ศาลยกคำร้องผู้ต้องขังการเมืองรวด 16 คน หลังยื่นประกันตัวชุดใหญ่ พ.ค. 68 ระบุไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง และเกรงจำเลยหลบหนี

*ข้อมูลจนถึงวันที่ 22 พ.ค. 2568

ศาลมีคำสั่งยกคำร้องประกันตัวผู้ต้องขังการเมืองที่อยู่ในระหว่างการต่อสู้คดีทั้ง 16 ราย หลังทนายความยื่นประกันตัวชุดใหญ่ไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 เพื่อยืนยันสิทธิในการประกันตัวของผู้ที่คดียังไม่ถึงที่สุด และเพื่อรำลึกเหตุการณ์เสียชีวิตระหว่างควบคุมตัวของ ‘บุ้ง’ เนติพร เมื่อปีที่ผ่านมา และรวมถึงยังยกคำร้องการประกันตัวผู้ต้องขังบางส่วนที่ทนายความได้ยื่นคำร้องไปก่อนหน้าเมื่อวันที่ 28 เม.ย. และ 8 พ.ค. 2568 

โดยสรุปแล้วการยื่นประกันตัวดังกล่าว แบ่งออกเป็นผู้ต้องขังในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 9 คน ได้แก่ อานนท์ นำภา, “อารีฟ” วีรภาพ วงษ์สมาน, “มานี” เงินตา คำแสน, “ขุนแผน” เชน ชีวอบัญชา, อัฐสิษฎ (สงวนนามสกุล), “ตรัณ” (นามสมมติ), “ก้อง” อุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล, “อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน, สถาพร (สงวนนามสกุล)

อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีอื่น ๆ ที่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมือง จำนวน 7 คน ได้แก่ “วิจิตร” (นามสมมติ), ประวิตร, ไพฑูรย์, สุขสันต์, คเชนทร์, ขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) และ “พีรพงศ์” (นามสมมติ)

ถึงแม้ว่าการยื่นประกันตัวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อยืนยันว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยที่คดียังไม่ถึงที่สุดมีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และเนื่องด้วยในโอกาสรำลึกถึง ‘บุ้ง’ เนติพร ในเหตุการณ์เสียชีวิตลงในระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำและประท้วงอดน้ำ-อาหาร ด้วยข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และจะต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก

คำสั่ง “ยกคำร้อง” ในทุกคดีเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาคือ เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โดยที่ศาลชั้นต้นส่งคำร้องไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาสั่งในแต่ละกรณี

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่าปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อย่างน้อย 27 คน โดนในจำนวนนี้เป็นคดีตามมาตรา 112 จำนวน 18 คน

อานนท์ นำภา ถูกพิพากษาจำคุกในคดีมาตรา 112 จากศาลชั้นต้นแล้ว 7 คดี และโทษในคดีต่าง ๆ ที่ยังไม่สิ้นสุด ปัจจุบันอานนท์มีโทษจำคุกรวมกัน 20 ปี 25 เดือน 20 วัน (ประมาณ 22 ปี เศษ)

ในครั้งนี้ ทนายความยื่นประกันอานนท์ในคดีมาตรา 112 เป็นจำนวน 5 คดี ได้แก่ คดีจากการปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63, คดีปราศรัยใน #ม็อบแฮรี่พอตเตอร์2, คดีโพสต์ 2 ข้อความในเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของกษัตริย์, คดี #ราษฎรสาส์น โพสต์จดหมายข้อความถึงกษัตริย์, คดีโพสต์ 3 ข้อความในเฟซบุ๊ก

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องการประกันตัวในทุกคดี โดยระบุคำสั่งไปในทิศทางเดียวกันว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

จนถึงวันนี้ (22 พ.ค. 2568) อานนท์ถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาแล้ว 605 วัน ซึ่งในโอกาสครบรอบ 1 ปีการจากไปของ “บุ้ง” เนติพร อานนท์ยังฝากจดหมายข้อความ “แด่…หนอนบุ้ง  ผีเสื้ออัปลักษณ์ในสวนคนตาบอด” 

.

