วันนี้ (3 ก.ย.64) ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ “ไผ่” หรือ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกัน” ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการร่วมชุมนุมปราศรัยเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในระหว่าง #ม็อบ25ตุลา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 63 ที่แยกราชประสงค์ โดยจตุภัทร์ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค 63 ที่ สน.ลุมพินี ผู้ต้องหาจากการร่วมชุมนุม #ม็อบ25ตุลา ได้แก่ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ธานี สะสม, “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ และ “แอมป์” ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ มาตรา 10 “ไม่แจ้งการชุมนุมล่วงหน้า” และฝ่าฝืนข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 13 ข้อ 1 และข้อ 5 โดยหลังจากที่ทั้ง 4 รับทราบข้อกล่าวหาและทำบันทึกประจำวันแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ก่อนที่พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี จะสรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาศาลแขวง 6 แต่พนักงานอัยการได้ตีสำนวนกลับให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 ใหม่ รวมถึงจตุภัทร์ด้วย
>>“ครูใหญ่” – “ไผ่” ถูกแจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ – พ.ร.บ.ชุมนุมฯ เหตุร่วม #ม็อบ25ตุลา สี่แยกราชประสงค์
แจ้งข้อหาเพิ่ม “ร่วมกัน” ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุม-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้ร่วมชุมนุมปราศรัยโดยไม่มีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า
บันทึกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมบรรยายว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) ลงวันที่ 21 ก.ค. 64 ให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 5 รวมถึงจตุภัทร์ใหม่ ได้แก่ “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม เพื่อการชุมนุมใดๆ ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรค อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกําหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 13 ข้อ 1 และข้อ 5”
พนักงานสอบสวนสน.ลุมพินีจึงเดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหากับจตุภัทร์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในข้อหา “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม เพื่อการชุมนุมใดๆ ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรค” อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
หลังจตุภัทร์รับทราบข้อกล่าวหาผ่านทนายความแล้ว ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 จตุภัทร์ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ตามหมายจับศาลอาญารัชดาฯ ในความผิดฐาน ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ทำให้เสียหาย หรือทำลายทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ และร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 และ 215 จากเหตุร่วมกันสาดสีหน้า สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนจะถูกแจ้งเพิ่มอีก 2 คดี ได้แก่ คดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย และคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยจตุภัทร์ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวนับตั้งแต่วันนั้น ทำให้เขาถูกคุมขัง เป็นระยะเวลา 17 วันแล้ว (ตั้งแต่ 9 ส.ค. 64)
ปัจจุบัน จตุภัทร์ถูกนำไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระหว่างถูกคุมขังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
นอกจากนี้ ทนายความยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อขอประกันตัวจตุภัทร์มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งศาลอาญาฯ มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวแต่อย่างใด โดยระบุว่า “ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” จึงทำให้จตุภัทร์ยังต้องถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางต่อไป
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ศาลไม่ให้ประกัน อานนท์-ไผ่ ยืนยัน “ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง” หลังทนายยื่นประกันครั้งที่ 3