ฟ้องคดีการเมืองอีก 7 คดี: คดีเยาวชนไล่ประยุทธ์ เมืองนนท์ฯ - คดีทะลุแก๊ซ - คดีทะลุฟ้าสาดสี พปชร. - คดีม็อบร้องสิทธิเยียวยาโควิด

ในช่วงวันที่ 14 – 31 ธ.ค. 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า มีคดีความทางการเมืองที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องไปถึงชั้นศาล จำนวนอย่างน้อย 7 คดี ได้แก่ คดีที่สืบเนื่องจากการที่ตำรวจกล่าวหาว่า มีผู้ปาระเบิดโดนผู้เสียหาย 3 ราย เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 ที่บริเวณถนนรัชดาฯ, คดีของศาลเยาวชนฯ สืบเนื่องจากกรณีชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564, คดีสืบเนื่องจากกรณีชุมนุม #ขอคืนไม่ได้ขอทาน เรียกร้องสิทธิเยียวยาจากโควิด เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 มีจำเลย 4 ราย นำโดย “หมอบูรณ์” หรือ บูรณ์ อารยพล

คดีความสืบเนื่องจากการชุมนุมที่ด้านหน้าของพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 มีจำเลยเป็นนักกิจกรรม 2 ราย คือ “ไดโน่” นวพล ต้นงาม และ “ต๋ง” ปนัดดา ศิริมาศกูล จากกลุ่ม #ทะลุฟ้า, คดีจากการชุมนุม #ม็อบ11กันยา ปี 2564 คำฟ้องระบุ จำเลยปาระเบิดโดนตำรวจ คฝ. เจ็บสาหัส มีจำเลย 2 ราย ศาลยังไม่ให้ประกันต่อในชั้นพิจารณาคดี, คดีสืบเนื่องจากการชุมนุม #ม็อบ6ตุลา ปี 2564 มีจำเลยเป็นชายสูงวัย 1 ราย ตำรวจอ้างว่าตรวจเจอวัตถุคล้ายระเบิดด้วยขณะจับกุม

คดีสุดท้าย สืบเนื่องจากกรณี #ม็อบ1ตุลา ปี 2564 มีจำเลย 2 ราย ถูกกล่าวหาว่า ปาระเบิดใส่อาคาร สน. พญาไท – วางเพลิงเผาป้อมจราจร ศาลให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาคดี หลังถูกขังในชั้นสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. 2564

ขอบคุณรูปประกอบจาก **Mob Data Thailand**

+++ สั่งฟ้อง “วีรวัฒน์” ถูกกล่าวหาว่ามี / ปาระเบิด เมื่อ 19 ก.ย. 64 ศาลให้ประกัน ใช้หลักประกันเดิมชั้นสอบสวน +++

14 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้มีคำสั่งฟ้อง วีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในคดีสืบเนื่องจากการถูกติดตาม ตรวจพบว่าร่วมกับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนอีกราย ครอบครองและปาระเบิด 2 ลูก อันเนื่องจากการชุมนุมทะลุแก๊ซ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ตรวจเจอเศษซากระเบิดที่ระเบิดแล้ว เขาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันทำให้ระเบิดเป็นอันตรายต่อผู้อื่น และร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมือง

หลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้องคดี ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยใช้หลักประกันเดิมที่วางในชั้นสอบสวน เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ กำหนดนัดคุ้มครองสิทธิต่อไป วันที่ 19 ม.ค. 2565

+++ อัยการศาลเยาวชนนทบุรี สั่งฟ้องนักกิจกรรมเยาวชน เหตุร่วมม็อบไล่ประยุทธ์ ท่าน้ำนนท์ฯ +++

17 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรีได้มีคำสั่งฟ้อง “ฟิวส์” พีรพล (สงวนนามสกุล) เยาวชนนักกิจกรรมทางการเมือง ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ในคดีสืบเนื่องจากเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 โดยเขาถูกกล่าวหาว่าข้อหาตามมาตรา 215 และ 216 ของประมวลกฎหมายอาญา และฝ่าฝืนข้อกำหนดเรื่องการชุมนุมของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งนี้ ในคดีนี้ยังมีจำเลยที่เป็นผู้ใหญ่ถูกดำเนินคดีด้วยอีก 20 ราย ซึ่งถูกสั่งฟ้องที่ศาลแขวงนนทบุรีไปก่อนหน้านี้

