเลยยังไม่ได้งัดออก ปล่อยไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ทางด้านสุขสันต์ยังคงหน้าตาสดใส บอกกับทนายว่ายังสบาย ยังออกกำลังกาย กินข้าวได้ทุกมื้อ ส่วนเรื่องที่โดนจำแนกอยู่แดนเดิมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าแยกกับเพื่อนแล้วจะเป็นไง ก็ต้องอยู่ ๆ ไป 

สุขสันต์บอกว่า ช่วงที่ผ่านมา ผบ.แดนเรียกเขากับผู้ต้องขังในแดนอีก 9 คน ไปคุยว่าจะให้ฝึกเป็นผู้ช่วยฯ โดยเจ้าหน้าที่จะเลือกให้เขาเองว่าจะส่งไปทำอะไร ให้ช่วยอะไรบ้าง

“เค้าก็ไม่ได้บังคับนะ แต่ไม่มีใครไม่ทำเลยก็คงต้องทำ” 

ทนายยังสอบถามเรื่องที่สุขสันต์อยากเรียนหนังสือ ว่าพอถามว่าจำแนกแดนแล้ว เรียนได้แล้ว ยังอยากเรียนไหม สุขสันต์บอกว่าก็คิดว่าจะลงเรียน 

สุขสันต์ยังคงขอร้องให้ทนายเอาเรื่องผีมาเล่าให้ฟัง เขาบอกว่า “หนังสือผี” ข้างในอ่านหมดแล้ว พอไปอ่านอย่างอื่นก็ไม่สนุก อ่านไม่จบ แต่เนื่องจากเรือนจำคลองเปรมฝากหนังสือไม่ได้ สุขสันต์เลยบอกว่าอาจจะเขียนขอไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดที่อยู่แดน 9 ไม่รู้เหมือนกันจะขอได้ไหม

ปัจจุบัน (4 ธ.ค.) ไพฑูรย์และสุขสันต์ ถูกคุมขังมาแล้ว 82 วัน 

X