ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชนได้รับแจ้งคำสั่งไม่ฟ้องคดีของพนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย ในคดีของจิรโชติ ภูมิสิทธิ์พงษ์ คนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงราย กรณีจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ “คนเชียงรายไม่ทน” บริเวณสวนตุงและโคมจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการบริหารงานที่ล้มเหลวในทุกด้าน เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564
คดีนี้จิรโชติได้ถูก ร.ต.อ.ศุภกร ธนูศร แจ้งความดำเนินคดี และเขาไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 โดยถูกพนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่
- ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า 2019 ฉบับที่ 6
- ฝ่าฝืนคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ที่ 62/2564 เรื่อง การห้ามชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
- การใช้สัญญาณเสียง (บีบแตร) ผู้ขับขี่จะใช้ได้เฉพาะเมื่อจําเป็น หรือป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น
หลังจากนั้นตำรวจได้ส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 จากนั้น มีการนัดผู้ต้องหาไปรายงานตัวเดือนละครั้งเรื่อยมาจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระทั่งอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอย่างเด็ดขาดแล้ว
สำหรับคำสั่งไม่ฟ้องคดีลงวันที่ 9 ก.ย. 2565 มีเนื้อหาระบุว่า อธิบดีอัยการภาค 5 พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ต้องหาเป็นการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 30 คน ใช้รถยนต์ 15 คัน ขับไปตามถนนต่างๆ โดยมีการแสดงออกทางการเมือง ผู้เข้าร่วมและผู้ต้องหาสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่มีการรวมกลุ่มในสถานที่แออัด หรือกระทำการที่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 แต่อย่างใด ไม่มีการยุยงให้เกิดความไม่สงบหรือก่อให้เกิดเหตุรุนแรง
การกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหา ถือไม่ได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายที่ 6/2564 และที่ 62/2564 ตามข้อกล่าวหา
ในส่วนความผิดฐานการใช้สัญญาณเสียง (บีบแตร) โดยไม่มีเหตุจำเป็น อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2502 มาตรา 14 และ 148 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 500 บาท เป็นคดีที่มีอัตราโทษอยู่ในอำนาจพิจารณาของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงราย พนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายจึงไม่มีอำนาจพิจารณา
ทั้งนี้ ในข้อหาดังกล่าว พบว่าคดีมีอายุความไม่เกิน 1 ปี นับจากวันเกิดเหตุ ทำให้หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และได้ส่งสำนวนคืนกลับมายังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย แล้ว ข้อหานี้ได้หมดอายุความไป ตำรวจไม่สามารถทำการเปรียบเทียบปรับได้อีก คดีจึงสิ้นสุดลง
สำหรับจิรโชติ อายุ 60 ปี เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงราย เขาเคยประกอบอาชีพทำทัวร์และเป็นไกด์ทัวร์ หากตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา ทำให้เขาไม่มีรายได้จากงานดังกล่าว ต้องหันมาผสมดินปลูกขายแทน และรู้สึกว่าตนได้รับผลกระทบจากนโยบายการบริหารจัดการโควิดที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
ทั้งนี้ คดีนี้นับเป็นคาร์ม็อบในช่วงปี 2564 ในจังหวัดเชียงราย คดีแรกที่สิ้นสุดลง โดยยังมีคดีคาร์ม็อบของกลุ่ม “ราษฎรเชียงราย” อีกจำนวน 4 คดี ที่ยังไม่สิ้นสุด โดยกลุ่มดังกล่าวได้จัดกิจกรรมคาร์ม็อบขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 ทำให้ถูกตำรวจกล่าวหาดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหาอื่นๆ จากกิจกรรมทั้งวันที่ 18 ก.ค., 1 ส.ค., 15 ส.ค. และ 4 ก.ย. 2564 โดยทุกคดียังอยู่ในชั้นสอบสวน
ดูตาราง สถิติคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ศาลยกฟ้อง-อัยการสั่งไม่ฟ้อง
.