>>> คดีชุมนุมไล่ประยุทธ์ที่ท่าน้ำนนท์ รวมมีผู้ถูกดำเนินคดี 21 ราย เป็นเยาวชน 1 ราย

>>> ปลายตุลา-ต้นพฤศจิกา: สรุปคดีการเมืองถูกสั่งฟ้องอีก 10 คดี ทั้งม็อบทะลุแก๊ส – ทะลุฟ้า พบบางคดีย้อนตั้งแต่ชุมนุมปี 63

สำหรับพฤติการณ์ตามคำฟ้อง ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ขณะที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรีเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จำเลยได้เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้าน มีผู้เข้าร่วมชุมนุมราว 100 คน ผู้ร่วมชุมนุมบางรายยังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขัดขวางขบวนรถนายกฯ หรือแม้แต่ใช้น้ำปัสสาวะราดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อย

ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนได้นำตัวเขาไปตรวจสอบการจับกุมแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายควบคุมตัว

หลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว กำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งต่อไป วันที่ 8 ก.พ. 2565

+++ สั่งฟ้อง “หมอบูรณ์” พร้อมพวก 4 ราย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุชุมนุม #ขอคืนไม่ได้ขอทาน ร้องสิทธิเยียวยาโควิด +++

21 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ได้มีคำสั่งฟ้อง “หมอบูรณ์” หรือ บูรณ์ อารยพล นักกิจกรรมเพื่อสวัสดิการความเท่าเทียม และพวก รวม 3 คน ต่อศาลแขวงดุสิต ในคดีสืบเนื่องจากการชุมนุมของ “กลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน” เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 ที่บริเวณหน้าศาลกรมหลวงชุมพรฯ ถนนพระราม 5 โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ

อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ยังมีจำเลยอีกรายคือ ณพกฤษณ์ อัศวธิวากร ซึ่งถูกฟ้องจากมูลเหตุเดียวกัน แต่ทางอัยการแยกฟ้องติดตามในวันที่ 28 ธ.ค. 2564 หลังจากวันนัดฟ้องครั้งแรก เขายังไม่สะดวกมาตามนัด

>>> จับอีกรอบ สี่สมาชิก “ขอคืนไม่ได้ขอทาน” ถูกแจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องประกันตัวที่ศาล

สำหรับพฤติการณ์ตามคำฟ้อง ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 ซึ่งอยู่ในระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเลยทั้ง 4 ได้จัดการชุมนุม “ขอคืนไม่ได้ขอทาน” ที่บริเวณถนนพระราม 5 หน้าศาลกรมหลวงชุมพรฯ มีการตั้งวางเต้นท์บนทางเท้าและกางโต๊ะในช่องเดินรถ เป็นการชุมนุมในสถานการณ์โรคระบาด ทาง พ.ต.ท.ปวีร์ มั่นเมือง ได้ออกคำสั่งให้เลิกการชุมนุม แต่ทั้ง 4 ก็ยังไม่เลิก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมจำเลยทั้ง 4

ต่อมา หลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้อง ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย 4 ราย ใช้หลักประกันเดิมในชั้นสอบสวน ด้วยหลักทรัพย์รายละ 20,000 บาท จากกองทุนดาตอร์ปิโด กำหนดนัดสอบคำให้การครั้งต่อไป วันที่ 28 ก.พ. 2565

+++ ฟ้อง “ไดโน่” – “ต๋ง” #ทะลุฟ้า เหตุร่วมม็อบสาดสีหน้าพรรคพลังประชารัฐ +++

21 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ได้มีคำสั่งฟ้อง “ไดโน่ ทะลุฟ้า” นวพล ต้นงาม และ “ต๋ง ทะลุฟ้า” ปนัดดา ศิริมาศกูล ต่อศาลอาญา ในคดีสืบเนื่องจากการชุมนุมที่ด้านหน้าของพรรคพลังประชารัฐ โดยมีการทำกิจกรรมสาดสีใส่ป้ายของพรรคฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 โดยฟ้องร้องใน 4 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืนข้อกำหนดเรื่องการชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 216, และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

