วันที่ 21 พ.ค. 2568 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ทนายความเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 32 ปี ผู้ถูกคุมขังในคดีตามมาตรา 112 หลังถูกศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกในสามคดีรวมกัน 54 ปี 6 เดือน โดยทุกคดียังอยู่ในระหว่างฎีกา
บัสบาสได้รีบแจ้งข่าวว่า เขาได้เริ่มต้นอดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 32 ปีของเขา โดยเขาไม่รับประทานข้าว แต่ดื่มกาแฟ นม และน้ำ สาเหตุที่เขาได้อดอาหารในครั้งนี้ เนื่องจากเขายังต้องการร่วมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง และเขาอยากให้สังคมภายนอกได้ถกเถียงต่อการต้องมีผู้ถูกจำคุกในคดีมาตรา 112
วันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการอดอาหาร บัสบาสบอกว่าสุขภาพโดยรวมยังปกติดี เมื่อทราบเรื่องการอดอาหารของเขา เจ้าหน้าที่เรือนจำก็พยายามขอร้องไม่ให้เขาอดอาหาร แต่เขาได้เริ่มต้นอดแล้ว
บัสบาส ยังกล่าวถึงกรณีของบุ้ง ที่ในช่วงเดือนนี้ครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของเธอ เมื่อปีที่แล้ว บัสบาสก็ได้ร่วมอดอาหารในเรือนจำด้วยในช่วงเดียวกัน เขาบอกว่าแม้จะไม่ได้สนิทหรือรู้จักกันเป็นพิเศษ แต่จำได้ว่าเขาเคยเจอบุ้งในงานเสวนาหลายครั้งในกรุงเทพฯ และเขายังอยากให้สังคมสนใจเรื่องของบุ้งมากกว่านี้
เมื่อทราบว่าจะมีการไต่สวนการตายของบุ้งที่ศาลจังหวัดธัญบุรีในวันที่ 20-21 สิงหาคมนี้ บัสบาสรู้สึกว่า กว่าจะมีการไต่สวนเวลาก็ผ่านไปนานพอสมควรแล้ว
“บุ้งเป็นนักต่อสู้ เขามีชีวิตเป็นของเขาเอง มีอุดมการณ์ บุ้งใช้ชีวิตของเขาเต็มที่แล้ว การเสียชีวิตของบุ้งบอกสังคมให้รู้ว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและผู้ใหญ่โหดร้ายเกินไปกับเด็กอายุเพียง 28 ปี” บัสบาสบอก
เขายืนยันว่าหากเขาได้รับอิสรภาพ เขายังอยากมีส่วนร่วมเรียกร้องความยุติธรรมต่อการเสียชีวิตของบุ้ง และการผลักดันการปฏิรูปมาตรา 112 ต่อไป
บัสบาสยังได้พูดถึงสิ่งที่เขาคิดเสมอในระหว่างการคุมขัง ว่าปรากฎการณ์ของความอยุติธรรมเหล่านี้ได้แผ่ขยายออกไปทั่วทุกพื้นที่
“ประเทศไทยไม่ยุติธรรมหรอก แม้จะบอกว่าเป็นประชาธิปไตยมา 90 ปี แต่คนรวยก็ยังลอยนวล คนจนติดคุก เหมือนคดีบอสกระทิงแดง มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเงินมาก่อนคน ”
จากนั้น ทนายความได้พูดคุยเรื่องคดีมาตรา 112 คดีที่ 4 ของบัสบาส ที่พนักงานสอบสวนของ บก.ปอท. เตรียมที่จะส่งสำนวนให้กับอัยการ แต่พบว่าอัยการในกรุงเทพฯ ไม่รับสำนวน เรื่องจากเห็นว่าภูมิลำเนาผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ทำให้ในตอนแรกพนักงานสอบสวนจะขอตัวบัสบาสไปคุมขังที่กรุงเทพฯ เพื่อฟ้องคดีในกรุงเทพฯ แต่จากการปรึกษา บัสบาสต้องการให้เขาถูกฟ้องคดีที่เชียงราย และถูกคุมขังที่นี่ต่อไป เนื่องจากความสะดวกของครอบครัวในการเยี่ยม ทนายความจึงจะได้ทำหนังสือถึงพนักงานสอบสวน และอัยการให้ดำเนินการฟ้องคดีที่บัสบาสมีภูมิลำเนาอยู่ ซึ่งขณะนี้คือจังหวัดเชียงราย
ก่อนจากกันบัสบาสยังเล่าให้ฟังว่า เดือนนี้ เขาได้รับจดหมายจากภายนอกส่งมาให้กำลังใจเพิ่มเติมฉบับหนึ่ง จากผู้ส่งที่ไม่ใช่คนในรายชื่อที่สามารถรับการติดต่อได้ตามปกติ คาดว่าเป็นเพราะผู้ส่งเลือกส่งแบบลงทะเบียน เขาจึงแนะนำว่าหากใครต้องการส่งจดหมายมาหา ควรใช้แบบลงทะเบียน ให้มี Tracking Number น่าจะมีโอกาสมาถึงเขาได้มากกว่า
.
ทั้งนี้ ตั้งแต่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง บัสบาสได้ปฏิบัติการอดอาหารประท้วงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก เป็นการไปอดอาหารที่หน้าศาลอาญาในเดือนเมษายนปี 2564 เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวแกนนำราษฎร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกตำรวจเข้าจับกุมและดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นคดีแรก
ต่อมาหลังเริ่มถูกคุมขังในเดือนมกราคม 2567 บัสบาสได้เริ่มต้นอดอาหารในวันที่ 27 ก.พ. 2567 เพื่อร่วมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน ในช่วงนั้นเขาอดอาหารได้เป็นระยะเวลา 58 วัน ก่อนยุติการอดอาหารลงในวันที่ 24 เม.ย. 2567
.
📩 สามารถเขียนจดหมายถึงบัสบาส 📍 จ่าหน้าซอง: “ฝากถึง มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ 3 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000” หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล |
.
ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยมบ้านบัสบาส “ก็แค่ยักไหล่แล้วไปต่อ ผมยังหายใจอยู่นี่หน่า”: พาเยี่ยมบ้าน ‘บัสบาส’ ผู้ต้องโทษประวัติศาสตร์คดี ม.112
ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์บัสบาส เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112