“ยิ่งโดน ก็ยิ่งทำให้ลุกขึ้นต่อสู้”: ผู้จัดคาร์ม็อบ “คนเชียงรายไม่ทน” 1 สิงหา คนร่วมแค่ 30 คน ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

วันที่ 20 ก.ย. 64 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย นายจิรโชติ ภูมิสิทธิ์พงษ์ คนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงราย ผู้จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ “คนเชียงรายไม่ทน” บริเวณสวนตุงและโคมจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการบริหารงานที่ล้มเหลวในทุกด้าน เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 64 ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในคดีที่มี ร.ต.อ.ศุภกร ธนูศร เป็นผู้กล่าวหา ในข้อหา “จัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาด อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”

ก่อนหน้านี้ วันที่ 6 ก.ย. 64 จิรโชติ ได้รับหมายเรียกที่ออกตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 64 โดยหมายเรียกดังกล่าวกำหนดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 7 ก.ย. 64 นายจิรโชติจึงได้ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน โดยไม่ทราบว่าเหตุอันใดหมายเรียกถึงใช้เวลากว่า 1 เดือนกว่าจะถูกส่งถึงเขา

วันนี้ นายจิรโชติและทนายความ จึงได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ ร.ต.อ.หญิง วัลลภา มูลเมือง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย คณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้ และมีกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงรายเดินทางมาให้กำลังใจ

พฤติการณ์ข้อกล่าวหาโดยสรุประบุว่า เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้รับคําสั่งผู้บังคับบัญชาให้ทําการสืบสวนกรณีเหตุการณ์ชุมนุมสาธารณะเพื่อแสดงออกเชิญสัญลักษณ์ทางการเมืองพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย เนื่องด้วยมี “กลุ่มเห็นต่างทางการเมือง” ได้นัดรวมตัวกันเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยใช้ชื่อ กลุ่ม “คนเชียงรายไม่ทน” โดยมีผู้ต้องหาเป็นแกนนำ มีการนัดหมายรวมตัวในวันที่ 1 ส.ค. 64 จากนั้นเวลา 15.00 น. พบกลุ่มมวลชนประมาณ 30 คน รถยนต์ 15 คัน ออกเดินทางขับเคลื่อนไปตามถนนพหลโยธิน และติดป้าย “คนเชียงรายไม่ทน ขับรถ กดแตร์ เปิดไฟ ไล่ตู่” เริ่มจากบริเวณสวนตุงและโคมฯ ไปตามรอบเมืองเชียงราย ก่อนจะกลับมารวมตัวที่สวนตุงและโคมฯ ก่อนกล่าวลามวลชน ยุติกิจกรรมเวลา 18.00 น.

ผู้กล่าวหาและพนักงานสอบสวนเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการ “ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า 2019 ฉบับที่ 6 ประกาศแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 7 ข้อ 3, ฝ่าฝืนคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ที่ 62/2564 เรื่อง การห้ามชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และการใช้สัญญาณเสียง (บีบแตร) ผู้ขับขี่จะใช้ได้เฉพาะเมื่อจําเป็น หรือป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น”

จิรโชติได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การในรายละเอียดต่างๆ เป็นหนังสือต่อไป พนักงานสอยสวนได้ให้เขาพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และปล่อยตัวกลับโดยไม่มีการควบคุมตัว โดยนัดมาส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการต่อไปในวันที่ 21 ต.ค. 64 เวลา 9.30 น.

สำหรับจิรโชติ ปัจจุบันอายุ 59 ปี เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงราย เขาระบุว่าเคยประกอบอาชีพทำทัวร์และเป็นไกด์ทัวร์ หากตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา ทำให้เขาไม่มีรายได้จากงานดังกล่าวอีก ต้องหันมาผสมดินปลูกขายแทน และรู้สึกว่าตนได้รับผลกระทบจากนโยบายการบริหารจัดการโควิดที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล

จิรโชติยืนยันว่ากิจกรรมที่ถูกกล่าวหานั้น มีความระมัดระวังในเรื่องการแพร่ระบาดของโรค โดยผู้เข้าร่วมแทบไม่ได้ลงจากรถ และมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในการเข้าร่วม เขาจึงยืนยันจะต่อสู้คดีนี้ต่อไป

“ถูกดำเนินคดี ก็เฉยๆ ไม่กลัว คิดว่ายิ่งโดน ก็ยิ่งทำให้อยากลุกขึ้นต่อสู้ด้วย มันเลยคำว่ากลัวไปแล้ว เห็นเด็กๆ ลูกหลานออกมาต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเขา เราก็คิดว่าจะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ก็กลัวไม่มีกินมากกว่า เพราะธุรกิจท่องเที่ยวที่เคยทำมา มันไปไม่ได้เลย เราเคยจัดทัวร์ไปต่างประเทศ เคยรับทัวร์มาเที่ยวเชียงราย แต่ตอนนี้มันกลายเป็นศูนย์หมดเลย” จิรโชติบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ถูกกล่าวหาดำเนินคดี

สำหรับคดีนี้เป็นคดีจากการจัดกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย คดีที่สามแล้ว ก่อนหน้านี้ตำรวจได้กล่าวหาแกนนำและสมาชิกของกลุ่ม “Chiangrai No เผด็จการ” จากการจัดคาร์ม็อบวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 และวันที่ 1 สิงหาคม 2564 แล้วสองคดี

.

X