>>> ตร. แจ้งเพิ่มอีก 2 คดี! ‘ต๋ง ทะลุฟ้า’ กรณีสาดสี-เผาหุ่น หน้าพรรคพลังประชารัฐ และหล่อเทียนเข้าพรรษา

สำหรับพฤติการณ์ตามคำฟ้อง ระบุว่า จำเลยทั้ง 2 กับพวกอีก 3 คน (อยู่ในอำนาจพิจารณาคดีของศาลแขวง) และพวกอีก 2 คน ที่เป็นเยาวชน (แยกดำเนินคดีต่างหาก) เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2564 ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการนัดหมายการชุมนุมทางเพจของกลุ่มทะลุฟ้า เพื่อไปยื่นหนังสือให้กับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล หนึ่งในนั้นคือพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 30 ก.ค. 2564 เพื่อเรียกร้องให้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมฯ

จำเลยทั้ง 2 ร่วมกับผู้ชุมนุมอีกราว 30 คน ได้มารวมตัวกันที่ทำการของพรรคพลังประชารัฐ เป็นการชุมนุมในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้ง 2 ยังร่วมกันมั่วสุมก่อความวุ่นวายร่วมกับผู้ชุมนุม มีการปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง จำเลยที่ 1 (ไดโน่) ได้ปราศรัยชักชวนให้ผู้ชุมนุมร่วมกันปาสีใส่ป้ายของพรรคพลังประชารัฐ ทำการฝ่ารั้วเหล็กกั้นเข้าไปภายใน เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก กลับยังไม่ยอมเลิก

หลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้องแล้ว ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา กำหนดหลักประกันรายละ 35,000 บาท กำหนดนัดสอบคำให้การครั้งต่อไป วันที่ 4 ก.พ. 2565

+++ สั่งฟ้อง 2 ผู้ชุมนุม #ม็อบ11กันยา ถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดใส่ คฝ. บาดเจ็บ ศาลยังคงไม่ให้ประกัน ติดคุกต่อชั้นพิจารณา +++

24 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ได้มีคำสั่งฟ้องต่อ ไพฑูรย์ และสุขสันต์ (สงวนนามสกุล) ต่อศาลอาญา ในคดีความสืบเนื่องจากการถูกกล่าวหาว่า เป็นคนปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) จนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ในการชุมนุม #ม็อบ11กันยา64

ทั้งสองถูกกล่าวหาในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ, ร่วมกันจัดกิจกรรมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ไม่เลิกมั่วสุมเมื่อเจ้าหน้าที่บอกให้เลิก และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังหรือมีอาวุธ

>>> จับ 3 วัยรุ่น 1 เยาวชน กลุ่ม “ก็มาดิแก๊ส” โยงปาระเบิดใส่ คฝ. #ม็อบ11กันยา 2 รายถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า – ศาลไม่ให้ประกัน

สำหรับพฤติการณ์ตามคำฟ้อง ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 จำเลยทั้ง 2 กับพวกรวม 5 คน (แยกดำเนินคดีไปแล้ว) และผู้ชุมนุมรวม 100 คน ได้ชุมนุมกันที่แยกใต้ทางด่วนดินแดงในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้จำเลยและผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมมั่วสุม แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิก มีการใช้วัตถุระเบิดปาใส่เจ้าหน้าที่ แต่การกระทำไม่บรรลุผล เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา วันที่ 1 ต.ค. 2564 เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ตามหมายจับ มีการตรวจยึดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพาย หน้ากากกันสารเคมี และรถจักรยานยนต์ เมื่อนำส่งพนักงานสอบสวน ทั้ง 2 ให้การปฏิเสธ ทั้งสองคนไม่ได้รับการประกันตัวมาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน

ทางอัยการยังระบุอีกว่า ไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในชั้นพิจารณา แต่หากจำเลยรับสารภาพ ขอให้สืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพด้วย ภายหลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง ศาลยังคงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย กำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานต่อไปวันที่ 21 ก.พ. 2565