“อารีฟ” วีรภาพ วงษ์สมาน ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 หลังถูกพิพากษาจำคุก 3 ปี จากกรณีพ่นสีข้อความใต้ทางด่วนดินแดง หลังทนายความยื่นประกันตัวไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยกคำร้อง ดังนี้

“พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา พฤติการณ์แห่งคดี และโทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลย ประกอบกับศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์มาแล้วหลายครั้งอันเนื่องจากเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลย ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง”

ปัจจุบันอารีฟถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง โดยเขาถูกขังมาแล้ว 603 วัน

.

“มานี” เงินตา คำแสน และ “ขุนแผน” เชน ชีวอบัญชา สองผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ที่ถูกพิพากษาจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน จากกรณีทำกิจกรรมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวทั้งสองคนเป็นครั้งที่ 5 

คำร้องถูกส่งไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ต่อมาศาลมีคำสั่งยกคำร้อง ระบุโดยสรุปว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยให้การรับสารภาพ หากปล่อยตัวชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม 

ปัจจุบันทั้งสองคนถูกขังมาแล้ว 309 วัน (นับจนถึงวันที่ 22 พ.ค. 2568) โดยมานีถูกขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนขุนแผนถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง

ชวนอ่านบันทึกเยี่ยมมานีเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของบุ้ง : “บุ้งไม่ได้จากเราไปอย่างสูญเปล่า”: “มานี” ยังคงสู้ในกรงขัง ผ่านความทรงจำต่อนักกิจกรรมผู้จากไป 

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยมขุนแผน คุกน่ากลัว เพราะมันน่าเบื่อ-ไร้อิสรภาพ แต่ใครจะขังเราได้ตลอด: ความมุ่งมั่นของ “ขุนแผน” จากดินแดนบางขวาง

.

อัฐสิษฎ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน กรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำเพจ BackArt วาดงานศิลปะจำนวน 2 ภาพ

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุโดยสรุปว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยให้การรับสารภาพ หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม 

เขาถูกขังมาแล้ว 450 วัน (นับจนถึงวันที่ 22 พ.ค. 2568) โดยปัจจุบันเขาถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง

.

“ตรัณ” (นามสมมติ) ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 หลังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากกรณีคอมเมนต์ใต้ไลฟ์สดในเพจศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ซึ่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2568 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวตรัณเป็นครั้งที่สอง 

ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้อง ระบุว่า “พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับเหตุผลตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ขอประกันแล้ว เห็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำคุก 1 ปี  6 เดือน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจำเลยอาจจะหลบหนี กรณียังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง”

ปัจจุบันตรัณถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาแล้ว 52 วัน 

.

“ก้อง” อุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 หลังถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกสองคดีในข้อหามาตรา 112 จากการโพสต์ข้อความ รวมโทษจำคุกเป็น 7 ปี 30 เดือน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2568 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวก้องเป็นครั้งที่ 8 ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้อง ระบุว่า “พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบเหตุผลตามคำร้องของผู้ขอประกันแล้ว กรณียังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง”

ปัจจุบันก้องยังถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง โดยเขาถูกขังมาแล้ว 465 วัน

.

“อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ผู้ต้องขังในชั้นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ที่ถูกพิพากษาจำคุก 8 ปี 48 เดือน จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 8 ข้อความ โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวอายเป็นครั้งที่ 3

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุคำสั่งโดยสรุปว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยให้การรับสารภาพ การกระทำของจำเลยมีลักษณะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียสู่สถาบันกษัตริย์ ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วย กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ และหากจำเป็นต้องได้รับการรักษาเฉพาะด้านหรือถ้าคงรักษาพยาบาลในเรือนจำอาการจะไม่ทุเลาดีขึ้น ทางเรือนจำชอบที่จะส่งจำเลยไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานบำบัดนอกเรือนจำได้ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม 

ปัจจุบันอายยังคงถูกขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเธอถูกขังมาแล้ว 269 วัน และเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 เธอได้ร่วมแสดงออกโดยการอดอาหารเป็นระยะเวลา 1 วัน เพื่อรำลึกในวาระครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของ “บุ้ง” เนติพร

.