+++ สั่งฟ้องชายวัย 53 ปี ถูกกล่าวหาว่าร่วมม็อบ #ม็อบ6ตุลา64 เจ้าหน้าที่อ้างตรวจเจอระเบิดด้วย – ศาลให้ประกัน หลักทรัพย์ 35,000 บาท +++

29 ธ.ค. 64 – พนักงานอัยการฯ ได้มีคำสั่งฟ้องคดีของ สุดใจ (สงวนนามสกุล) ชายวัย 53 ปี ในคดีสืบเนื่องจากการเข้าร่วมในการชุมนุม #ม็อบ6ตุลา64 ที่บริเวณแยกดินแดงฯ ต่อศาลอาญา โดยเขาถูกกล่าวหาใน 2 ข้อหา ได้แก่ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ และฝ่าฝืนข้อกำหนดเรื่องเคอร์ฟิวของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอ้างว่า ตรวจพบว่าเขามีระเบิดแสวงเครื่อง ลูกแก้ว และระเบิดปิงปองในครอบครอง

หลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ใช้หลักประกัน 35,000 บาท กำหนดนัดสอบคำให้การไปเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ทั้งนี้ การฟ้องดังกล่าวเป็นการฟ้องในวันครบรอบยื่นคำร้องฝากครั้งผัดสุดท้าย ครั้งที่ 7

>>> #ม็อบ6ตุลา ดำเนินคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ สน.ดินแดง 34 คน ตร.ปฏิเสธไม่ให้ทนายพบกว่า 12 ชม. เยาวชน 3 ราย ไม่ได้ประกัน

+++ สั่งฟ้อง 2 ผู้ชุมนุม #ม็อบ1ตุลา64 กล่าวหาว่า ปาระเบิดใส่ สน.พญาไท – วางเพลิงป้อมจราจร ต่อมา ศาลให้ประกัน หลังถูกขังคุกในชั้นสอบสวน +++

30 ธ.ค. 2564 – พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ได้มีคำสั่งฟ้อง คเชนทร์ และ ขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล – จำเลยที่ 1 และที่ 2) ต่อศาลอาญา ในคดีความสืบเนื่องจากการถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดปิงปองและระเบิดขวดเข้าใส่อาคาร สน.พญาไท และวางเพลิงป้อมจราจรที่แยกพญาไท ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 หรือ #ม็อบ1ตุลา ต่อมาทั้งสองได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตามหมายจับของศาลอาญา

จำเลยที่ 1 ถูกกล่าวหาในข้อหาร่วมกันมี / ใช้วัตถุระเบิดในครอบครอง ซึ่งสามารถทำอันตรายต่อชีวิตและวัตถุได้ฯ, ร่วมกันมี / ใช้วัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ, ร่วมกันกระทำให้เกิดเพลิงไหม้ฯ, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายฯ, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป โดยผู้กระทำมีอาวุธฯ, ร่วมกันพกอาวุธไปในเมืองฯ, และฝ่าฝืนข้อกำหนดเรื่องเคอร์ฟิวของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ในกรณีของจำเลยที่ 2 เขายังถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเพิ่มจากจำเลยที่ 1 อีก 2 ข้อหา ได้แก่ มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ในครอบครองฯ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ เนื่องจากในขณะที่จับกุม ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าเจอวัตถุระเบิดและแก๊สน้ำตาที่จำเลยที่ 2

>>> จับวัยรุ่น 2 ราย อ้างเหตุร่วมปาระเบิดเพลิงใส่ป้อมจราจรพญาไท #ม็อบ30กันยา ก่อนศาลไม่ให้ประกัน – อุ้มหายเยาวชนหลังจับฝ่าเคอร์ฟิว ก่อนพบตัว ที่ สน.ดินแดง ตอนเช้า

คดีนี้ทั้งสองคนไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่หลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง โดยไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา ให้เหตุผลว่า จำเลยทั้ง 2 ยังมีอายุน้อย ไม่น่ามีความสามารถในการหลบหนี กำหนดหลักประกันรายละ 75,000 บาท รวมทั้งคู่ถูกคุมขังทั้งหมด 84 วัน