สถาพร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ที่ถูกพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากการแสดงออกต่อขบวนเสด็จ โดยทนายได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นการยื่นประกันตัวครั้งที่ 3 ของสถาพรแล้ว

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุคำสั่งว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ข้อหามีอัตราโทษสูงจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง”

ปัจจุบันสถาพรถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง โดยเขาถูกขังมาแล้ว 128 วัน 

.

“วิจิตร” (นามสมมติ) ผู้ต้องขังชั้นอุทธรณ์ในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ถูกพิพากษาจำคุก 10 ปี จากกรณีโพสต์ข้อความ 10 โพสต์ ในช่วงหลังรัฐประหาร 2557 โดยในวันที่ 14 พ.ค. 2568 ทนายได้ยื่นประกันตัววิจิตรเป็นครั้งที่สาม

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุว่าโดยสรุปว่า จำเลยให้การรับสารภาพ หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

เขาถูกขังมาแล้ว 66 ​วัน โดยปัจจุบันเขาถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยมวิจิตร นิทานปลาดาวและการปรับตัวของ “วิจิตร” ผู้ต้องขังคดี พ.ร.บ.คอมฯ หลังถูกย้ายไปเรือนจำคลองเปรม

.

ประวิตร (สงวนนามสกุล) ถูกกล่าวหากรณีเผาป้อมตำรวจจราจรใต้ทางด่วนดินแดงในการชุมนุมเมื่อปี 2564 และถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 ปี 4 เดือน

ภายหลังการยื่นประกันตัวครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 10 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุโดยสรุปว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ปัจจุบันประวิตรยังคงถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม​ โดยเขาเป็นผู้ต้องขังในระหว่างต่อสู้คดีที่ถูกขังยาวนานที่สุดถึง 681 วันแล้ว 

.

ไพฑูรย์ และ สุขสันต์ (สงวนนามสกุล) ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าขว้างปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บใน #ม็อบ11กันยา64 โดยสุขสันต์ถูกพิพากษาจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน และจำคุกไพฑูรย์ 33 ปี 12 เดือน ต่อมาไพฑูรย์ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาจำคุกอีก 8 ปี ในคดีตรวจพบวัตถุระเบิดในครอบครอง 

ปัจจุบันรวมโทษจำคุกของไพฑูรย์เป็น 41 ปี 12 เดือน (หรือประมาณ 42 ปี) และโทษจำคุกของสุขสันต์คือ 22 ปี 2 เดือน 20 วัน 

ภายหลังการยื่นประกันตัวทั้งสองคนเป็นครั้งที่ 7 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยกคำร้อง คำสั่งโดยสรุประบุว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ปัจจุบันทั้งสองคนถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมมาแล้ว 617 วัน

.

คเชนทร์ และ ขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังในคดีข้อหาวางเพลิง-วัตถุระเบิด โดยศาลพิพากษาจำคุกคเชนทร์ 10 ปี 6 เดือน และจำคุกขจรศักดิ์ 11 ปี 6 เดือน ในคดีที่ถูกกล่าวหาปาระเบิดใส่อาคาร สน.พญาไท และวางเพลิงป้อมจราจรที่แยกพญาไท ในการชุมนุมเมื่อปี 2564

ภายหลังการยื่นประกันตัวครั้งที่ 7 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง ระบุโดยสรุปว่า ข้อหามีอัตราโทษสูง พฤติการณ์คดีเป็นเรื่องร้ายแรง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ปัจจุบันทั้งสองคนถูกขังมาแล้ว 647 วัน โดยคเชนทร์ถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง และขจรศักดิ์ถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม

.

“พีรพงศ์” (นามสมมติ) ผู้ต้องขังในคดีถูกกล่าวหาว่าร่วมขว้างปาวัตถุระเบิดใส่ป้อมตำรวจ บริเวณแยกอโศกมนตรีใน #ม็อบ11ตุลา64 หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี 4 เดือน 15 วัน

ต่อมาหลังทนายความยื่นประกันตัว ศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้อง โดยระบุเหตุผลว่า ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

กรณีนี้จึงเป็นผลให้พีรพงษ์ยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง จนถึงวันนี้ (22 พ.ค. 2568) เขาถูกขังมาแล้ว 126 วัน

X